วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ระบอบ “ประชาธิปไตยเชิงสังวาส” ของประเทศอันไกลโพ้น



ระบอบ “ประชาธิปไตยเชิงสังวาส” ของประเทศอันไกลโพ้น

แปลความ บทต่อบท ... รุ่งศิลา

แดนดินอันโพ้นไกล
ประเทศประชาธิปไตยเชิงสังวาส
ปกครองโดยระบบเอกาธิราช
กดเช่นทาสเชิดตนชูแต่ผู้เดียว                

ดินแดนไกลแสนไกล ไปลำบาก ถึงก็ยาก และอาจจะไปไม่ถึง อยู่ไหนก็ไม่รู้หรืออาจจะไม่มีอยู่จริง
ฝูงสัตว์มี”จ่าฝูง” มนุษย์เป็นสัตว์สังคมแน่นอนต้องมี”หัวหน้า” หัวหน้ากลุ่มคนหลายครอบครัวรวมกันเรียก
”หัวหน้าเผ่า” หัวหน้าหลายๆเผ่ามารวมตัวกันเรียก”กษัตริย์” เริ่มแรกกษัตริย์ พึ่งจะมีอำนาจและกลุ่มชน
ยังไม่ใหญ่โตซับซ้อน ก็ปกครองแบบใกล้ชิดแบบ พ่อปกครองลูก พอสังคมใหญ่โตมากขึ้นซับซ้อนขึ้นจึง
สร้างกฎเกณฑ์รักษาอำนาจเคร่งครัด ทำให้เหินห่างประชาชน และสืบต่ออำนาจโดยการสืบสันดานสืบพันธุ์
ไว้วางใจเพียงคนในครอบครัว
จึงบัญญัติกฎระเบียบเพื่อรักษาคงไว้ซึ่ง อำนาจวาสนาและผลประโยชน์ตัวเอง โดยกดคั้นผู้ใต้อำนาจไว้มิให้
คิดต่อต้านล้มล้าง และช่วงชิง
ลัทธิเทวาวาดชาตินิยม
โภคอุดมทรัพย์มั่งคั่งบัลลังก์เขียว
อุปโลกน์เสกก่อพอเพียงเดียว
ประสานสนธิ์กลเกลียวโดยเชี่ยวชาญ

กลไกที่จะคงไว้ซึ่งอำนาจอันยาวนานคือ กุศโลบาย อุปโลกก์ยกตนขึ้นเหนือกว่ามนุษย์ด้วยกัน เทียบเท่า
เทวดา คือ ต้องอยู่เหนือกว่า กินดีอุดมกว่า เสพกระสันมันส์กว่า สุโขกว่าพิสดารกว่า
บัลลังก์ คือ ที่นั่งซึ่งยกไว้สูงกว่า ให้โดดเด่นเป็นสง่า สำคัญคือเอื้อมมือถืออาวุธทำร้ายไม่ถึงประมาณนั้น
ได้ยินเสมอคือ “บัลลังก์ทอง” เห็นสัมผัสได้ด้วยตา ซึ่งอลังการ์งานสร้างและมีค่าสูงเพราะทำด้วยทองคำ
สมเกียรติยศคนนั่ง
“บัลลังก์เขียว” คำอุปมาอุปมัย ที่อาจจะมิได้สลักจากหยกสีเขียว(เพราะหาไม่ได้ในโลกที่ใหญ่พอจะนำ
มาแกะสลัก) หรือทาสีเขียว ซึ่งคงหาคุณค่ามิได้ ... ฉะนั้น จึงพินิจในเชิงนามธรรมความหมาย ว่าบัลลังก์
ที่นั่งซึ่งอยู่บนต้นไม้ก็มิใช่อีก ... เทียบในยุคศตวรรษที่21 ความหมายสีเขียว ทางสังคมหมายถึงอำนาจ
อำนาจจากอาวุธ ผู้ใช้อาวุธที่ทรงอำนาจแน่นอนคือทหาร ทหารส่วนกุมอำนาจคือทหารใส่ชุดเขียว ... ยูเรกา

สืบอำนาจตามราชประเวณี
สะเด็ดน้องเสร็จสมพี่โยนีหลาน
ครองสมบัติสลัดบัดยาวนาน
ผลัดกันผลาญเสพสมชู้คู่ภิรมย์

