วันอังคารที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

การ ที่ รัฐบาล ยังไม่กล้าเข้าสลายเพราะกลัว "กองกำลังนิรนาม" ที่เข้ามาช่วย

การปรากฏตัวของ "นักรบนิรนาม"


เหตุการณ์ 13 พฤษภาคม 2553

เริ่มแรกเย็น วันที่ 13 พค.2553 ผมนั่งTAXI ไปถึงราชประสงค์ ก็ประมาณ 5 โมงเย็นครับ พอถึงก็นั่งฟังเขาปราศรัย
ที่เวที ทางด้านขวาตรงช้างตัวใหญ่ๆครับซักพักใหญ่ๆก็มีรถไฟฟ้าBTSมาจอดหลายรอบตรง กับZENหลายรอบแล้วก็แล่น
กลับไปกลับมา จอดบ้าง  มาชะลอดูบ้าง  ทำให้แถวๆนั้นผู้คนแตกตื่นมากครับ  พอซักพักใหญ่ๆผมก็เดินไปที่ ด่านสีลม
(ปรกติถ้าไปผมจะไปด้านนี้ด่านอื่นไม่ เคยไปครับ)  ผมก็เดินไป เรื่อยๆครับ จนถึงแยกก่อนที่จะถึง รพ.จุฬาฯ ก็เห็นคนวิ่ง
แตกตื่นกันอลม่านผมก็เลยถามคนที่วิ่ง มาเป็นผู้หญิง อายุประมาณ30กว่าๆ  แกก็บอกว่า "เสธแดงโดนยิง" ผมก็รีบเดิน
ไป ต่อ  แต่ตอนนั้นเท่าที่ดูไม่มีแกนนำหรือใครที่จะเป็นคนคุมมวลชนที่นั่นเลยครับ  ทุกคนแตกตื่นกันมาก ทุกคนที่วิ่งมา
ปากก็บอกว่า เสธแดงโดนยิงๆตลอดทาง แล้วผมก็เห็นรถคันสีขาวที่ใช้พาอาแดงของเราไป รพ.หัวเฉียว หรือเปล่า
ไม่แน่ใจแต่ที่แน่ๆคนที่อยู่บนรถก็ตะโกนโหวกเหวกให้หลบไปๆ

.. ผมก็เดินไปต่อสวนทางกับคนที่วิ่งแตกตื่นมาตลอดทาง  ก็เจอพี่คนหนึ่งตัวใหญ่ๆสูงขาวบอกว่า  ขออาสาใครที่กล้า
ไป ช่วยกันที่ด่านสีลม  ผมก็เดินไปกับพี่เขาปากก็บอกว่า ขอคนกล้าไปช่วยกันที่ด่านสีลม    แต่ไม่มีใครตามมาเลยวิ่ง
กลับกันหมด ทั้งนักข่าวต่างประเทศ ก็วิ่งหน้าตาตื่นกลับมาหลายคนเหมือนกัน พอผมเดินมาถึงด่านที่ติดกับตึก รพ.จุฬา
ที่ตั้งด่านปิดถนนทั้งสองฝั่งก็ มี  ระเบิดตู้ม! ... เห็นเต็มตา ... เท่านั้นครับผมก็หมอบหน้ารถเก๋งคันหนึ่งที่จอดอยู่เพราะมี
เสียงระเบิด อีกหลายลูก.. ผมไม่ทราบ ว่ากี่ลูกแต่มากกว่าสามลูก เท่าที่ผมได้ยินปนกับเสียงปืนไม่รู้ยิงจากไหนลงจุด
ไหน  ยิงอีกหลายนัด  ผม ก็หลบแต่พยายามมองไปข้างหน้าที่ระเบิดตกแล้วมองหาคนที่ยิงปืนออกมาจาก ข้าง
ใน รพ.จุฬาฯ
    (ตอนนั้นผมคิดว่ายังไงๆเสียงระเบิดและปืนไม่แน่ใจว่าเป็นM16หรือ เปล่าน่าจะยิงออกมาจาก รพ.จุฬาแน่ๆครับ)

