วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2554

สารวัตรจ๊าบ ซีโฟว์ วีรบุรุษกู้ชาติ



  ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ .. เท่ากับเธอทำตัวของเธอเอง  

ขอจงทรงพระเจริญพระเจ้าข้า .. ในพระมหากรุณาธิคุณ

  วันที่ 14 ตุลาคม พศ. 2551 เป็นวันพระราชทานเพลิงศพกรณีพิเศษแก่ พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี


สารวัตรจ๊าบ วีรบุรุษคาร์บอมส์กู้ชาติ

   และเมื่อ 39 ปีที่แล้ว วันเดียวกันนี้ 14 ตุลาคม พศ. 2512 คือวันเกิดของวีรบุรุษจ๊าบซีโฟว์




‘พ.ต.ท.เมธี’ วีรบุรุษกู้ชาติ
       
แด่      ดวงวิญญาณผู้หาญกล้า
วีร       กรรมล้ำหล้าแหล่งสยาม
บุรุษ    ผู้กู้ชาติประกาศนาม
ตำรวจ ดีเด่นท่ามทรามสังคม
น้ำดี     ร่วมรวมใจไล่น้ำเน่า
เมธี      เท่าทันทักษิณสู้ศึกสม
ชาติ     จึงยังหยัดอยู่อย่างอุดม
มนตรี   กลมเกลียวราษฎร์สืบชาติไทย
       
 ภู-ติ-รัก
๑๐-๑๐-๕๑


   

   

   

    
As PPT readers would probably know, back in the days of the People’s Alliance for Democracy
demonstrations, the queen showed her support for PAD several times.

For example, as reported in The Nation, following the 7 October 2008 demonstration and the
use of tear gas, where explosions caused injuries and one death, she was reported:
HM the Queen is very worried that the incident happened and that many people
were injured during the incident…. She donated “Bt100,000 to Vachira Hospital where
many injured [PAD] protesters were treated.” Further, the “Royal Household Bureau informed
the hospital to foot the bills of the injured protesters with the bureau.” Following this, she and
Princess Chulabhorn made a remarkably clear political statement when, according to
Asia Times they “presided over the funeral service of a PAD protester who was killed during the
October 7 melee. According to the local press, the queen told the female victim’s parents
that she had died a “protector” of the monarchy.”

Now Prachatai (12 August 2009: “Artist reborn”) adds to this by reporting the queen’s meeting
with “[a]n artist who lost his right hand during the clash … on Oct 7. He was granted an audience
with HM the Queen to offer portraits of her, which Her Majesty praised as ‘very good’.”

Readers might consider this a simple act or royal benevolence, but it is also a continuation of her
support for yellow shirts and comes when the queen gets huge publicity at the time of her birthday,
which is a national holiday, and every free-to-air television channel saturates the airways with her
speech and images.    Her speech this year revolved around the king’s health and maintaining the
monarchy’s image as being charitable and caring. She also made a call for national unity, a call she
and the king regularly make.

                 The political significance of the artist’s visit to the queen was claimed by PAD leader
Sondhi Limthongkul
(see Prachatai, 12 August 2009: “Sondhi slams Suthep as ungrateful and closely tied to Thaksin”).

แปลไทย : http://liberalthai.wordpress.com "the-queen-and-pad"



   
   

"บิดาคาร์บอมส์ของประเทศไทย"  ท่านสละชีวิตอย่างองอาจ ได้รับการสดุดีอย่างสมเกียรติยศ
ชาติตระกูล ในงานพระราชทานเพลิงศพ ได้รับเกียรติจากชนชั้นนำของประเทศ มาเคารพร่าง "วีรบุรุษ" ทั้ง
นายกรัฐมนตรีของประเทศ, ประธานปรองดองสมานฉันท์แห่งชาติ, ผู้นำองค์กรกู้ชาติและปกป้อง
สถาบันพระมหากษัตริย์,  รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ผู้กำกับ ศ.อ.ฉ.   (ตำแหน่งปัจจุบัน 2553)

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, นายอานันท์ ปันยารชุน, นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายสุเทพ เทือกสุบรรณ, บุคคล
ในคณะรัฐบาล รวมทั้งบรรดาแกนนำ พธม. และ องค์กร เอ็น.จี.โอ.

