วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2555

อรชุน และ อรชร นำ อาวุธสงคราม เข้ามาทำไม ทั้งที่มีสั่งสมกันเหลือเฟือ

     

นักสังเกตการณ์ทั้งหลาย ต่างออกมาตีความหาความหมายกันอย่าง
เอาเป็นเอาตายหน้าดำคร่ำเครียด กับปรากฏการเดินสายให้โอวาท
อีกครั้ง ของ ป๊ะป๋าหงอก' หอกสี่เสา

ผู้ที่ถอกออกมาแต่ละครั้งต้องได้น้ำได้เนื้อนาบุญแห่งความดี แสดงโอวาทความมีบุญคุณของ
แผ่นดินพ่อ แผ่นดินแม่ท่าน(มัน)เสมอ เป็นตัวอย่างของบุคคลที่มีคุณความ ดีเสมอ..หู  เป็นผู้
ประพฤติชอบ ปฎิบัติ ดีชนิดไม่เคย..ห่างเหิน แลแต่ละก้าวเดินของลักกบุรุษเฒ่า ผู้ไม่เคยห่างหำ



เกมส์แย่งชิงเก้าอี้ตัวโตในประเทศ ครั้งสำคัญ เดิมพันกันด้วยอนาคต ตำแหน่งหน้าที่
คงไว้ซึ่งความยิ่งใหญ่อลังการ์ อำนาจบารมี ของลิ่วล้อสมุนบริวาร ทั้งสองฝ่าย   ....
รุกนำก่อนโดย อ้ายหงอกยอดขันทีหัวขบวน ก่อนที่พลังอำนาจทางการอาวุธ จะถูก
ลดทอนลงมากกว่าที่มี ..... ตามมาติดๆด้วย อ้ายหอกโพกผ้าเหลือง บวก อ้ายหงอก
ผีดิบสันติตาโปด, แหกปากส่งสำเนียงด่านำจากลูกแถว คนอัปรีย์ สีกบาลล้านเลี่ยน
ค.อ.ป. ,และ ทาสาทาสีขี้ข้า ทาสที่ปล่อยไม่ไป กลุ่มลักของหลวงห่วงคนล้างผลาญ

                                            

สายข่าวลับ ล่าสุด ให้ข้อมูลมาถึงการลำเลียงอาวุธสงครามจำนวนมาก เข้ามาทางตะเข็บชายแดนทางเหนือ
และทางตะวันตก มากว่าหลายเดือนแล้ว ของฝ่ายหนึ่งซึ่งประสงค์อยากจะขี่ม้าขาวเสียเต็มประดา หลังจาก
พลาดท่าหล่นหลังลา ให้นายกสาวคนแรกของประวัติศาสตร์ประเทศ ควบตัดหน้าไปชนิดขอบตาร้อนผ่าว
ผิดแผนโฆษณาชวนเชื่อ"นารีขี่ม้าเขียว มาทำเสียวบนแผ่นดิน" ที่ซุ่มทำการตลาดมาก่อนหน้าหลายปี

กับอีกฝ่าย ที่มีอำนาจรัฐของนายกพี่น้อง สนับสนุนตามกฏหมาย ด้วยสายสัมพันธ์ฉันมิตรผู้มีอุปการคุณ
อาวุธสงครามประดามี จึงหลั่งไหลเข้ามาทางชายแดนทิศตะวันออก มากเท่าที่ต้องการทุกเวลา ประเดิม
ล๊อตแรก 4 ตู้คอนเทนเนอร์(ลับ)

ไม่นับรวมกับกำลังพลในเครื่องแบบทั้ง ทหาร-ตำรวจ และพลเรืยนมหาดไทย ที่มีกฏหมายรองรับการใช้
อาวุธที่นายใหญ่ทั้งสองฝ่าย แบ่งแย่งกันครอบงำสั่งการ สับสนอลหม่านกันไปหมดทั่วทุกกรมกองกระทรวง

