วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

"ความ ปรองดอง แห่งชาติ 5 ประการ" คนชั่วที่ร้องขอเจรจา ต้องเร่งรีบบดขยี้และกำจัดทิ้งเสียให้สิ้นซาก

html tracking
  จำนวนเข้าชม

       โรดแมป "ความปรองดอง แห่งชาติ 5 ประการ"
    ข้อเสนอของ นาย อภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ ยุบสภาใน 4 เดือน
จากปากนายก รัฐมนตรี พลเรือนคนเดียวของประเทศไทย ที่สั่งปราบ-ฆ่าประชาชนมือเปล่ากลางถนน 2 ปี 2หน
       ให้เป็นของขวัญ วันปีใหม่ไทย เมษายนทมิฬ แด่ชาวไทย

เพราะ "คน ไทยโชคดี ที่ได้นายกรัฐมนตรีชื่ออภิสิทธิ์" .. พล.อ.เปรม

  คนชั่วที่ร้องขอ เจรจา ต้องเร่งรีบบดขยี้และกำจัดทิ้งเสียให้สิ้นซาก


click foto

ผู้เสนอการเจรจา     คือ  ผู้ได้เปรียบแต่มีธรรมะ ที่จะเว้นชีวิตแก่ผู้แพ้
ผู้ร้องขอการ เจรจา  คือ  ผู้ที่เสียเปรียบและหมดทางสู้

หากแต่คนชั่วที่ร้องขอการเจรจา     ต้องเร่งรีบบดขยี้และฆ่าทิ้งเสีย
          ให้สิ้นซาก เมื่อมีโอกาสแม้มีคุณธรรม มิฉะนั้นจักเสียใจในภายภาคหน้า


                    ประวัติศาสตร์บันทึกไว้

    ในการย้อนรอยกลับมาของ ทรราช ด้วยการกวาด ล้างที่รุนแรง
    ต่อผู้ที่ขวางทางอำนาจ อย่างโหดร้ายทารุณเสมอ
    นอกเหนือจากนักการเมืองฝั่งตรงข้ามกันแล้ว ขบวนการประชาชนประชาธิปไตย
    ก็เป็นเป้าหมายหลักที่ต้อง ถูกทำลายให้สิ้น หมดเสี้ยนหนาม และไร้พิษสง

2 ปีหลังความกระหยิ่มในชัยชนะของนิสิตนักศึกษาประชาชน เป็นบทเรียนที่ต้องนำมา
ย้อนทบทวนบาดแผลความผิดพลาดหลัง เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 เป็นต้นมา

พัฒนาการ ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยแบบ เสแสร้ง เติบใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขา
ปกคลุม ทั่วทุกระบบ ในทางเดียวกันกลับสวนทาง กับความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่
ด้วยการ ประนี ประนอมเพื่อถ่วงเวลา เสวยอำนาจครอบงำอย่างช้าช้า โดยไม่ทันให้สังเกต....
      ....เลี้ยง ไม่ให้ผอม โซ..แต่ก็จำกัดไว้ไม่ให้โตอ้วน....
  พลวัตร ของขบวนการประชาธิปไตยเติบใหญ่เคลื่อนไหวมากเท่าไร
   พัฒนาการของ ทรราชอมาตยา ก็แนบเนียน ยิ่งยิ่งขึ้น


     ต่างพวกต่างเหล่าก็ปรับปรุงตัว จากข้อผิดพลาดของตน...แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งเป้าหมาย...
                  การช่วงชิงอำนาจไว้ในกำมืออย่างยาวนานที่สุด
           โอกาส นี้ รอบ 100 ปี มีแค่ครั้งเดียว เพียงครั้งเดียวเท่านั้น .....
ถ้า แพ้อีกครั้ง ก็ดิ้นรนหาหนทางรอดตัวใครตัวมันเถิด แล้ว อย่าลืมบอกลากันด้วย ...
เพราะ นี่คือ เดิมพัน ครั้งสุดท้าย ของกลุ่มพลังรากหญ้าที่สะสมความพ่ายแพ้
มาโดยตลอด อย่างยาวนาน


    โค่น กล้วยอย่าไว้หน่อ ฆ่าพ่ออย่าไว้ลูก หมายความว่า จะคิดกำจัดศัตรู ปราบพวกคนพาล
    ให้หมดสิ้นทีเดียวแล้ว ก็ต้องปราบให้เรียบอย่าให้พรรคพวกของมันเหลือไว้เลยแม้แต่คนเดียว
    .มิฉะนั้นพวกที่เหลือนี้จะกลับฟื้นฟูกำลังขึ้นมาเป็นศัตรูกับเราภายหน้าได้ อีก

    ตัด หวายอย่าไว้หนามหน่อ ฆ่าพ่ออย่าไว้ลูก ซึ่งจะเลี้ยงไว้นั้นหาประโยชน์ไม่
่    จะเป็นเสี้ยนหนามไปภายหน้า ใช้ตลอดถึงการทำลายล้างคนพาลสันดานโกงต่างๆ

        มันฝังรากลึกในสังคมไทย ถ้าไม่ถอนรากถอนโคน
             ก็คงต้องทนให้หนามมันทิ่มตำต่อไป


                                              
 click foto

10 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผมคนหนึ่งพร้อมที่จะต่อสู้ตามวิถีประธิปไตยต่อ

vimada กล่าวว่า...

ความปรองดองรึ อยากจะอ้วก ไปทำกฎหมายให้เลิกอยู่ในโหลดองก่อนดีกว่ามั๊ย

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

พวกอีกาที่คิดว่าตัวเองเป็นสีขาวช่างน่าอดสูจริงๆๆๆๆๆตอแหลอแลนด์จริงๆ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ความอำมหิต ชั่วช้า เข่นฆ่าหมู่มวลมนุษย์ ทั้งคนฆ่า/สั่งจะต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสม ไม่วันใดวันหนึ่ง...

คนไทยเดิ้ง เซิ้งกวี กล่าวว่า...

มาเยี่ยมครับ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอยกย่อง การรับโทษของคุณ ณัฐวุติ หมอเหวง คุณวีระ และ คนอื่นๆที่ยอมเสียสละรับโทษ ไม่หมือนพวกบางพวกที่ยืนลอยหน้าลอยตาในสังคม ทั้งที่มันยึดสนามบิน แต่ไม่ผิด น่าเวทนาจังความยุติธรรมไทย สองมาตรฐานหน้าด้านจริงๆ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

อำมาตย์จงพินาศ ประชาธิปไตยในภาคประชาชนจงเจริญ

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

จะปรองดองไปทำไม ผิดต้องผิด ถูกต้องถูก ( คาถาหลอกควายแดงอะไรก็อำมาต )

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

เรื่องชายชุดดำ พวกแกนนำในการเผาบ้าน เผาเมือง จะแก่ตัวอย่างไรก็ไม่รอด เพราะหลักฐานชัดเจนมาก อย่างดีที่สุดก็แค่ยืดเวลา เมื่อถึงที่สุดแล้ว คุก คุก คุก

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ไอ้ตู่ไมถูกเสนอชื่อเป็น ร ม ต ก็โทษอำมาตย์ อำมาตย์คงเหมือนแก๊สโซฮอล ( คาถาหลอกควายแดงอะไรก็อำมาตย์ )