ฉะนั้น ใครที่จะปฏิบัติการ คาร์บอมส์ ครั้งต่อๆไป ต้องศึกษาแนวทางของท่าน "วีรบุรุษจ๊าบซีโฟร์"
เป็นตัวอย่างครับ

"คาร์บอมส์กู้ชาติ"

รายการ โกหกประเทศไทย
รายการรู้ทันประเทศไทย ออกอากาศทาง เอเอสทีวี-ทีวีของประชาชน วันจันทร์ถึงศุกร์ เวลา 18.30-20.00 น.
สำหรับวันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม 2552 โดยมี ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง และนายสันติสุข มะโรงศรี ดำเนินรายการ
โดยได้รับเกียรติจาก นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่

   "สมศักดิ์" มั่นใจ "สารวัตรจ๊าบ" ไม่พกระเบิดเข้าร่วมชุมนุมแน่ เชื่อเหตุรถจี๊ประเบิดเพราะมีคนยิงM79 หรือ
แก๊สนำตาใส่ ขณะที่ "ป้าสำเนียง" ยืนยัน "สารวัตรจ๊าบ" เข้ากรุงเทพฯ ด้วยรถทัวร์ พร้อมกันตน ไม่ได้ขับรถขนระเบิดมา
ส่วน ภรรยาสารวัตรจ๊าบ ระบุไม่เสียใจที่สามีเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ หากย้อนเวลาได้ก็ไม่คิดห้าม


 ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงเหตุการณ์ก่อนการระเบิด
ตั้งแต่ วีรบุรุษจ๊าบซีโฟว์ขับรถจิ๊ปเชอโรกีมาหาที่จอด และเกิดการระเบิด
ดูกันให้ชัดๆว่าถูกยิงด้วย M-79 (เครื่องยิงลูกระเบิด40มม.) หรือไม่



ตร.ชี้สารวัตรจ๊าบตาย เพราะแรงระเบิดในรถ และพบสารซีโฟว์



ตร.ชี้สารวัตรจ๊าบตายเพราะแรงระเบิดในรถ พ.ต.ท.เมธี นั้น สภาพศพ กระจัดกระจายไปไกล บางชิ้นส่วน
ไปไกลถึง 21 เมตร พ.ต.อ.ธวัชชัย เมฆประเสริฐ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ที่ตรวจสภาพที่เกิดเหตุพบว่า
สภาพความเสียหายของรถและศพ เชื่อว่าเกิดจากการระเบิดภายในรถ บริเวณเบาะหลังด้านซ้าย เป็นการ
ระเบิดของวัตถุระเบิดที่อยู่ภายในรถจี๊ปเชโรกี

ตร. ชี้สารวัตรจ๊าบ ซีโฟว์ เสียชีวิต เพราะระเบิดซีโฟว์ในรถเชอโรกี



   ... พฤกสพกาษร                  อีกกุญชรอันปลดปลง 
ทนโทเสน่งคง                  สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย                 มลายสิ้นทั้งอินทรี 
สถิตทั่วแต่ชั่วดี                 ประดับไว้ในโลกา ...

  

   ** ขออภัยเจ้าของร่าง ที่ต้องนำตวามจริงมาเปิดเผย อย่างไม่ปิดบังอำพราง

loading
                 

                 

             





โบว์ปิงปอง วีรสตรีกู้ชาติ


  ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ .. เท่ากับเธอทำตัวของเธอเอง 

 ก้อน ..?.. ก้อนนั้น ในมือเธอ
     ขอจงทรงพระเจริญพระเจ้าข้า .. ในพระมหากรุณาธิคุณ

สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี
  เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพ น.ส.อังขณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือ น้องโบว์ วันที่ 13 ตุลาคม 2551
  ณ.วัดศรีประวัติ 
จ.นนทบุรี  .............. ซึ่งได้สร้างความปลื้มปีติให้กับครอบครัวระดับปัญญาวุฒิเป็นอย่างมาก

  

โบว์ปิงปอง วีรสตรี ผู้ได้รับพระราชทานเพลิงศพอย่างสมเกียรติยศ
    ภาพสุดท้ายในที่เกิดเหตุ(เสียชีวิตคาที่) เธอตายอย่างผู้เสียสละ
    ในขณะปฏิบัติหน้าที่กู้ชาติ ซึ่งนำโดย ท่านสนธิ ลิ้ม นักกู้แบงค์
   
                       สภาพที่พบหลังเหตุการณ์ชุลมุล ของ น.ส.อังคณา ระดับปัญญา หรือ น้องโบว์
                       กรณีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
พธม.(เสื้อเหลือง)บุกปิดล้อมรัฐสภา
                       และ
บชน. ในเย็นวันที่ 7 ตุลาคม 2551  ซึ่งมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ ตร.ปราบจราจล 
                    

              