     มีผู้เสนอความเห็นแย้ง ถึงเหตุผล การนำเข้า'อาวุธสงคราม' มาทำไม
      ทั้งที่ในกองทัพ และกองกำลังบังคับบัญชาส่วนตัว ก็มีเกินพอแล้ว

จากข่าวคราวล่าสุดถึงการ แอคชั่นเอ็กเซอร์ไซซ้อมรบในเมือง โดยกองอารักขาส่วนตัว พลรบระดับกองพล
ทหารราบรบพิเศษ เต็มอัตรา จำนวนกว่า 10,000 นาย กลางพระมหานคร ของเจ้านายใหญ่ฝ่ายมีกฏหมาย
รองรับ แสดงแสนยานุภาพ ขยับยึดเมือง ข่มขวัญบารมี นายใหญ่ของอีกฝ่าย

         
                                        การข่มขืนประเทศแม่

ผู้สันทัดกรณี ได้วิเคราะห์ให้เห็นเหตุ ของการต้องมีอาวุธสงครามไว้ในครอบครองนอกสารบบกองทัพ และ
ติดอาวุธให้แก่พลรบสแตนด์บายพร้อมปฏิบัติการ24ชม.ทุกสถานการณ์ที่มีคำสั่งให้ออกชองทั้งสองพวกฝ่าย
โดยมิอาจไว้เนื้อเชื่อใจ บรรดาขุนพลผู้กุมอำนาจทั้ง 3 เหล่ารบ ว่าจะจงรักภักดียอมรับคำสั่งการยึดเก้าอี้แต่
โดยดี ทันการทันทีที่มีโอกาสหรือไม่ ... ด้วยข้ออ้างติดขัดผิดระเบียบราชการและกฏหมาย ในการเบิกจ่าย
นำอาวุธสงครามจำนวนมาก ในคลังอาุวุธของทุกเหล่าทัพ มาทำไม เพื่อการใด จำเป็นหรือไม่ ?

... เป็นความเสี่ยงต่อการปิดลับ มิให้ข่าวแพร่งพรายเข้าหูสื่อมวลชน และความอ่อนไหวต่อกระแสการต่อต้าน
ของประชาชน ในกรณีปฏิวัติรัฐประหาร อีกแล้วครับท่าน

ข่าวร้าย ที่ตามมา ต่อกองกำลังฝ่ายตรงกันข้าม ให้ทราบไว้แต่เนิ่นๆก็คือ หากนำรถถัง รถเกราะ รถรบทั้งหลาย
ออกมาหมายจะบดขยี้คู่ต่อสู้ ก็จะเป็นเป้าลองซ้อมมืิอของ จรวดขีปนาวุธต่อสู้รถถังหนัก แบบตุ๊มเดียวจอด
ไฟลุกท่วมคัน ... ไม่ก็ ขีปนาวุธนำวิถีชนิดประทับบ่ายิง พื้นสู่อากาศ ไว้สอยฝูงบินรบทั้งหลาย ไม่เว้น ฮ.
ที่บังอาจบินข้ามหัวข้ามหูน่ารำคาญ

                  


                  จงรบกันเถิด อรชุน และ อรชร
            ให้มันวิบัติฉิบหาย รู้ดีรู้ชั่ว ตายโหงตายห่ากันไปข้าง
ฤา จักตายเห.ี้ยนกันทั้งสองข้าง ก็เป็นคุณานุปการแก่ชาติและปวงชน
        มิต้องห่วงหาอาวรณ์ว่า ขาด .. แล้วจักสิ้นชาติสิ้นแผ่นดิน
           ประชาชนทั้งสิ้นจักปกป้ักษ์รักษา บ้านนี้เมืองนี้ไว้เอง
   จงตายอย่างหลับตาเถิด ชื่อของเจ้าจักถูกจารึกไว้นานเท่านาน
           ทรราช ผู้มีสินธุรกรรมเหลือคะเน เจ้าบุญเจ้าคุณประเทศ

                             บทความนั่งเทียนที่มิน่าเชื่อถือ โดย : รุ่งศิลา

.

ไม่มีความคิดเห็น: