วันเสาร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ร่างหนึ่งได้รับการเอออวยสรรเสริญปานนางฟ้าเทพธิดา ส่วนอีกร่างแม้สิ้นชิวิตด้วยภารกิจแสนงดงามกลับมีเพียงเสื่อเก่าๆคลุมห่อไว้

html tracking
จำนวนเข้าชม

เธออาจมิใช่ "วีรสตรี" ของใคร แต่เธอคือ "นางฟ้าในหัวใจ" ของคนอีกนับล้าน


คุณเกตุ อาสาพยาบาลสนาม ถูกลอบยิงขณะพยายามช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บ
ใน เขตอภัยทานหลวง วัดปทุมวนาราม ราชวรวิหาร

  ร่างหนึ่งได้รับการเอออวย สรรเสริญปาน นางฟ้าเทพธิดา  ส่วนอีกร่าง
   แม้สิ้นชิวิตด้วย ภารกิจ แสนงดงาม กลับมีเพียงเสื่อเก่าๆคลุมห่อไว้



   
    ภาพ น.ส.กมนเกด อัคฮาด อายุ 25 ปี พยาบาลอาสา ..

ที่ถูกยิง เสียชีวิต ที่วัดปทุมวนารามในขณะกำลังปฎิบัติหน้าที่ ช่วยเหลือประชาชนที่บาดเจ็บ..
วันนี้นปช.แดงทั้งแผ่นดินเป็นเจ้าภาพ ที่วัดปากบึงแถวร่มเกล้า..ขอให้ไปสู่สุขติคับ..
มีพวงหรีดจาก นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส่งมา แต่หัวหน้าคุณเกดบอกให้เอาคืนไป (ส่งคืนเจ้าของ)

click to zoom

งานศพ คุณกมลเกตุ พยาบาลอาสา
 ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดปากบึง ลาดกระบัง
โดยนายกฯ ส่งพวงหรีดไปด้วย แต่ญาติไม่ได้เอามาตั้ง
ป.ล.ขอบคุณท่านเจ้าของ ภาพด้วยครับ
เครดิต คุณชายเอี่ยว  ประชาไท
http://www.prachataiboard.info/board/id/46416



ร่างของ คุณเกตุ หรือ น้อง เกตุ    พยาบาลอาสา ที่เสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่
ถึงแม้เธอจะมิใช่พยาบาลวิชาชีพ แต่เธอก็เป็นพยาบาลแท้ด้วยจิตวิญญาณที่สูงส่ง
อุดมการณ์เธอเด็ดเดี่ยวในความมุ่งมั่นที่จะช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์  ซึ่งแตกต่างเหลือเกิน
กับเด็กดีของ คนบางคนที่เป็นวีรสตรีผู้มุ่งมั่นส่ง เสริมการทำร้ายเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ร่างสองร่างของหญิงสาว ที่เสียชีวิตต่างเหตุการณ์ ร่างหนึ่งได้รับการเอออวยสรรเสริญ
ปานนางฟ้าเทพธิดา ส่วนอีกร่างแม้สิ้นชิวิตด้วยภารกิจแสนงดงามกลับมีเพียงเสื่อเก่าๆ
คลุมห่อไว้

เราจะระลึกถึงเธอไว้ เพราะเธอคือ เด็กดีของหญิงชายผู้เฒ่านับแสนนับล้านคน

"นางฟ้าที่แสนดี วีรสตรีผู้สวมเสื้อคลุมขมุกขมอม ในหัวใจของไพร่" ตราบเท่านาน

click to  zoom
คุณกมลเกตุ อัคฮาด เจ้าหน้าที่อาสาของสภากาชาดไทย ถูกยิงที่ศีรษะ 2นัด ทำให้สมอง
ถูกทำลาย ในขณะกำลังช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บ เสียชีวิตภายในเต็นท์พยาบาล พร้อมเพื่อนร่วมงาน

click to  
zoom
หน่วย ซุ่มยิง บนรางรถไฟฟ้า หน้าวัดปทุมวนาราม

เมื่อ วันที่ 24 พ.ค. ที่ศาลาดำ วัดปากบึง แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กทม. สถานที่ตั้งสวดอภิธรรม
ศพ น.ส.กมนเกด อัคฮาด อายุ 25 ปี อาสาสมัครพยาบาล อีก 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม ผู้สื่อข่าว
เดินทางไปพบ นายทับทิม อายุ 53 ปี อาชีพลูกจ้างกรมศุลกากร  และ นางพะเยาว์ อายุ 45 ปี อาชีพค้าขาย
บิดาและมารดาของน.ส.กมนเกด พร้อมทั้งญาติๆ ที่กำลังช่วยกันดูแลงาน