    บทสัมภาษณ์พ่อน้องโบว์ ชุดนี้ทำทันทีหลังเหตุการณ์ไม่เกิน 1 วัน
ผู้ให้สัมภาษณ์น่าจะมีความแม่นยำเพราะเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้น
  ชัดเจนที่คุณแม่น้องโบว์เล่าว่า "โดนแก๊สน้ำตา" และหลังจากนั้นพบว่าน้องโบว์เสียชีวิต แต่ตอน
  ที่ให้สัมภาษณ์นี้คุณพ่อน้องโบว์ยังไม่คิดว่าแก๊สน้ำตาจะรุนแรงถึงขนาดทำให้เสียชีวิตจึงคิดว่า มี
  การใช้อาวุธอื่นๆ ที่มีอำนาจร้ายแรงนอกจากแก๊สน้ำตา..คำต่อคำ: พ่อน้องโบว์ 
                            รายงานพิเศษของ "คมชัดลึก" วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2551 15:58:00


ผู้สื่อข่าว     ทราบข่าว น้องโบว์ เสียชีวิตตอนกี่โมง
พ่อน้องโบว์ กล่าวว่า ประมาณทุ่มเศษ ๆ

ผู้สื่อข่าว    ใครเป็นคนแจ้งให้ทราบ
พ่อน้องโบว์ กล่าวว่า คุณแม่ของเขา คุณแม่เขาขอรถจากที่พาแม่เขาไปส่งที่โรงพยาบาลศิริราช เพราะ
คุณแม่ของเขาก็บาดเจ็บ

ผู้สื่อข่าว    ช่วยเล่าให้ฟังหน่อย เพราะตามข่าวบอกว่า คุณพ่อพาน้องโบว์,น้องสาว และคุณแม่ ไปส่งที่
ชุมนุม
พ่อน้องโบว์ กล่าวว่า ใช่ครับ   ผมพาไปที่หลังทำเนียบรัฐบาล   แล้วเค้าก็เดินไป เพราะ ปกติเขาก็อยู่ใน
ทำเนียบรัฐบาล และพอวันนี้(7ต.ค.) เขาเกิดไป ผมก็นึกว่า เขาจะอยู่ในทำเนียบฯ เราก็ไม่ได้
ไปห้ามปรามอะไรเขา ทีนี้เขานึกว่าไม่มีอะไร เขาก็เดินไปที่ลานพระบรมรูปทรงม้า คุณแม่เขา
เล่าให้ฟังว่าโดนแก๊สน้ำตา แล้วคุณแม่ก็ลงไปทับลูก คุณแม่ก็คิดว่า ลูกไม่เป็นอะไร  ก็เอาตัว
ป้องกันไว้ ปรากฎว่าแม่เขาจับไปนึกว่ามือหลุดไป แต่จริงๆมันไม่ใช่ มันโดนสะเก็ดระเบิดหรือ
ระเบิด ด้านซ้ายของสีข้าง เนื้อมันแหวะไปเลย

ผู้สื่อข่าว    มันคือสะเก็ดจากแก๊สน้ำตาหรือเปล่า
พ่อน้องโบว์ กล่าวว่า มันไม่ใช่แก๊สน้ำตา เพราะลูกสาวคนเล็กของผมก็โดนสะเก็ดระเบิด โดนที่มือและขา
ผมถามหน่อยว่า ถ้าเป็นสะเก็ดแก๊สน้ำตา มันจะเป็นถึงขนาดนั้นหรือ ผมขอถามหน่อยมันจะมี
ระเบิดถึงโดนสีข้างคนให้ถึงกับตายได้เลยหรือ มันเป็นอย่างนั้นเลยหรือครับ ผมไปดูศพของ
ลูกสาวเองเลย ผมบอกว่าผมขอดูหน่อยมันเป็นอย่างงัย โดนสีข้างด้านซ้ายใกล้หัวใจเหมือน
กัน แผลใหญ่พอสมควร

ผู้สื่อข่าว    พอเกิดเหตุคุณแม่ก็ส่งน้องโบว์ไปที่โรงพยาบาลเลยหรือเปล่า
พ่อน้องโบว์ กล่าวว่าคุณแม่ไม่ได้ส่งคุณแม่ไปอีกทางหนึ่ง น้องโบว์ไปอีกทางหนึ่ง คุณแม่เขาไปที่ศิริราช
น้องโบว์ไปที่โรงพยาบาลรามา ผมตามหาตั้งเป็นชั่วโมงๆ น้องสาวไปที่โรงพยาบาลราชวิถี
ผู้สื่อข่าว     น้องโบว์ไปถึงโรงพยาบาลยังมีสติอยู่หรือไม่
พ่อน้องโบว์ กล่าวว่าคงจะเสียชีวิตก่อนแล้ว ผมก็ไม่ทราบตรงนี้เพราะโรงพยาบาลไม่ได้แจ้งผมตรงนี้เลย

