วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เสียมก๊ก ตอน "ลิโป้ปด" อ้ายลูก3พ่อ พ่อตัว,พ่อตา,พ่อตาปลอม

 

                                                                   ตอน
"ลิโป้ปด" อ้ายลูก 2แม่ 3พ่อทรราช
                        “กูจักฆ่าเสียสักหมื่นศพขี้ข้า หากแม้นว่าเหิมเกริม" อ้ายขุนพลชอบเลีย ลิโป้ปด

        ลิโป้ (จีน: 吕布; อังกฤษ: Lü Bu; ค.ศ. 150 - 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 198)
     ยอดนักรบผู้ที่ได้ชื่อว่า แข็งแกร่งที่สุดแห่งยุคสามก๊ก หรือเป็น เทพเจ้าแห่งสงคราม มีสำนวนในสามก๊ก
กล่าวไว้ว่า“หยืนจงหลี่ปู้ หม่าจงชื่อทู่” ความหมายของประโยคนี้คือ ยอดคนต้องลิโป้ ยอดม้าต้องเซ็กเธาว์
ความแข็งแกร่งที่กลายเป็นตำนาน ในฐานะของนักรบที่เก่งที่สุดในแผ่นดินแห่งยุค แต่น่าเสียดายที่ในยุคสามก๊กนั้น
ความแข็งแกร่งในเชิงยุทธ์ เพียงอย่างเดียวไม่พอที่จะทำให้ใครคนใดเป็นใหญ่ในแผ่นดินหรือแม้แต่เอาชีวิตให้รอด
ได้ เพราะยุคนี้เป็นยุคที่ คนโง่ต้องกลายเป็นเหยื่อของคนฉลาดอย่างแท้จริงซึ่งเต็มไปด้วยเล่ห์กลโกงมากมาย 

สาเหตุนี้ ลิโป้ ยอดนักรบอันดับหนึ่งของแผ่นดิน  จึงไม่อาจที่จะบรรลุความฝันในการเป็นใหญ่ หรือแม้แต่ เพียงแค่
การจะเอาชีวิตให้รอด เขาก็ไม่อาจทำได้
                                
        ลิโป้ แม้จะเป็นคนเก่ง แต่ก็เป็นคนหยาบช้า ขาดคุณธรรม และไร้สติปัญญา เป็นคนที่เลี้ยงไว้ไม่ได้ เป็นบุคคล
ที่เตียวหุยด่าว่าเป็น"ไอ้ลูกสามพ่อ"จนกลายเป็นสำนวนที่ใช้มาจนทุกวันนี้ เนื่องจากเดิมทีรับราชการอยู่กับเต๊งหงวน
และเต๊งหงวนไว้ใจถึงกับรับเป็นบุตรบุญธรรม แต่เมื่อตั๋งโต๊ะปรารถนาจะได้ลิโป้มาอยู่กับตน ด้วยการให้เกราะทองคำ
กับ ม้าเซ็กเธาว์ เป็นสินบลกำนัล  ลิโป้ก็ยอมทรยศ เชือดคอเต็งหงวนคาห้องนอนขณะอ่านหนังสือ แล้วหิ้วศรีษะมา
สวามิภักดิ์ตั๋งโต๊ะ โดยเรียกตั๊งโต๊ะว่า "พ่อ"

         พร้อมแต่งตั้งตำแหน่งให้ลิโป้เป็น “แม่ทัพกองทหารม้ารักษาพระราชวัง”  ทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัย
นครหลวงลกเอี๋ยง
ควบตำแหน่งองครักษ์ประจำตั และรับลิโป้เป็นบุตรบุญธรรม เมื่อตั๋งโต๊ะได้ตัวลิโป้มาก็เหมือน
พยัคฆ์ติดปีกมีอำนาจอิทธิพลเพิ่มมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ไม่เกรงกลัวใครหน้าไหนอีกจึงทำการถอดหองจูเปียนออกจาก
บัลลังค์ฮ่องเต้ และตั้ง หองจูเหียบ ขึ้นเป็นฮ่องเต้แทนมีพระนามว่า “พระเจ้าเหี้ยนเต้"

        ครั้นเมื่ออ้องอุ้นใช้แผนสาวงาม(เตียวเสี้ยน) ให้ลิโป้กับตั๋งโต๊ะแตกแยกกัน และลิโป้ก็เป็นผู้สังหารตั๋งโต๊ะด้วย
มือตนเอง ด้านลิโป้เมื่อสังหารตั๋งโต๊ะเสร็จ ตนก็ไร้หลักยึด ต้องหลบหนีไปพึ่งพาผู้อื่น ซึ่งก็คือ เล่าปี่  แต่ลิโป้ก็ไม่ได้
เชื่องกับเล่าปี่ และเป็นที่ระแวงเสมอ ขณะที่เล่าปี่รบกับโจโฉก็มีลิโป้อยู่ที่เมืองเสียวพ่ายเป็นหอกข้างแคร่ไว้ใจไม่ได้

กระทั่งชะนวนเหตุประทุ เมื่อโจป้าพ่อตาลิโป้ถูกเตียวหุยบังคับให้ดื่มเหล้า ทั้งที่มีคำสั่งห้ามไว้แล้ว โจป้าก็อ้างว่าไม่
เห็นแก่ข้าก็เห็นแก่บุตรเขยข้า คือ ลิโป้ แต่โจป้าอ้างผิดคน เพราะ เตียวหุยเกลียดลิโป้จับใจ จึงสั่งเฆี่ยนเป็นอันมาก
ให้โจป้าโซเซไปฟ้อง ลิโป้ และ ยึดเมืองซีจิ๋ว จากเตียวหุยได้ในเวลาอันสั้น