นาย ทับทิม เปิดเผยว่า น.ส.กมนเกด มีชื่อเล่นว่าน้องเกด แต่คนในครอบครัวและเพื่อนสนิทจะเรียกหมู น้องเกด
จบการศึกษาจากโรงเรียนการบริบาล ด้านผู้ช่วยพยาบาล หลังจากนั้นก็มาฝึกงานที่โรงพยาบาลกรุณาพิทักษ์ได้
ประมาณ3ปีแล้ว ปัจจุบันยังไม่มีอาชีพประจำ แต่ไปช่วยเพื่อนซึ่งประมูลงานที่การไฟฟ้าสามเสนด้านงานเอกสาร
ปกติบุตรสาวจะเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือคนเจ็บอยู่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ประจำจุดลาดกระบัง อยู่เป็นประจำ หลังเหตุ
การณ์ เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่มีการปะทะระหว่างทหารกับกลุ่มผู้ชุมนุม บุตรสาวพร้อมกับเพื่อนๆ จึงเข้าไปเป็นพยา
บาลอาสา ช่วยดูแลผู้ชุมนุมที่เจ็บป่วยบริเวณแยกราชประสงค์

พ่อ ผู้ตายกล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ ทราบจากแม่เขาว่าบุตรสาวเข้าไปช่วยดูแลคนเจ็บที่แยกราชประสงค์เหมือนกับ
ทุกวัน จนกระทั่งมีข่าวการปะทะกัน แม่ของน้องเกดก็พยายามติดต่อบุตรสาว แต่ไม่สามารถติดต่อได้

จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. ภรรยาของตนจึงได้พูดคุยโทรศัพท์กับบุตรสาว  ถามว่าจะกลับบ้านได้หรือไม่
บุตรสาวบอกว่าช่วยคนเจ็บอยู่ที่วัดปทุมวนาราม ถ้าเสร็จงานแล้วก็จะกลับบ้าน ภรรยาของตนยังบอกไปว่ารัฐบาล
เขาประกาศเคอร์ฟิวแล้ว ให้หลบอยู่ภายในวัดรอจนเช้าแล้วให้รีบกลับบ้านระหว่างที่บุตรสาวพูดคุยกับ แม่เขาอยู่นั้น
ก็บอกว่าแม่แค่นี้ก่อนมีคนเจ็บ จากนั้นวางโทรศัพท์ไปและก็ติดต่อกันไม่ได้อีกเลย จนกระทั่งเวลาประมาณ20.00น.
จึงมีเพื่อนของเขาโทรศัพท์มาบอกว่า บุตรสาวถูกยิงเสียชีวิตแล้ว

นายทับทิม กล่าวต่อว่า คนเป็นพ่อเป็นแม่ ก็ต้องรู้สึกเสียใจที่ต้องมาสูญเสียลูก ซึ่งก็ไม่ใช่ครอบครัวตนครอบครัว
เดียวที่ได้รับความเดือดร้อน  ยังมีอีกหลายครอบครัวที่ต้องสูญเสียเช่นเดียวกัน แค่นี้ก็ดีใจแล้วที่ได้ศพบุตรสาวมา
บำเพ็ญกุศล เนื่องจากเมื่อทราบข่าวลูกเสียชีวิต ก็ติดต่อกับคนที่อยู่ในวัด  ไม่มีใครรู้ศพลูกไปอยู่ตรงไหน แม่เขาก็
ร้องไห้เป็นห่วงศพลูก   แต่ก็รู้สึกภาคภูมิใจที่บุตรสาวได้เข้าไปช่วยเหลือคนบาดเจ็บ  ถึงแม้จะต้องมาเสียชีวิต  ซึ่ง
ครอบครัวก็ทำใจยากที่หมูต้องมาจากไปโดยเฉพาะบุตรชายคนเล็กเวลาเขาไปดูภาพที่ ถ่ายเล่นกันไว้ในคอมพิวเตอร์
แล้วได้ยินเสียงพี่สาวของเขา   ก็ยังร้องไห้อยู่ตลอดเวลา  สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ค่อนข้างสาหัสอยู่เหมือนกัน
สำหรับการสูญเสียบุตรสาว ซึ่งหมูหรือน้องเกดจะเป็นคนที่ช่วยเหลือครอบครัวมาตลอด เมื่อเรียนจบ ม.3 เขาก็รู้ว่า
พ่อแม่ไม่ค่อยมีเงิน จึงไปเรียนกศน.จนจบม.6 แล้วเข้าเรียนโรงเรียนการบริบาล   เมื่อก่อนนั้นครอบครัวเราก็จะช่วย
กันทำอาหารสำเร็จรูปขายบริเวณปากซอยบ้าน แต่มาหลังๆยายของเขารวมทั้งภรรยาของตนร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง
เขาจึงไปหาแผงที่ตลาดคุ้มเกล้า ไว้สำหรับร้อยพวงมาลัยขาย คนในครอบครัวก็จะไปช่วยกันร้อยพวงมาลัย สำหรับ
ตนก็จะสนิทกับน้องเกดค่อนข้างมาก เมื่อตนเลิกงานก็จะไปช่วยเขาร้อยพวงมาลัย