ผู้สื่อข่าว     ตอนที่คุณจินดาไปส่งภรรยาและลูก ตอนนั้นกี่โมง
พ่อน้องโบว์ กล่าวว่าประมาณ 6โมงกว่าๆนิดหน่อย เขาคงคิดว่าไม่มีอะไรแล้วเขาถึงเดินไปที่หน้า บช.น.

         

         



      Political Prisoners in Thailand


As PPT readers would probably know, back in the days of the People’s Alliance for Democracy
demonstrations, the queen showed her support for PAD several times.

For example, as reported in The Nation, following the 7 October 2008 demonstration and the
use of tear gas, where explosions caused injuries and one death, she was reported:
HM the Queen is very worried that the incident happened and that many people
were injured during the incident…. She donated “Bt100,000 to Vachira Hospital where
many injured [PAD] protesters were treated.” Further, the “Royal Household Bureau informed
the hospital to foot the bills of the injured protesters with the bureau.” Following this, she and
Princess Chulabhorn made a remarkably clear political statement when, according to
Asia Times they “presided over the funeral service of a PAD protester who was killed during the
October 7 melee. According to the local press, the queen told the female victim’s parents
that she had died a “protector” of the monarchy.”

Now Prachatai (12 August 2009: “Artist reborn”) adds to this by reporting the queen’s meeting
with “[a]n artist who lost his right hand during the clash … on Oct 7. He was granted an audience
with HM the Queen to offer portraits of her, which Her Majesty praised as ‘very good’.”

       




                         ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ
       เท่ากับลูกระเบิดปิงปองในกระเป๋าของเธอเอง
       ให้เธอคิดเอาเอง ว่าชีวิตของเธอเป็นของใคร

    ผศ.พล.อ.ต.นพ.วิชาญ เปรี้ยวนิ่ม หัวหน้าหน่วยนิติเวช ภาควิชาพยาธิวิทยา รพ.รามาธิบดี เปิด
เผยเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ถึงผลชันสูตรศพ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ อายุ 27ปี ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุ
การณ์ปะทะบริเวณหน้าลานพระบรมรูปทรงม้าว่า พบมีบาดแผลขนาดใหญ่ บริเวณหน้าอกซ้ายต่อเนื่อง
ถึงแขนซ้าย เนื้อบริเวณหน้าอกฉีกขาดหลุดออกมาเป็นชิ้นจนเห็นซี่โครงและทำให้กระดูกแขนข้างซ้าย
หัก ภายในพบว่า มีเลือดออกในช่องเยื่อหุ้มปอดซ้าย ปอดฟกช้ำจนทะลุและหัวใจได้รับแรงกระแทกจน
ทะลุเช่นกัน  

สาเหตุการเสียชีวิต เกิดจาก หัวใจทะลุ  และเลือดออกในช่องปอด ลักษณะของบาดแผลเกิดจากถูก
ของแข็งที่มีความร้อน เข้าปะทะด้วยความเร็วสูง

ความเร็วและความแรงเปรียบเทียบได้เท่ากับแรงกระแทกของการตกตึก 3 ชั้น และ ยังพบคราบเขม่า
รวมทั้งรอยไหม้ทั่วร่างกาย โดยได้ส่งคราบเขม่าบนชุดชั้นใน ให้กับพนักงานสอบสวนส่งตรวจที่ กอง
พิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อระบุชนิดของวัตถุระเบิดต่อไป
             เชื่อว่าแผลฉีกขาดในระดับนี้ รุนแรงเกินไปที่จะเกิดจากแก๊สน้ำตา     
   
                

 ภาพชันสูตรศพ โบว์ปิงปอง ทราบผลดังที่รู้กันโดยทั่วไป


 


 

ตร.ชี้พบสารซีโฟว์ที่เสื้อน้องโบว์เด็กดี วีรสตรีกู้ชาติ



ตร.ชี้พบสารซีโฟว์ที่เสื้อโบว์ ผลการตรวจวิเคราะห์ของ พล.อ.ต.วิชาญ เปี้ยวนิ่ม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ที่ชันสูตรศพ น.ส.อังคณา พบว่าเสื้อใน เสื้อยืดที่สวมใส่มีรอยเขม่าดำติด ทราบต่อมาว่าเป็นสารซีโฟร์