แต่ไม่ช้าการต่อสู้ยืดเยื้อยาวนาน ลิโป้ก็จบด้วยความพ่ายแพ้ของกลอุบาย ลิโป้ถูกจับได้โดยโจโฉและเล่าปี่ โจโฉเดิม
ทีจะไว้ชีวิตเพราะเห็นในฝีมือ และลิโป้ก็ได้ขอร้อง ให้เล่าปี่ช่วยพูด ทว่าเล่าปี่กลับไม่เล่นด้วย เตือนสติโจโฉว่า
ท่านอยากเป็นอย่างเต็งหงวนและตั๋งโต๊ะรึไง
หมายความว่าคนคนนี้จะกลายเป็นอาวุธของศัตรูได้ง่ายๆ ถ้าผลประโยชน์เหนือกว่า

                 


   
        ในประวัติ “เสียมก๊ก” ได้บันทึกไว้ถึง ขุนพลแก้วของ "พระมหาเล่าเสี้ยน เงี่ยน ง๊กก๊ก"
เป็นจอมยุทธ์ฝี กวนไร้ทวนทาน นิสัยสันดาน เป็นยิ่งกว่าพระเอก

        ลิโป้ปด สมัย “เสียมก๊ก” เป็นแฝดคนละฝา ทว่าสันดานเดียวกับ ลิโป้ แห่ง ยุคสามก๊ก
(อังกฤษ: Three Kingdoms Period; จีนตัวเต็ม: 三國) หากแต่เกิดต่างยุคกว่า สองพันปี

        ลิโป้ปด ไต่เต้ามาจากทหาร หน่วยวิฬาล่าสวาท กองธงเหลืองในพระพันปีหลวง เป็นทหารคนสนิทแนบแน่น
ที่ได้รับความไว้วางใจเข้านอกออกใน ได้ทุกที่ทุกเวลา มีหน้าที่ตรวจตราบนขาหยั่งทั้งภายนอกแลภายใน คูหาสวรรค์
พระพันปี
เรียกได้ว่า พิทักษ์สารพันยันมดลูก... อะจึ้ยยย แข็งเข้มเชียว เจี๋ยวว๊อยย

        ลิโป้ปด ได้รับความโปรดปราน ด้วยเพราะท่วงทีท่าทางที่กร้าวแข็งแข็งเป๊ก สมมาดชายชาติทหาร
นัยน์ตาเสีย จมูกชื้น ปากยาวเห่าดัง
เป็นที่เข้าตาสมใจอยาก พระพันปียิ่งนัก ยิ่งถ้านับเอาความยาวแลสากของด้ามหอกใบลิ้น มาพิจารณาด้วยแล้วนั้น ยาก
ยิ่งสุดจักพรรณนากล่าวได้หมด ดังสมญานามว่า“ปากหมา ชิวหาพาฝัน แม้หอกเล็กสั้นทว่าดันมีปวด”จึ่งได้รับการ
ปูนบำเหน็จอวยยศแบบหักหอกด้ามยาวทั้งกองทัพ ขึ้นสู่จุดสุดยอดในตำแหน่งหน้าที่ ชนิดที่ เสียวแบบไม่ต้องเสี่ยง

        ด้วยการต่างตอบแทนทุกท่วงท่าท่วงที เสมือนเลี้ยงหมาดี ไว้เห่าประจบ นับแต่บัดนั้นภายในกำแพงเมือง ง๊กก๊ก
จึงอึกทึกไปด้วยเสียงเห่าให้ขรม ทุกวันเวลา ของลิโป๊ปด ขุนพลใหญ่แม่ทัพ แคว้นง๊ก ในตำแหน่ง องครักษ์ผู้พิทักษ์
มหานคร
จนถึงมีการป่าวประกาศด้วยเสียงอันดังฟังชัดว่า

“กูจักฆ่าเสียสักหมื่นศพขี้ข้า หากแม้นว่าเหิมเกริม
มิยอมยอบหมอบกราน แลยืนตัวตรงในโรงงิ้วหลวง”

โธ่ อ้ายแม่เยอะ อ้ายลูก ๓ พ่อ
 พ่อตัว, พ่อตา, พ่อตาปลอม (พ่อของเมียเก็บอีกคน) 
อ้ายขุนพลชอบเลีย อ้ายเชี้ยเอ้ย … ปวงประชาต่างแซ่ซร้องสรรเสริญกันอึงมี่


                         

        มนุษย์กำหนด ฤาจักสู้ ฟ้าลิขิต
ชะตามนุษย์ย่อมมีขึ้นและมีลง ฉันใดก็ฉันนั้นแล
อยู่ดีดียามดวงหม่นหมอง เหมือนว่าวตกลงจากฟากฟ้า แม้นว่าจะประคองกำชัก กำชัก ชักผ่อน ผ่อนชัก
สักเพียงใด ว่าวมันก็แตก (น่าจะใช้คำผิด..ผู้แปล) เอ้อ...  ตกแตก
จิ้งจกร้องทัก ยังต้องฟัง
ชัดช้า นี่กระไร ...เหี้ยตัวใหญ่ ดันตกลงมาจากฟ้าที่ตรงหน้า ... ตัวหนึ่งก็แล้ว  สองตัวก็แล้ว 
... ยามดวงตก ความเหี้ยก็มาเยือนโดยมิได้นัดหมาย ติดๆกัน 3 ตัวซ้อน

ไอ๊หย๋า.. เง๊กเซียงฮ่วงตี้ ช่วยล่วย......
ซึ่งก็เป็นไปดัง คำสรรเสริญของปวงประชาราษฎร์ ทุกประการ
“อ้ายขุนพลชอบเลีย อ้ายเหี้ยเอ้ย”

                 

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไอ้ลิโป้ปดนี่มันเป็นใครนะ ที่ตาเหล่ๆเปล่า