.. ณ.ตอนนั้นจากเสียงที่ได้ยินผมคิดว่าอย่างนั้น ตอนนั้นยังไม่มีใครกล้าไป อยู่ไปอยู่ข้างๆด่านวิ่งหลบกันวุ่น  ปาก
ก็ตะโกนว่าดับไฟทุกดวงดับไฟๆ..ใครมีหนังสะติ๊กก็ยิงหลอดไฟที่อยู่ ที่สูงขณะที่พวกผมกำลังเอาสิ่งของ ที่พอจะเก็บหา
ได้เพื่อปาหลอดไฟตามทางตามเต้นแต่มี หลอดหนึ่งที่อยู่ติด ด่านยิงยังไงก็ก็ไม่ดับก็มีลูกกระสุนยิงมาใส่หลายลูก ปัง ปัง
ปัง!จาก ข้างใน รพ. อันนี้ผมเลยแน่ใจว่า ยิงมาจาก รพ.จุฬาฯ แน่ๆ ฝ่านเรามีแค่บั้งไฟที่พอจะจุดยิงเข้าไปฝั่ง รพ.จุฬาฯ
ได้กับหนังสะติ๊ก
    (ผมรู้สึกอนาถใจมากครับ หนังสติ๊ก กับ บั้ง ไฟ ไม่กี่อันสู้กับ M79 กับ ปืนของทหาร    ที่ยิงสวนมาเป็นระยะๆ)

.. แต่ไม่มีใครถูกกระสุน ตรงที่ผมอยู่ที่ด่านใต้รางที่รถBTSวิ่ง แต่ที่ข้างในด่านมี มอเตอร์ไซค์พาคนที่โดนยิงและสะเก็ด
ระเบิด ไปส่ง รพ.   พวกผมก็พยามยามพูดกันว่า จะดับไฟทีเสาต้นนี้อย่างไรมันอยู่สูงครับพอมีคนไปยิงหลอดไฟให้ดับ
ทหาร ใน รพ.จุฬาก็ยิงปืนสวนออกมา พวกผมก็หลบกันหลังรถบ้าง ตามเต้นท์บ้าง แต่กระสุนไม่ถูกใคร  หลอดไฟก็สว่าง
พี่ๆแถวนั้น เขาก็พาก็พากันยิงจนดับ  เสียงปืนเงียบลง   คนที่ใส่เสื้อสีขาวเราก็บอกว่าให้หาเสื้อสีดำมาเปลี่ยน  ใครที่จะ
เข้าไปที่เต้นส่วนมากเป็นพี่ผู้หญิงที่ อยู่ประจำเต้นท์  จะกลับเข้าไปซึ่งตอนนั้นพวกผมก็คิดว่ายังอันตรายอยู่  ก็บอกว่าพี่
อย่า พึ่งเข้าไป ใครที่ใส่เสื้อสีขาวก็ให้ไปหาเสื้อเปลี่ยนใหม่ พอเราแน่ใจว่าเริ่มไม่มีเสียงปืนแล้วเราก็พากันหมอบไปตาม
ทางด้านถนนที่ ติดกับสวนลุมเพื่อความปลอดภัยเพราะไฟสว่าง  วกเราก็ ตะโกนให้ดับไฟให้หมด เพื่อใช้ความมืด
พรางตัวไม่ให้ตกเป็นเป้า  พอกระสุนปืนเงียบ ผมก็ไปรวมตัวกลุ่มหลังเต้นท์ ติดสวนลุมตรงถนน ก็คุยกันว่า  

    อาแดงของเราโดนยิงตรงไหน 
    เชื่อไหมครับเท่าที่ผมรู้สึกได้ ทุกคนที่ด่านสีลม เขาเชื่อและศรัทธาอาเสธแดงของเรามาก แบบไม่รู้ว่าผมจะพูดยังไง
ขนาดในเวปเวลาที่ผมคุยตามCBOXต่างๆ อาเสธแดง คือคนที่เราพูดถึงมากที่สุด ทั้งด่านสีลมและในโลกไซเบอร์ ที่
ผม เคยคุย อาแดง คือขวัญและกำลังใจอย่างไม่กล่าวอ้างไม่ได้ผมเชื่ออย่างนั้นครับ  แล้ว เราก็นั่งคุยกันพยายาม
ไม่เคลื่อนไหว  ผมก็เลยไปรู้จักกับเพื่อนอีกสองคนที่เขาอยู่ที่ด่านนี้ตลอดชื่อ เบียร์ (เป็นคนอุดร) กับ ต้น (จำจังหวัดไม่
ได้ครับ) แล้วก็นั่งคุยกันเรื่อยๆซัก30นาทีได้ แต่แล้วอยู่ดีๆ ก็มีคนเดินมาแล้วบอกห้ามเข้าไปตรงนั้น

    มีพี่ๆกลุ่มหนึ่งที่เพิ่งมาถึงจากการ แต่งตัวผมคิดว่าไม่ ใช่การ์ดแน่ๆแต่งตัวเหมือนทหารเริ่มเดินแถวที่พวก
ผม นั่งอยู่ แล้วผมก็สังเกตุที่กระเป๋าเป้ผมก็รู้สึกถึงคำว่า "นักรบโรนิน" ขึ้นมาทันที่ที่อาแดงเคยพูดบ่อยๆใน
เวป ที่อ่านเจอ และสักพักก็มีพี่คนหนึ่งมาฝากถุงสีดำอะไรก็ไม่รู้ แต่หนักบอกแค่ว่า ห้ามดูดบุหรี่ใกล้ๆนะ
(พอจะนึก ถึงกับดักที่วางไว้ตามป่าไหมครับ)  แล้ว แกก็ไปสมทบกับกลุ่มของแกอีกเต้นท์หนึ่ง เราก็นั่งไปเรื่อยๆคุยกันไป
และ พี่เขาบอก ห้ามคนเข้าไปบริเวณ ที่แกบอกเพราะตอนนั้นพอคนที่วิ่งหนีจาก เต้นท์เริ่มทะยอยกลับเข้าไปเก็บ
ของส่วนตัว พี่ๆเขาก็บอกไม่ให้เข้าไป อันตราย  บริเวณนั้นจึงไม่มีใครที่ไปได้นอก จากนักข่าวที่ดื้อจริงๆ พี่ๆก็ปล่อย
ไปบอกช่าง เขาเตือนแล้วว่ามีพลซุ่มยิงตามตึก สักพักพี่เขาก็มาเอาถุงคืน และผมช่วยถือไปถุงหนึ่งแต่อีกถุงต้องใช้
สองคนยกไปครับค่อน ข้างหนักมาก เมื่อเหตุการณ์เริ่มปรกติ  น้องที่ชื่อเบียร์ก็พาผมไปนอนที่เต้นอุดรฯ ติดด่านตรงทาง
ลงรถไฟฟ้าใต้ดินMRT จุดที่อาแดงโดนยิงครับ   สักพักก็มีคนมาก่อกวนที่ด่าน   มียิงหนังสติ๊ก+ปาหินใส่ ส่วนที่ด่านฝั่ง
เรา ก็จุดบั้งไฟ+ปาหิน+จุดประทัดยักษ์ใส่บ้าง แต่มีช่วงหนึ่งที่มีคนขี่ มอเตอร์ไซต์ มาปาระเบิดมือใส่ ตอนนั้นผมยืน
บนยางนอกรถ ที่กองซ้อนเป็นด่าน มองเห็น  คน ที่ขี่มาปาระเบิด อายุประมาณ 21-25ปี ผมคิดว่าน่าจะเป็นทหารเกณฑ์
ครับ เสียงสนั่นเลย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากนั้นสักพักก็มีเสียงปืนยิง พวกเราต้องวิ่งหนีเป็นระยะๆตอนนั้นที่ตอบโต้
ได้ก็มีแต่ หนังสติ๊ก กับ บั้งไฟ เท่านั้นจนมีเสียง ปืน+M-79 ที่ยิงมาจาก ตึก .น่าจะเป็นโรงแรมที่เขาบอกว่า สไนเปอร์
ยิง อาแดง (เอราวัณหรืออะไรเนี่ยแหละ)