ขณะที่ฝ่ายสรรพาวุธ สำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยันว่า กระสุนแก๊สน้ำตาที่ สตช.นำมาใช้ในราชการ
ทุกชนิด ไม่มีส่วนประกอบของสารซีโฟร์ จึงสรุปได้ว่า บาดแผลที่ทำให้เสียชีวิตน่าเกิดจากแรงระเบิด
แต่เนื่องจากเสื้อมีสารซีโฟร์ติดอยู่ จึงสรุปว่า  ระเบิดที่ทำให้น.ส.อังคณาเสียชีวิต  เป็นระเบิดที่มี
ส่วนประกอบซีโฟร์ ไม่ใช่กระสุนแก๊สน้ำตา
 


ตร. ชี้พบสารซีโฟว์จากเสื้อโบว์ ที่สวมใส่ และไม่ได้มาจากแก๊สน้ำตา ตามที่มีคนมั่วและพยายามกล่าว
หาตั้งแต่แรก


**ปล. ถึงว่าไม่ยอมให้มีการเปิดเผยผลการสอบสวนเมื่อวันที่ 7 ตุลา เพราะเหตุนี้หรือเปล่าครับ
          หากเปิดเผยออกไป จะมีคนที่หน้าแตกจำนวนมากครับ
 
   

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 เวลา 21:20:49 น. มติชนออนไลน์
พิสูจน์หลักฐานตร.สรุปผลตรวจ เสื้อ "น้องโบว์" มีสาร "ซีโฟร์" ไม่มีอยู่ในระเบิด "แก๊สน้ำตา" 7ตุลา51

กองพิสูจน์หลักฐาน สรุป เสื้อยืด-เสื้อชั้นใน"โบว์" เหยื่อพันธมิตรฯ พบสารเคมี"ซีโฟร์"เผยแก๊สน้ำตาไม่มี
สารชนิดนี้ ส่วนกางเกงติดสารประกอบวัตถุระเบิดอาร์ดีเอ็กซ์ ซึ่งพบอยู่ในผู้บาดเจ็บรายอื่นด้วย

รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แจ้งเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ว่า กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) ได้
สรุปผลการตรวจพิสูจน์วัตถุพยานที่พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้ส่งมาให้ตรวจพิสูจน์ ซึ่งเป็นเสื้อผ้าของ
น.ส.อังคณา ระดับปัญญา หรือน้องโบว์ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ วันที่ 7ตุลาคม2551 ประกอบด้วยเสื้อยืด
สีเหลือง1ตัว เสื้อชั้นในสีครีมสภาพฉีกขาด1ตัว กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงินสภาพฉีกขาด1ตัว เพื่อตรวจพิสูจน์
ว่ามีสารเคมีที่เป็นส่วนประกอบของวัตถุระเบิดติดอยู่ที่ วัตถุของกลางทั้งหมดนี้หรือไม่ ทั้งนี้ พฐ. ตรวจพบ
วัตถุ
ทรงกลมที่เหลือจากการระเบิดไม่สมบูรณ์บริเวณรอยไหม้สีดำของ เสื้อชั้นในและเสื้อยืดของ น.ส.อังคณา
 

รายงานข่าวแจ้งว่า วัตถุทรงกลมดังกล่าว พ.ต.ท.สมภพ พุฒศรี นักวิทยาศาสตร์ สบ.3 กลุ่มงานตรวจเคมี
ฟิสิกส์ และชีววิทยา กองพิสูจน์หลักฐานได้ทำการตรวจพิสูจน์ ด้วยวิธีการตรวจทางกายภาพ ตรวจทางเคมีใช้
เครื่องมือวิทยาศาสตร์ ใช้ไอออนสแกนในการตรวจหากลุ่มวัตถุระเบิดเบื้องต้นโดยใช้  เครื่อง FTIR,GC-MS,
XRF ได้ผลว่า ตรวจพบสารเคมีที่เป็นวัตถุระเบิดชนิดซีโฟร์ (C-4) ติดอยู่ที่เสื้อยืดสีเหลืองและเสื้อชั้นในสีครีม
ที่ส่งมาตรวจ และตรวจพบสารเคมีชนิด RDX ซึ่งเป็นสารประกอบวัตถุระเบิดติดอยู่ที่กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน
ส่วนแก๊สน้ำตาทั้งชนิดยิง และชนิดขว้าง ที่ สตช.มีใช้ จะมี RDX เป็นส่วนประกอบเท่านั้น ไม่มีสารซีโฟร์
นอกจากนี้ วัตถุพยานที่ได้จากผู้บาดเจ็บรายอื่น ก็ตรวจพบเฉพาะสาร RDX เท่านั้น

   ** ขออภัยเจ้าของร่าง ที่ต้องนำตวามจริงมาเปิดเผย อย่างไม่ปิดบังอำพราง









ตำรวจอธิบายลักษณะบาดแผลน้องโบว์ 2.9Mb
http://www.mediafire.com/?ttylndiq21t

หมอรามาระบุการเสียชีวิตโบว์ว่าโดนระเบิดปิงปอง 6.72Mb
http://www.mediafire.com/?tgwyyr2ditn
http://www.megaupload.com/?d=11MX0IY5

น้องสาวโบว์ ให้สัมภาษณ์TNN ในงานศพ 10.53Mb
http://www.mediafire.com/?zwof3ntdtkm

credit : คุณ rasputin555

   

เชิงอรรถ 1
วินาทีชีวิตของน้องโบว์ อังคณา รักปัญญาวุฒิ จากปากคำพยาบาลอาสา...
http://chatkool06.spaces.live.com/blog/ ... 3922.entry

คำบอกเล่าของคนที่อยู่ใกล้น้องโบว์ก่อนเสียชีวิต

คุณจเด็จ ขึ้นพูดบนเวทีพันธมิตรเวลาประมาณ 10.40 น. วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม 2551

เขามาเป็นพยาบาลอาสา เดินกลับมาจากรัฐสภา กับชุดแพทย์แกนนำให้กลับ เพราะมันมืด กลัวได้รับ
อันตราย ผ่านหน้าลานพระรูป  เห็นตำรวจกำลังยิงแก๊สน้ำตา คนวิ่งหนีกันกระจาย   แต่เห็น แม่กับน้อง
นอนกอดกันอยู่ หน้า บชน. กอดกันนิ่งมากเหมือนตายแล้ว

เขายืนดูและพยายามกันคนที่ยังอยู่แถวนั้นออกจากรัศมีแก๊สน้ำตาที่ตำรวจยังยิงออกมาจาก บชน. อย่าง
ไม่หยุดยั้ง รัวทีละ 3 ลูก ขึ้นฟ้า 1 ลูก อีก 2 ลูกยิงเข้าพวกเราตลอดไม่มีหยุด

จนคนวิ่งหนีกันไปได้หมด เหลือเพียงผู้หญิง 3 คน นอนอยู่ 2 คือแม่ที่นอนกอดน้องโบว์อยู่ และอีกคน
เป็นผู้หญิงนอนตรงทางโค้งไปพลับพลา 1 คน แม่น้องโบว์นอนนิ่งมาก จนน่าตกใจคิดว่าตายแล้วทั้งคู่
ท่ามกลางหมอกแก๊สน้ำตา

สักพักเห็นแม่เค้าเงยหัว จึงเห็นว่ายังมีชีวิต แล้วเรียกคุณจะเด็ดว่า  “ช่วยลูกฉันด้วยๆ”

คุณจเด็จเห็นแม่นิ้วขาด เห็นร่างน้องหักหมดแล้ว เห็นมันเปลวหลุดจากร่าง แถวสะโพกก็เป็นเปลวมัน
เขารู้แล้วว่า ........ ?

แต่สงสารใจแม่ จึงเอามือช้อนไปที่ใต้ลำตัว แต่มือไม่ถูกลำตัว มือเขาหายเข้าไปในตัวน้องโบว์เลย ตา
เขาโดนแก๊สน้ำตา แม้มองไม่ค่อยเห็น แต่สัมผัสได้ด้วยความรู้สึกไม่ใช่แล้วจึงถอดใจชักมือออก บอกว่า

“ป้าครับเราต้องออกไปก่อน เดี๋ยวค่อยไปพาคนมาช่วย”

ขณะนั้น คุณจเด็จ คิดว่าความยิ่งใหญ่ความรักของแม่ น่าจะรู้นะ ว่าลูกเป็นอะไร แต่ก็ยังไม่ยอมทิ้งลูก จึง
พาคุณแม่ออกมา ส่งต่อไปให้ทีมพยาบาล คุณจเด็จบอกว่า จากนั้นผมก็สติแตกไปเลย

แต่ยังนึกในใจว่าตรงนั้นมีคนตาย กลัวศพหาย จึงไปยืนเฝ้าดูมีกระบะ แครี่บอย 1 คันเป็นพันธมิตรพวกเรา
ขับเข้าไปแต่ตำรวจวิ่งออกมาโยกรถ ตีรถ ตีๆๆๆ จนไฟเลี้ยวแตกคนขับเลยต้องหนีไป

ศพเปล่าๆ ของเด็กสาวคนหนึ่ง มันจะยังไม่ให้เอากลับไป แต่ทันใดนั้น มีรถมูลนิธิคันหนึ่งรับไป ตำรวจว่า
อะไรไม่ได้แต่เขาไม่ได้อ่าน ว่ามูลนิธิอะไร  ก็ยังกังวลอยู่ ว่าศพจะหายหรือเปล่า

กลับมายังรู้สึกผิดว่า ทำไมเราไม่ช่วยลูกเค้า กลัวศพหาย กลัวไปหลายอย่าง  แต่คิดว่ายังไงแม่เค้ายังอยู่คง
ต้องไปตามหากัน กังวลไปหมด จนกระทั่งทราบว่า ร่างน้องไปถึงโรงพยาบาลแน่ๆ  และเสียชีวิตก่อนถึงโรง
พยาบาล

     เขาได้ไปงานศพเมื่อคืน ขอขมาศพ ที่เราไม่ได้ช่วยเขาไม่ได้ทำอะไรที่ควรทำ


เชิงอรรถ 2




------------------------------------------------------------------
หมอพรทิพย์ สรุป
หมอยัน"น้องโบว์"โดนแรงกระแทกของแก๊สน้ำตาทรงกระบอก


แพทย์หญิงพรทิพย์ เผย "น้องโบว์"เสียชีวิตเพราะโดนแรงกระแทกของแก๊สน้ำตาชนิดทรงกระบอก
(13ต.ค.) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เวลา 10.00 น. พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบัน
นิติวิทยาศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ถึงผลการทดสอบการยิงระเบิดแก๊สน้ำตาเมื่อวานนี้ (12 ต.ค.) ที่
ผ่านมาว่า ผลการตรวจสอบพบสารระเบิด RDX ซึ่งเป็นสารประกอบระเบิดร้ายแรงพบจาก แก๊สน้ำตาชนิดขว้าง
และชนิดยิง ที่สั่งซื้อมาจากประเทศจีน  โดยตำรวจยอมรับว่าแก๊สน้ำตาชนิดดังกล่าว ได้ถูกนำออกมาใช้สลาย
การชุมนุมเมื่อ วันที่  7 ต.ค.มากที่สุด จึงเชื่อว่า แก๊สน้ำตาดังกล่าวทำให้มีผู้บาดเจ็บแขนขาขาด

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ยังได้นำภาพบาดแผลจากศพของนางสาวอังคณา ประดับปัญาวุฒิ หรือน้องโบว์ มีแผลเป็น
วงกลมจากการกระแทกของระเบิดแก๊สน้ำตาชนิดทรงกระบอก ที่ยิงออกจากปืนยิงแก๊สน้ำตา โดยระเบิดแก๊สน้ำตา
ดังกล่าวจะกระแทกเข้าที่เป้าหมาย จากนั้น 1 วินาที จึงเกิดระเบิด ขณะนี้จึงไม่ต้องตรวจสอบอีกแล้ว เพราะสาเหตุ
ของการบาดเจ็บและชีวิต เกิดจากอาวุธที่เจ้าหน้าที่นำมาใช้

แขนขาด ขาขาด จากกระสุนแก๊สน้ำตา



  นายสุชิน  แสนรินทร์  การ์ดพันธมิตร ถูกระเบิดจนมือขวาฉีกเละ



    



loading

    ลุงคนนี้แกอึดน่าดูนะครับ ขาขาดสดสด ยังนิ่งได้นิ
สังเกตุขาข้างที่ขาด และรองเท้าข้างซ้ายตกอยู่ระหว่างขา ..
พระช่วยกล้วยทอด แต่หาไม่เจอขาตั้งแต่เท้าถึงเหนือเข่าที่ขาด อนิจจา

และตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้ ยังไม่เคยเห็นคุณลุงผู้โชคร้ายเสียขาคนนี้  ออกมาแสดงตัวในสาธารณะ
ที่แห่งหนไหนใดๆทั้งสิ้น  ไม่มีข่าวการเยียวยาช่วยเหลือจากหน่วยงานไหน แม้แต่จากกลุ่มพันธมิตร
หรือการติดตามข่าวจากสื่อมวลชน ทุกสำนัก ... แปลกประหลาดเป็นที่สุด อย่างน้อย พธม.ควรฉวย
โอกาสทอง นำชายผู้นี้ขึ้นเวทีเพื่อประโยชน์ในทางโฆษณาชวนเชื่อถึงความโหดร้าย ที่โดนกระทำ
อนิจจา ชายเคราะห์ร้ายผู้นี้หายไปจากซีนเฉยๆ ซะงั้น ได้ไง ท่านว่าม๊ะ

    หรือเกรงว่าจะมีการขุดคุ้ยความเป็นมา ซะงั้น



เชิงอรรถ

หมอพรทิพย์ สรุป
------------------------------------------------------------------

หมอยัน"น้องโบว์"โดนแรงกระแทกของแก๊สน้ำตาทรงกระบอก

http://komchadluek.net/2008/10/13/x_cri ... _id=225675

แพทย์หญิงพรทิพย์ เผย "น้องโบว์"เสียชีวิตเพราะโดนแรงกระแทกของแก๊สน้ำตาชนิดทรงกระบอก

(13ต.ค.) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เวลา 10.00 น. พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบัน
นิติวิทยาศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ถึงผลการทดสอบการยิงระเบิดแก๊สน้ำตาเมื่อวานนี้ (12 ต.ค.) ที่
ผ่านมาว่า ผลการตรวจสอบพบสารระเบิด RDX ซึ่งเป็นสารประกอบระเบิดร้ายแรงพบจาก แก๊สน้ำตาชนิดขว้าง
และชนิดยิง ที่สั่งซื้อมาจากประเทศจีน  โดยตำรวจยอมรับว่าแก๊สน้ำตาชนิดดังกล่าว ได้ถูกนำออกมาใช้สลาย
การชุมนุมเมื่อ วันที่  7 ต.ค.มากที่สุด จึงเชื่อว่า แก๊สน้ำตาดังกล่าวทำให้มีผู้บาดเจ็บแขนขาขาด

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ ยังได้นำภาพบาดแผลจากศพของนางสาวอังคณา ประดับปัญาวุฒิ หรือน้องโบว์ มีแผลเป็น
วงกลมจากการกระแทกของระเบิดแก๊สน้ำตาชนิดทรงกระบอก ที่ยิงออกจากปืนยิงแก๊สน้ำตา โดยระเบิดแก๊สน้ำตา
ดังกล่าวจะกระแทกเข้าที่เป้าหมาย จากนั้น 1 วินาที จึงเกิดระเบิด ขณะนี้จึงไม่ต้องตรวจสอบอีกแล้ว เพราะสาเหตุ
ของการบาดเจ็บและชีวิต เกิดจากอาวุธที่เจ้าหน้าที่นำมาใช้




TEAR GAS - http://www.autoweapons.com/photosn/40mmrslarge.jpg
เป็น กระสุนเเก็สน้ำตา ไว้ใช้ปราบจราจลโดยเฉพาะ ทำให้เป้าหมายเเสบตาชั่วขณะ 5 - 10 นาทีได้ เป็นอาวุธเคมีที่ใช้กัน
มากที่สุดทั่วโลกในปัจจุบัน และส่วนใหญ่ใช้ในการควบคุมฝูงชน หรือสลายการก่อม็อบ ทำให้เกิดอาการแสบตา อันตราย
ถึงเสียชีวิตได้ถ้าหายใจเข้าไปมาก ก๊าซน้ำตาที่ใช้ในการปราบปรามคือ ก๊าซคลอโรอะซิโตฟีโนน เป็นพิษต่อเส้นประสาท
ตา ทำให้ปวดแสบ น้ำตาไหล ถ้าความเข้มข้นในบรรยากาศสูง ทำให้ปอดบวมน้ำ ถึงตายได้
 
            
 
   ภาพ ทดลองยิงกระสุนแกสน้ำตา(จีน) ของ หน่วยสรรพาวุธ ตร.ด้วยปืน M-79


ตำรวจปราบจราจลมาเลเซีย ยิงกระสุนแกสน้ำตาสลายผู้ชุมนุมประท้วง(กระสุนแกสน้ำตาของจีนชนิดเดียวกับไทย)แต่ไม่มีแขนขาขาด
 
 ตำรวจไทย ยิงกระสุนแกสน้ำตาสลายฝูงชนเปิดทาง กรณีพธม.ปิดล้อมรัฐสภา 7-10-51

      ** เครื่องยิงกระสุนเเก็สน้ำตาปราบจราจล Anti-Riot Gun 38 mm

 

  ต่อยอด "ความจริงวันนี้" พธม.บิดสังคมใช้ศพเบี่ยงประเด็น คนร้ายเป็นคนดี