พ่อผู้ตาย กล่าวว่าน้องเกดมีนิสัยร่าเริงขี้เล่น ชอบช่วยเหลือคนและเป็นเด็กที่ดีมาก เวลาเขาเจอตนก็จะเข้ามาเล่นหัว
เหมือนกับตนเป็นเพื่อนเขาคนหนึ่งไม่เหมือนพ่อ   สำหรับงานศพก็มีกลุ่มนปช.มาเป็นเจ้าภาพ 2 คืน  ตนก็ไม่ได้อะไร
ในเมื่อตอนมีชีวิตน้องเกดเขาไปช่วยดูแลคนเจ็บคนป่วย เขาก็คงอยากมาช่วยงานศพ ทั้งที่คนที่มาก็ไม่เคยรู้จักกันมา
ก่อน บางคนมาไหว้ศพ เมื่อเห็นรูปน้องเกด ยังพูดว่าน้องคนนี้เองหรือ เคยเห็นมาเดินแจกยาดมอยู่เป็นประจำ หลังเกิด
เหตุก็ยังไม่เห็นมีใครติดต่อมาเรื่องงานศพ มีเพียงกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ส่งเจ้าหน้าที่
เข้ามาสัมภาษณ์ แล้วก็กลับไปโดยบอกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือภายหลัง สำหรับค่าใช้จ่ายก็ได้จากซองที่คน
มาช่วยงาน

ด้านนางพะเยาว์ เปิดเผยว่า หมูหรือน้องเกด เป็นคนชอบช่วยเหลือคนมาตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว เมื่อตอนขณะเรียนอยู่ม.3
ยังหนีโรงเรียนไปอยู่กับเพื่อนๆ เพื่อช่วยเหลือคนเจ็บ หลังจากเรียนจบผู้ช่วยพยาบาล  ไปฝึกงานที่โรงพยาบาลกรุณา
พิทักษ์ แล้วได้เข้าไปช่วยเหลือคุณหมอและพยาบาลในห้องผ่าตัด ซึ่งเขาชอบมาก เขาไม่อยากไปอยู่ห้องยา เขาอยาก
ช่วยเหลือคนเจ็บป่วย เมื่อเรียนจบมายังเข้าไปอบรมการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับอาสาสมัครกู้ภัย ป่อเต็กตึ๊งอยู่เป็น  
ประจำ โดยในวันที่ 19 พ.ค. ติดต่อกับเขาไม่ได้ตลอดทั้งวัน ซึ่งผิดปกติ จนกระทั่งเวลา 18.00 น. จึงโทรศัพท์ติดต่อ
เขาได้ ถามว่าอยู่ตรงไหน เขาก็บอกว่าช่วยเหลือคนเจ็บอยู่ภายในวัดปทุมวนาราม ระหว่างที่พูดคุยกันก็จะมีเสียงดังมาก
ทั้งเสียงคนเจ็บและเสียงปืน ตนยังถามไปว่าทำไมเสียงดังจัง เขาบอกว่าตอนนี้มีการยิงกันอยู่ตนก็บอกไปว่าวันนี้ไม่ต้อง
กลับบ้าน รัฐบาลเขาประกาศเคอร์ฟิวแล้ว ให้นอนอยู่ที่วัดจนเช้าแล้วค่อยกลับบ้าน ตนก็พูดคุยกับเขาได้แค่นั้น เพราะเขา
บอกว่า แม่มีคนเจ็บ แล้วเขาก็วางสายไป