.. คือเขายิงมา เราก็ได้แต่วิ่งหลบตามเต้นท์อย่างเดียว เอน็จอนาถครับ  M-79 ทหารยิงใส่หน้าด่าน เพื่อก่อกวนพวกเรา
3-4 ลูก สงสัยจะไม่ไห้ได้พักผ่อนมั้งครับ ช่วงนั้นค่อนข้างตึงเครียด จนพี่ที่ (น่าจะ)เป็น ทหารโรนิน เขาอดไม่ได้มั้งครับ
ที่ ทหารยิงเราฝ่ายเดียว เขาก็เลยยิงสวนไปบนโรงแรมนั้น ชุดละ 6-7นัด ประมานสองชุด   ใส่ทหารที่ยิงจากบนตึกลงมา
(ยังมี รอยกระสุนอยู่เลยครับ) อีกคนน่าจะเป็นปืนสั้นจนหมดแม็ก แล้วบนตึกก็เงียบ  หลังจากนั้นไม่มีการยิงมาหน้าด่านอีก
แต่ที่ฝั่งถนนวิทยุก็ได้ยินเสียง ระเบิด ปืนดัง เห็นบอกว่าเสื้อแดงเราตายไป 1คน โดนทหารที่ด่านสองยิง ส่วนที่ด่านสาม
ไม่รู้เป็นทหารหรือตำรวจครับยิงกัน ฝั่งนั้น ก็ได้ยินเสียงปะทะนานเหมือนกัน จังหว่ะนั้นผมเลยหยิบโทรศัพท์มาดูเวลาก็ปา
ไป เที่ยงคืนกว่าแล้ว แต่ทันใดนั้นเองก็มีเสียงยิงM-79 จากบนตึกลงมาอึก3นัด บริเวณที่หน้าด่านติดต่อกันเลยครับ (บึ้ม
บึ้ม บึ้ม)โหครับ! หาที่หลบกันใหญ่เลยครับ ก็มีพี่อีกคนตะโกนว่าหาที่ปลอดภัยหลบ เท่านั้นแหละครับผมก็พลัดหลงกับต้น
เหลือสองคนคือผมกับ เบียร์ ก็ไปหลบอยู่ตรงที่เป็นสนามหญ้าที่หน้าประตูเข้าสวนลุม   ตั้งแต่นั้นก็ไม่มีทหารยิงจากตึกอีก
เลย ผมดูนาฬิกาอีกทีก็ตี 1กว่าแล้ว เลยไปนอนบนเสื่อที่เขาพากันวิ่งหนีไปหานอนที่อื่น  แบบเพลียมากครับ ก็นอนคุยกัน
แต่ก็ยังได้ยินเสียงปืนจากฝั่งถนนวิทยุ เป็นช่วงๆ และเสียงรถพยาบาลวิ่งตลอด  มีพี่ผู้หญิงกับพี่ผู้ชายมานอนข้างๆเขาบอก
ว่า เห็นตอนทหารยิงM-79 มาจากตึก รพ.จุฬาฯ บอกเป็นแสงไฟพุ่งเลยครับ สักพักพวกเราก็นอนคุยกันไปเรื่อยๆกับพี่ที่มา
ร่วมกันสู้ ข้างๆอีกสองคน คนหนึงเป็นหน่วยกู้ภัยอาสา ส่วนอีกคนเขาก็มาเหมือนผมครับ ว่างช่วยกันเฝ้าด่าน คุยกันจนตี4
ได้นอนถึงซัก 6โมงเช้าครับ




เหตุการณ์ 14 พฤษภาคม 2553

.. พอไปถึงเต้นท์ของอุดรตอนเช้า
   (ผมได้แปรงฟันเพราะพกแปรงไปด้วยส่วนอาบน้ำหรือครับไม่ต้องพูดครับไม่ ได้อาบ55)
ตอนแรก พอ 8โมงเช้า กะว่าจะกลับไปศิริราช ปรกติผมจะมาที่ราชประสงค์ที่ด่าน  เช้าก็กลับแต่เช้านี้ไม่ไหวครับก็เลย
ว่า จะอยู่ต่อวันนี้ เพราะมีข่าวว่าทหารจะมาสลาย เพลียบวกนอนน้อยทหารป่วนตั้งเย็นของวันที่13 พค เลยหากินข้าว
(มีข้าวเปล่ากับไข่
2ฟองครับ)  แล้วก็ง่วงมากเลยนอนต่อที่เต้นท์ นอนไม่ค่อยหลับหรอกครับ   พอกำลังจะหลับก็มีคน
ตะโกน ทหารเคลื่อนพลมาแล้ว  ก็สะดุ้งตื่นวิ่งไปดูที่หน้าด่านทุกคนก็ลุกกันใหญ่เลย พอไปดูก็บอกเริ่มเคลื่อนมาแต่ยัง
อยู่ไกล ทุกครั้งที่ทหารเริ่มเคลื่อน ก็จะมีคนตะโกนได้ซัก 3-4 รอบ จนเที่ยงนอนด้วยสะดุ้งด้วยครับ  (ร้อนก็ร้อนครับ)

.. พอเที่ยงนี่แหละครับ ต้องตื่นทหารมาจนถึงตีนสะพานพวกเราก็วิ่งกันใหญ่พากันเอาน้ำมันราดหน้าด่าน ถ้าทหารมาจะ
ได้เผาด้านถ่วงเวลาให้ได้นานๆแต่พอทหารจะเคลื่อนมาก็มีมวลชน ของเราที่มาแล้วอยู่หน้าด่านใต้สะพานข้ามสี่แยกก็ขี่
มอเตอร์ไซต์ขับวิ่ง กลับไปกลับมา ยิงหนังสติ๊กยิงบั้งไฟใส่ทหารและ จุดล้อยางเผา ปาแก้วใส่ถนน ส่วนทหารก็ยิงมาเป็น
ระยะ+ระเบิดด้วยหลายตู้มเลย (กระสุนจริงครับ) ก็มีรถพยาบาลมาหลายคัน เช่นกันมวลชนของเราด้านนอกด่านนี่สู้จริงๆ 
ทหาร นี่  ยิงจากด้านล่างด้วยจากบนตึกด้วย  พอประมาณบ่ายเนี่ยแหละครับ ทั้งจากตึก เราต้องหลบกันใหญ่หลบตามซุ้ม
ตามเต้นท์โดนทหารยิงมาบ่อยมาก  จากตึกสูงแต่ละคนที่ดูตอนนั้นต่างคนต่างหิว   ดีนะครับมีขนมจีนกับแกงไก่   แค่นั้น
แหละครับ ประทังความหิวกัน

.. นักข่าวเห็นพวกเรากินก็ถ่ายรูปไว้กินด้วยวิ่งหลบด้วย  ผมว่าฝรั่งคงรู้สึกเวทนาเรามากมั้งครับ  ไหนจะต้องหลบกระสุน
ไหนจะหิวกิน ขนมจีน ท่ามกลางทหารที่พยายามจ้องจะเอาชีวิตเรา จากที่สูง ยิงใส่มวลชนที่อยู่รอบนอกและหน้าด่านด้วย

.. ส่วน  ฮ.มีแค่ลำเดียวครับ บินวนไปวนมาพวกเราได้แค่ยิงบั้งไฟใส่ขู่แค่นั้นแหละครับ แต่มีช่วงหนึ่ง   ฮ.ปล่อยน่าจะเป็น
แก๊สน้ำตา ลงมา ผมก็ได้ยินเสียง ปืนดัง สอง-สามครั้ง แต่ละครั้งจะยิงแบบ รัวครั้งละ4-5นัด ส่องฮ. ผมไม่เห็นคน
ยิงแต่ต้น (เจอ กันตอนหาข้าวกินครับ) เห็นพี่ทหารที่ยิงเล่าว่า คนหนึ่งบอกตำแหน่ง อีกคนยิงแบบไม่ได้เล็งนาน  แค่ยกปืน
ขึ้นยิงเลย ปัง ปัง ปัง ปัง แล้วถ้าไม่ถูกก็รอจังหว่ะใหม่ แต่ตอนที่ถูกพี่เขาบอกว่าถูกแล้วคนอื่นแทบไม่รู้ว่าถูกแต่คนยิงบอก
ว่า ถูกหลังจากนั้น ฮ.ก็บินไปเลยครับ ไม่มารบกวนแล้ว

จากนั้นพวกเราก็พยายามดูที่สวนลุมด้วยแต่มีพี่คนหนึ่งไป ยืนสังเกตุทหารแถวสวนลุมโดนยิงจากสไนเปอร์ที่
ขานี่เกือบขาดแบบ ห้อยต้องแต่งๆน่าสงสารครับยืนอยู่เฉยๆไม่รู้ยิงมาจากตึกไหนครับและก็นำส่ง รพ.ต่อ



 พี่ๆ "นักรบโรนิน" ปราก ฎตัว

.. พอถึงตอนนี้แหละครับเมื่อทหารยิงเสื้อแดงเราไปหลายคน ผมได้ยินพี่คนหนึ่งบอกว่า
เราจะสูญเสียมวลชนมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
.. เท่านั้นแหละครับ ก็เริ่มมี่ พี่ๆที่ แต่ง ตัวด้วยเสื้อคลุมสีดำ (ถ้า สังเกตดีๆจะรู้ว่าปืนมาด้วย) กระเป๋าเป้ เดินมาเป็นกลุ่มละ
3-4คน พยายามหาทหารบนตึก เพื่อตรวจสอบตำแหน่ง   พี่ ทหารโรนิน ที่มาน่าจะมากกว่า 8 คน  แต่ไม่เกิน 15คน  แต่
เอาที่ผมเห็นถือสัมภาระ ก็ประมาณ 8คนได้ และพวกพี่ที่เป็น คนคอยชี้เป้า อีกต่างหาก พอเห็นเป้า ก็วิ่งมาคุยกันบอก...
ตำแหน่งไม่อยู่กับที่นะครับ วิ่งสับไปสับมา  ผมไปหมอบอยู่ในเต้นท์ริมกำแพง (ว่างๆไปดูรูที่เจาะไว้น ที่ริมกำแพงให้พี่เขา
ไป ดูตำแหน่งสไนเปอร์)  
เพราะตอนนั้นทุกคนจะหลบตามเต้นท์ไม่ให้ สไนเปอร์ส่องได้ครับ

.. ตอนนี้ครับ ยิงกันมันเลย ทั้งปืนทั้ง ระเบิด แต่พี่ทหารที่มาช่วยเรา เขายิงเฉพาะทหารที่ซุ่มอยู่บนตึกต่างๆ  ผมจำตึกไม่
ได้แต่มีตึกธาคาร แถวนั้นมีหมดแหละครับ

.. ส่วน ปืน และ ระเบิด ผมไม่ทราบว่าเป็นรุ่นไหนจะมีเสียง “โบ๊ะ” ถ้าเรา นับก็ประมาณ 5วินาที แล้วก็จะได้ยินเสียง“บึ๊ม!”
ที่ตำแหน่ง ใกล้ๆทหาร แต่ทหารก็ยิงระเบิดโต้ตอบ หลายลูกเหมือนกัน ยิงใส่ตรงบริเวณตีนสะพาน ยิงสวนกันไปสวนกันมา 
เป็น..ชั่วโมงครับ ได้ยินพี่คนหนึ่งบอกว่ายิงไปสอง สักพักก็เปลี่ยนตำแน่งมายิงตรงที่ผมหมอบอยู่ ผมหูอื้อไปหลายชั่วโมง
เลย ห่างที่ผมอยู่ประมาณ 3 ฟุตได้

.. แล้วพี่อีกคนหนึ่งก็ถามว่า ใครมีหมวกบ้าง ผมก็มีแต่หมวกกันน็อกอยู่ใกล้ๆ เลยบอกพี่เขาว่า เอา ไหมครับ พี่เขาบอก
ไม่เอา
เขาถามกลับว่า มีหมวกสีดำไหม แล้วเขาเห็นคนหนึ่งใส่หมวกก็บอกผมให้ไปขอให้หน่อย  ผมคลานไปขอหมอก
เขา มาให้ (แต่ปรกติพี่เขาก็ทำตัวธรรมดาเหมือนคนทั่วไปครับให้กลมกลืน) ถ้า เวลา ยิง พี่ๆเขาพยายามปิดหน้ากลัวนักข่าว
เห็นหรือไรไม่ทราบ  สัก 5 โมงเย็น พอ สไนเปอร์ รู้ตำแหน่งที่พี่เขาอยู่ เขาก็บอกให้ย้ายไปจากเต้นให้หมดครับ ประมาณ
5-6 ช่วงเต้นท์ แต่พี่เขาไปสังเกตการณ์ถอยไปตั้ง 100 เมตรได้ครับ

.. ตอนเย็นผมต้องรีบกลับเพื่อมาเข้างานตอน 2 ทุ่ม ก็เลยเดินกลับสภาพนี้ครับ .. เหงื่อท่วมตัวเป็นด่างเป็นวงขี้เกลือเวลา
แห้ง ต้องเดินไปโน่นครับถึงพันทิพย์ นั่งวินมอร์ไซต์ กลับ ศิริราช


ปืนที่ใช้ที่ผมเห็นนะครับ

SIG SG 551-SWATอาวุธปืนชนิดพิเศษที่นักรบนิรนามใช้ ยังไม่มีในกองทัพไทย ใช้ระบบ3Max

- ปืนไม่ทราบชนิด ว่ารุ่นไหนติดลำกล้อง ใช่ปืนพิเศษหรือเปล่าครับ

ที่ หนักๆห่ออยู่ในเสื่อแบกมา น่าจะเป็น อันนี้  RPG-2



อาวุธที่ใช้ (เท่าที่เห็นแบบชัดเจนครับ)


AK-47 พับฐาน
-AK-47 อาร์ก้า (ไม่ ได้เอาออกยิง)

M-4 , M16 A4
-M-16 หลายแบบแต่คล้ายกัน ต่างก็ที่ด้ามกับลำตัวนิดหน่อยครับ ไม่รู้รุ่นไหนบ้างครับ อีก 2 กระบอก

-ลูก ซองสั้น


น่าจะเป็นกระบอกนี้ M-79 อีโบ๊ะ

-เครื่องยิงลูกระเบิด ที่ได้ยินเสียงโบ๊ะแล้วนับไปอีก 5 วินาที ก็จะได้ยินเสียงระเบิดครับ

-อีก หลายๆกระบอก จะไม่เหมือนกัน สักกระบอกเลยครับ อยู่ไกลครับ ที่เหลือพี่เขาเอาเสื้อคลุมไว้ ถุงดำ
  เสื่อคลุม ยิงเสร็จเก็บใส่เป้ เลยไม่รู้ว่าเป็นรุ่นไหนครับ

**** จำนวน  8 คน ที่เห็นถืออาวุธ ส่วนที่เหลือ คือคนถือลูกปืน คนดูตำแหน่ง บอกตำแหน่งยิง รวมแล้ว
         ประมาณ 10-15 คน  เฉพาะที่ด้านสีลมนะครับ

-- ที่ด่านอื่นได้ยินเสียงปะทะน่าจะแบ่งกันช่วยแต่ละด่านครับ

-- แต่เพื่อนที่ชื่อเบียร์ บอกทหารพรานเข้ามา ก่อนวันที่13 แล้วครับ





"เท่าที่ผมสังเกตุ ดู การที่ รัฐบาล ยังไม่กล้าเข้าสลาย
 เพราะกลัว กองกำลังนิรนาม ที่มาช่วยเรานี่เอง"

   รายงานจาก "นักข่าวนิรนาม"



**ทั้งหมดนี้ คือเรื่องแต่ง มิใช่เรื่องจริง กรุณาอย่านำไปอ้างอิง เพราะเรานั่งเทียน
    หลักฐานสิ่งเดียวที่ปรากฏ คือ เทียน ที่ถูกนั่งทับเท่านั้น

รุ่งศิลา
17 พฤษภาคม 2553


click to  
zoom

เอาไปอ่านแก้ขัด เคืองกันก่อนนะครับ
แต่ละยุทธวิธี ก็ต้องใช้ในแต่ละสถานะการณ์ที่ต่างกัน

เมื่ิอ คืน 16 พค.53
อาคารก่อสร้าง "ชีวาทัย"
ข้าง Century park hotel

กองกำลัง นักรบ นิรนาม ชุดแรก 50-60 นาย ชุดสอง ไม่ทราบจำนวน (ไม่เห็นตัว)
แต่....ที่ มาบอกว่าชุดใหญ่
ชุดแรก  ปูทาง คุ้มกัน
ชุดสอง  กวาดล้าง

ยิงปะทะ กันตั้งแต่ 03.50-04.58 น.
ชุดแรก         เปิดทางด้วย หัวปลี  RPG ถล่มนำ
ก่อน ชุดสอง  เข้าชาร์ทกวาดล้าง ชุดซุ่มยิงสไนเปอร์ Snipersของทหารที่ฝังตัวซุ่มบนอาคาร ยิงกันสนั่น

ทำ ให้ฝ่ายทหาร แตกหนีกระเจิง บางส่วนยังแอบซุ่มหลบอยู่ในตัวอาคารชั้นบน เพราะหนีลงมาไม่ได้
จึงมีการ จุดไฟเผาสุมควันตั้งแต่ ชั้น9 เพื่อไล่ล่าหน่วยซุ่มยิง ให้ลงมาจากตัวอาคาร ตามภาพที่เห็นในวันนี้(17พค.53)