การสืบต่ออำนาจเฉพาะคนในวงศ์ตระกูล(ราชวงศ์) เป็นความนิยมดั้งเดิมต่อกันมา (เรื่องอะไรจะไปยกสมบัติ
ให้ลูกคนอื่นล่ะ จริงไหม?) มักใช้คำศัพท์พระราชาว่า ราชประเพณี ซึ่งคำความหมายจริงๆก็คือ คำตรงว่า
ราชา + ประเวณี = ลูก คำกลอนจึงมาลงที่  ราชประเวณี
ราชประเวณี แปลตรงตัวก็คือ การร่วมประเวณีของพระราชา ภาษาตลาดตรงกับคำ เอากัน นั่นแหละ
ส่วนที่ว่าทำไมในประวัติศาสตร์ พวกจ้าวทั้งหลายถึงพันพัวนัวเนียกันเองในกลุ่มสายเลือดเดียวกัน ก็อธิบาย
ง่ายๆตามคำพังเพยไทยๆว่า“เรือล่มในหนอง” ทำนองพี่น้องเอากันเองนั้นปะไร ตามกฎเมนเดลลูกหลาน
รุ่นต่อๆมาเลย บ้าๆบอๆ โง่ทึ่ม เอ๋อเหรอแดก ประมาณนั้น (ไม่ได้ว่าใครนาพูดตามหลักวิทยาศาสตร์
การแพทย์ที่พิสูจน์ได้แล้วในศตวรรษที่21) บ้างก็เป็นโรคแปลกๆ ตายเร็วกว่า มนุษย์ไพร่ ปกติทั่วๆไป เช่น
โรคแดรกคูล่าหิวเลือด    เป็นเรื่อง เอ้ย..เป็นต้น
มั่นคงมากประสมจากสามรากถาน
ตุลาพาลเฉโยงโกงเจือสม
เสน’บ่ดีขี้ฉ้อปล้นจตุสดมภ์
สัตว์สภาอาจมสารพันธุ์

ความเชื่อทางโบราณเลข 3 ถือว่าเป็นความมั่นคง เส้ามี3ขา หรือ3ก้อนเส้า(อิฐ,หิน) หม้อบนเตา
จึงมั่นคง (2เส้า ก็หกคะเมน , 4เส้า ก็สูงๆต่ำๆ กระดกกระโด๊กกระเด๊ก) ส่วนเมียต้อง 3 ตามตำรา บาลาน
พาวเวอร์สมดุลอำนาจรัก  แต่รัก3เศร้า อันนี้ไม่เกี่ยว
3 รากถาน ถาน  อันนี้ คือ เวจ หรือ ส้วมขี้ นั้นแหละ ถาน คือที่นั่งทำกิจหนักเบาของพระสงฆ์ผู้ถือศีล
     3 รากถาน ประมาณว่า ที่ตั้งวางไว้โดยสมดุลย์อำนาจของผู้มีธรรมะ(ถ้ามี) คือ
         1 ตุลาโกง ตุลากวนตะแลงแกง
         2 เสนา’บ่ดี ลิงเสน ... ลิงแก้แห ลิงหลอกจ้าว ฮู้ โกงฉิบหายวายทะเล
         3 สัตว์สภา สภาเสน’บ่ดี ชุมนุมไปด้วย เสือ,เสิง,กระทิง,แรด เหี้ย.ห่า สารพัดสัตว์ กัดกันขรม แย่งขี้
ห้อมบริวารอำมาตย์อุบาทว์ใหญ่
เสพจัญไรวิตถารทวารสรรค์
ขุนพลแก้วไต่แถวเหรียญตราภัณฑ์
อารักขาหุบผาสวรรค์รชนี


ทวาร ฮูดาก นะแหละภาษาอีสาน สรรค์ สรรหามาเสพสม ที่เหลือแปลเอาเองเด้อ
หุบ  คืออูมๆ ผา คือแผ่นผิวระนาบอยู่ดีดีหักลึกวูบลงไป หุบผา ก็ ผิวอูมๆมีช่องหลืบลึก สวรรค์ คือที่ดี
จริงๆ อยากไปถึงจนนำหูเล็ดน้ำตาไหล  รชนี แปลว่า กลางคืน,เวลามืด(ลับหูลับตา)
 ....ฮั่นแน่ รู้น๊ะคิดลึก แปลอะไรอยู่ใกล้ๆคุก

คาวจำเริญข่าวสะพัดรัฐสวาท
ป่าวประกาศชาติฉาวก้าวหน้าหนี
ปฏิวัติ สังวาส ประเวณี
ผองชนร้องแซ่ซ้องมี ดอกสีทอง

ก้าวหน้าก้าวหลัง น๊ะมิใช่ เลข๙ หรือ เก้าหนีหน้า หรือ มั๊กหน้าหมี อะไรนั่น
ได้ข่าวบางรัฐ ตอนที่เขาเอารถเหล็กออกมาวิ่งบนถนน มีสาวนักเต้นจ๊ำบ๊ะ ออกมาดักมอบดอกไม้สวยๆให้
จ้าวนายเรือขุนตาเดียวโจรสลัด
สารพัดถนัดจัดฉลอง
ปฏิบัติรัฐประหารทางคูคลอง
เก่งทางน้ำไหลคล่องละล่องชล

ภาพลักษณ์ ขุนโจรสลัด ที่ทุกคนในยุคสมัยปัจจุบันนึกถึงต้องเป็น กัปตันฮุ๊ค สวมหมวกกะปิตัน และ
คาดที่ปิดตา คือตาบอดเหลือดวงเดียว ใครไม่เชื่อไปดู การ์ตูนวอลล์ดีสนี่ย์ สิ  ยกเว้น กัปตัน แจ๊ค
สแปโร่ส์ ใน Pirates of the Caribbean  แกไม่ตาบอดข้างเดียว แต่กะล่อนโคดโคด เก่งทางน้ำ
ไหลคล่องละล่องชล พอกล่อมแกล้มคุณสมบัติได้ นำพาลงคูลงคลองหรือไม่ มิแน่ใจ
อาชีพ สลัด นี่ปล้นอย่างเดียว ปล้นกลางทะเล ปล้นกลางแดด หน้าตาเฉย แบบ
กูจะเอาซะอย่าง คราย จาทามมาย ... ข้อหา บังอาจรวยเร็ว และเก่ง ก่ า ชังน้ำหน้าไปชิ้ว
พอเสร็จสรรพการปล้นแล้ว อีทีนี่ก้อต้องฉลองกันหน่อย พวกโจรทางน้ำเนี่ยเขาก็สนุกกันหัวฟัดล่ะ
จัดงานกินเที่ยวกัน ประโคมโหมไฟสว่างไสวแบบไม่กลัวฟุ่มเฟือย เสียเงินไม่ว่าเสียหน้าไม่ยอม
เงินชาวบ้านปล้นเขามาท้างน้าน.. ม่ายช่ายเงินกรู วู๊ ปี้.. กัวอาราย.. เอ้า.. ชนแก้ว.. เชี่ยยยยย!
ผ่านเชิงชั้นบั่นคร่ามานานนับ
ขุนขยับสลับตาฆ่ามากหน
ทั้งลี้ลับสั่งกระชับปรับอับจน
บดขยี้หลายคนมาหลายครา

ขุนขยับกับพินาศ นี่คนละตัวกับ ขุนในบทนี้ บนกระดานหมาก โหดสุดสุด คือซ่อนกลลี้ลับ เดินหน้าฆ่า
อย่างเดียว ใครขวางหน้าตา กูเดินกินเรียบ หัวทะลุสมองไหล ปัดตกกระดานทุกท่านไป หามิใช่ ตกใต้ทวย
โศลกนี้ สดุดีพลีสวาสดิ์
“ประชาธิปไตยเชิงสังวาส” ชาติมหา
ขออำนวย ”อวยกลอน” สวาทดินา
ผสมพันธุ์ พระราชา ชาติจำเริญ .. ไช โย

โปรดเรียกระบอบนี้ว่า “ประชาธิปไตยเชิงสังวาส” ของชาติมหาอำมาตย์ (ขออภัยอย่าอ่านเป็นหมา)
เพราะ เสวยอำนาจ โดย พิธีการเสพสวาท ด้วยการเอากัน



ปล. เอากันมันส์จะตาย เอาแล้วมันส์ด้วย ได้อำนาจด้วย .. ใครจะไม่เอาล่ะ คร๊าบพี่น้อง ค๊าบ
                                     ไม่เชื่อ ไปถาม พี่ เหล่ กะ กะทิชาวเกาะ ดูดิ

วันอาทิตย์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2553