มารดาน้องเกด กล่าวว่า จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00น. เพื่อนเขาที่อยู่ด้วยกัน ก็โทร.มาบอกกับน้องชายตนว่า หมูเสีย
ชีวิตเพราะถูกยิง ตอนแรกน้องชายก็ยังไม่ยอมบอกแต่สามีของตนบอกว่าอย่างไรก็ต้องบอกแม่เขาน้อง ชายจึงเดินมาบอก
ซึ่งตอนแรกไม่เชื่อ เพราะเห็นว่ามีอาสาพยาบาลอยู่หลายคนยังถามน้องชายไปว่าผิดคนหรือเปล่า แต่ก็ฉุกคิดได้ว่าลูกเรา
เขารูปร่างอ้วน น้องชายก็บอกว่าไม่ผิดหรอก หมูถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ตอนนี้ศพอยู่หน้าวัดปทุมฯ จากนั้นก็ติดต่อกับเพื่อนลูก
ไม่ได้อีกเลย จนกระทั่งเช้าจึงไปหาเบอร์โทรศัพท์วัด แล้วโทร.เข้าไปหาพระแล้วถามว่าศพลูกสาวอยู่ที่ไหน เราจะเข้าไป
รับศพ หลวงพ่อท่านก็บอกว่าศพอยู่ภายในวัด ยังไม่ต้องเข้ามา เนื่องจากยังมีการยิงกันอยู่ ยังอันตรายมาก แล้วอีกอย่าง
ศพยังจะต้องถูกส่งไปผ่าพิสูจน์ที่นิติเวช โดยทางวัดจะดูแลศพให้อย่างดี จากนั้นเพื่อนลูกจึงโทร.มาบอกว่าหลังหมูถูกยิง
เพื่อนได้ช่วยกันลากศพเข้ามาภายในวัด    โดยไม่ยอมให้ใครเอาศพไปได้  จนวันที่ 21 พ.ค. ตนและสามีจึงไปรับศพมา
บำเพ็ญกุศลได้

นางพะเยาว์ กล่าวต่อว่า ปกติหมู หรือน้องเกด เขาไม่ค่อยกลัวอะไร ระหว่างที่เข้าช่วยเหลือคนเจ็บป่วยที่ราชประสงค์ ยัง
บอกว่าไม่เป็นอันตราย เนื่องจากเขาไปช่วยคนเจ็บ ไม่ได้ไปรบรากับใคร ซึ่งตนยังรู้สึกว่า คนที่มีเครื่องหมายกาชาดอยู่ที่
ตัว มีแค่สำลีกับกล่องยา แล้วเขาจะไปทำอะไรใครได้  เขาจะใช้สำลีกับกล่องยาเป็นอาวุธหรือ  ทำไมต้องมายิงเขาด้วย
ตนอยากฝากว่าขอให้น้องเกดเป็นคนสุดท้าย ที่มีเครื่องหมายกาชาดอยู่ที่ตัวแล้วมาถูกยิงเสียชีวิต และว่า ตนนึกไม่ออก
เหมือนกันว่าจะไปถามหาความรับผิดชอบต่อชีวิตลูกของตนจากใคร

ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกำหนดการบำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรมศพ น.ส.กมนเกด อัคฮาด อายุ 25 ปี วันศุกร์ที่ 21 พ.ค.
บิดามารดา พี่ๆ น้องๆ ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ วันเสาร์ที่ 22 พ.ค. เพื่อนพ้องน้องพี่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นเจ้าภาพ วันอาทิตย์
ที่ 23 พ.ค. และวันจันทร์ ที่ 24 พ.ค. นปช.แดงทั้งแผ่นดินเป็นเจ้าภาพ วันอังคารที่ 25 พ.ค.  แฟมิลี่ คอมพิวเตอร์ เป็น
จ้าภาพ และวันพุธ ที่ 26 พ.ค. เวลา 17.00 น. จะเป็นการประชุมเพลิง

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้จัดส่งพวงหรีดมาร่วมแสดงความเสียใจกับผู้ตายด้วย
แต่เนื่องจากทางนปช.รับเป็นเจ้าภาพ 2 คืน และจะมีตัวแทนนปช.มาร่วมงานศพด้วย ทางญาติพิจารณาแล้วเห็นว่าถ้ากลุ่ม
นปช.เห็นพวงหรีดของนายกรัฐมนตรี อาจมีปัญหาเกิดขึ้นได้ จึงให้เก็บพวงหรีดดังกล่าวไปจากงานศพ



เย้ยหยัน


   

1 ความคิดเห็น:

เก๋ กล่าวว่า...

แม่คุณเอ๋ย.. นางฟ้าของคนยาก ขอสวรรค์ชั้นฟ้าจงรอแม่อยู่เบื่องหน้าเถิด