ล่าสุดเวลา08.45น.ทหารซุ่มยิงที่อาคาร ก่อสร้าง"ชีวาทัย"ได้ ยิงฝ่าหนีตายออกไปเเล้ว จำนวนประมาณ12นาย1หมู่

ผลปฏิบัติการ ทำให้การก่อเหตุสลด ซุ่มยิงประชาชนมือเปล่าบริเวณนี้ ในสองวันที่ผ่านมายุติลง และ
      การ์ดนปช.แดง ขยายพื้นที่ควบคุมความปลอดภัยได้ทั้งหมด

ฝ่าย นักรบนิรนาม บาดเจ็บ 1 นาย และสลายตัวหายไปก่อนเช้าตรู่

    **สอดคล้องกับ ช่วงหัวค่ำที่ มีการยิงถล่มด้วย RPG อาคารโรงแรมดุสิตธานี
ที่ ตั้ง ศูนย์บัญชาการปราบปรามสลายการชุมนุมราชประสงค์
และ แม่ข่ายวิทยุสื่อสารบัญชาการทหาร จนยับเยิน และต้องย้ายหนี
ล่า ถอยออกมา จากโรงแรม ทำให้การสื่อสารของวิทยุทหาร
สั่งการแต่ละหน่วย ชะงักงัน สับสน


   




*** ปล.อีกเรื่องขออภัยท่านที่เคารพ  คือ พวก อั้ย ส้น ตรีน ICT และ ศูนย์อำนวยความฉิบหาย ศอ ฉ. พวก
มรึงเลิกโง่ ตามบลอคหน้าเวปไซต์กรูได้แล้ว โง่แล้วยังทะลึ่งมาทำงาน ไฮเทคไซเบอร์ แบบว่ากรู ขี้เกียจก๊อปปี้
ซอสโค๊ดไปสร้างทวีคูณหนะ จำไม่ได้แล้วว่าตัวเองมีกี่เวปไซต์   เห็นใจกรู้เหอะน๊ะ ฟายจริงจิง โง่แล้วเสือกอยาก
ทำงาน อินเตอร์ กลับไปทำงาน อินดอร์ เหมือน เดิมเถอะว๊ะ  กรูเวทนา



เย้ยหยัน

3 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ศูนย์อีแอบครองเมืองกระเทยทั้งกรุ๊บเกย์ทั้งกระบิเกิดจากท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยเห็นกระเทยโหดขนาดนี้คงเก็บกดมานานน่าจะให้หมอเช็คสภาพจิตใจก่อนจะสมัครตําแห่่น่งหน้าที่ว่าพร้อมหรือเปล่า/คนนะไม่ใช่หมาแมวอยากยิงก็ยืงไอ้สัตว์

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ก็มันรอไง รอให้พวกมรึงเหิมเกริมก่อไฟ กันมากๆ จะได้มองไม่เห็นลูกปืน มันปล่อยให้พวกมรึง บ้ากันให้ได้ขนาด จะได้ฆ่า โดยมีข้ออ้าง โดยมีข้ออ้างว่า อ้ายพวกแดงโง่ มรึงควรตายกันได้แล้ว เสือกโง่เชื่ออ้ายหัวขวดและอ้ายหน้าเหลี่ยม ว่าถ้าเสียงปืนดังนัดแรกเมื่อไร ข้าพเจ้าอ้ายหน้าเหลี่ยมจะถือธง นำหน้า เราจะสู้หัวชนฝา (ที่ดูไบ โว้ย ควายแดง)เรื่องอารายจะไป ตังก็เสียไปหลายบาท หลอกควายไปตายเสียบ้าง

กระทิงครับ กล่าวว่า...

สมน้ำหน้า ไม่รู้หรือไง ประชาธิปัตย์ชอบพูดเสมอว่าหลอกให้คนไปตาย
คำพูดนี้คุ้นมั้ย ใครพูด และมันก็ทำเสมอ รอให้มีการปั่นป่วนมันได้ใช้กำลังอย่างมีข้ออ้างไง อย่างมีข้ออ้างไง