วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2556

Men In Black ... "ชายชุดดำ" เสื้อแดง

                               

"รุ่งศิลา" เชื่อว่าหลายท่าน ยังไม่เคยอ่านเคยทราบข้อมูลนี้ ผมได้รับมาจาก น้องชายคนหนึ่ง ที่เป็นการ์ดอาสา
ส่งมาให้โดยตรงในช่วงวันสุดท้าย ก่อนมีการสลาย ที่ ราชประสงค์ พฤษภาคม 2553 เน้นเรื่อง "คนชุดดำ"
บุรุษ รัตติกา
การปรากฏตัวของ "นักรบนิรนาม"
Posted Image
ภาพประกอบ เกี่ยวข้องกับเนื้อหา มิใช่ภาพจริงในเหตุการณ์

เหตุการณ์ 13 พฤษภาคม 2553
เริ่มแรก เย็นวันที่ 13/05/2010 ผมนั่ง TAXI ไปถึงราชประสงค์ก็ประมาณ 5โมงเย็นครับ พอถึงก็นั่งฟังเขาปราศรัย
ที่เวทีทางด้านขวาตรงช้างตัวใหญ่ๆครับ ซักพักใหญ่ๆก็มีรถไฟฟ้าBTSมาจอดตรงกับZEN หลายรอบแล้ว ก็แล่นกลับไปกลับ
มาจอดบ้าง มาชะลอดูบ้าง ทำให้แถวๆนั้นผู้คนแตกตื่นมากครับ พอซักพักใหญ่ๆผมก็เดินไปที่ ด่านสีลม
(ปรกติถ้าไปผมจะ
ไปด้านนี้ด่านอื่นไม่เคยไป)
ผมเดินไปเรื่อยๆครับ จนถึงแยกก่อนที่จะถึง รพ.จุฬาฯ ก็เห็นคนวิ่งแตกตื่นกันอลม่าน ก็เลยถาม
คนที่วิ่งมา เป็นผู้หญิงอายุประมาณ30กว่าๆ แกก็บอกว่า
"เสธแดงโดนยิง" ผมก็รีบเดินไปต่อ แต่ตอนนั้นเท่าที่ดูไม่มีแกนนำ
หรือใครที่จะเป็นคนคุมมวลชนที่นั่นเลย ผู้คนแตกตื่นกันมาก ทุกคนที่วิ่งมาปากก็บอกว่า
เสธแดงโดนยิงๆตลอดทาง แล้ว
ผมก็เห็น รถคันสีขาว ที่ใช้พาอาแดงของเราไป รพ.หัวเฉียว หรือเปล่า ไม่แน่ใจแต่ที่แน่ๆคนที่อยู่บนรถก็ตะโกนโหวกเหว
กให้หลบไปๆ



ผมเดินไปต่อ สวนทางกับคนที่วิ่งแตกตื่นมาตลอดทาง เจอพี่คนหนึ่งตัวใหญ่ๆสูงขาวบอกว่า ขออาสาใครที่กล้า
ไปช่วยกันที่ด่านสีลม ผมก็เดินไปกับพี่เขา ปากก็บอกว่า ขอคนกล้าไปช่วยกันที่ด่านสีลม แต่ไม่มีใครตามมาเลย วิ่งกลับกัน
หมด ทั้งนักข่าวต่างประเทศ ก็วิ่งหน้าตาตื่นกลับมาหลายคนเหมือนกัน พอมาถึงด่านที่ติดกับตึก รพ.จุฬาที่ตั้งด่านปิดถนนทั้ง
สองฝั่งก็มี
ระเบิดตู้ม ! ..เห็นเต็มตา ..เท่านั้นครับผมก็หมอบหน้ารถเก๋งคันหนึ่งที่จอดอยู่ เพราะมีเสียงระเบิดอีกหลายลูก

.. ผมไม่ทราบว่ากี่ลูกแต่มากกว่า 3 ลูก เท่าที่ผมได้ยินปนกับเสียงปืนไม่รู้ยิงจากไหนลงจุดไหน ยิงอีกหลายนัด ผมก็หลบ
แต่พยายามมองไปข้างหน้าที่ระเบิดตกแล้วมองหาคนที่ยิงปืนออกมาจากข้างใน รพ.จุฬาฯ

(ตอนนั้นผมคิดว่ายังไงๆเสียงระเบิดและปืนไม่แน่ใจว่าเป็นM16หรือเปล่า น่าจะยิงออกมาจาก รพ.จุฬาแน่ๆครับ)
ณ.เวลานั้น จากเสียงที่ได้ยินผมคิดว่าเป็นเช่นนั้น ตอนนั้นยังไม่มีใครกล้าไปอยู่ ข้างๆด่านวิ่งหลบกันวุ่น ปาก
ก็ตะโกนว่า ดับไฟทุกดวง ดับไฟๆ...ใครมีหนังสะติ๊กก็ยิงหลอดไฟที่อยู่ที่สูง ขณะที่พวกผมกำลังเอาสิ่งของที่พอจะเก็บหาได้
เพื่อปาหลอดไฟตามทางตามเต้น แต่มีหลอดหนึ่งที่อยู่ติดด่าน ยิงยังไงก็ไม่ดับ มีลูกกระสุนยิงมาใส่หลายนัด
ปัง ปัง ปัง! จาก
ข้างใน รพ.อันนี้ผมเลยแน่ใจว่า ยิงมาจาก รพ.จุฬาแน่ๆ ฝ่ายเรามีแค่
บั้งไฟ ที่พอจะจุดยิงเข้าไปฝั่ง รพ.จุฬาได้กับ หนังสะติ๊ก
(ผมรู้สึกอนาถใจมากครับ หนังสติ๊ก กับ บั้งไฟ ไม่กี่อันสู้กับ M79 กับ ปืนของทหาร ที่ยิงสวนมาเป็นระยะๆ)

Posted Image
ภาพประกอบ เกี่ยวข้องกับเนื้อหา มิใช่ภาพจริงในเหตุการณ์
ไม่มีใครถูกกระสุน ตรงที่ผมอยู่ ใต้รางที่ รถ BTS วิ่ง แต่ข้างในด่าน มีมอเตอร์ไซค์พาคนที่ ถูกยิง และโดนสะเก็ด
ระเบิดไปส่ง รพ. พวกผมก็พยามยามปรึกษากันว่า จะดับไฟทีเสาต้นนี้อย่างไร มันอยู่สูงครับ พอมีคนไปยิงหลอดไฟให้ดับทหาร
ใน รพ.จุฬาก็ยิงปืนสวนออกมา พวกผมก็หลบกันหลังรถบ้าง ตามเต้นท์บ้าง แต่กระสุนไม่ถูกใคร หลอดไฟก็สว่าง พี่ๆแถวนั้นเขา
ก็พากันยิงจนดับ เสียงปืนเงียบลง คนที่ใส่เสื้อสีขาวเราก็บอกว่าให้หาเสื้อสีดำมาเปลี่ยน ใครที่จะเข้าไปที่เต้นท์ ส่วนมากเป็นพี่
ผู้หญิงที่อยู่ประจำเต้นท์ จะกลับเข้าไป ซึ่งตอนนั้นพวกผมคิดว่ายังอันตรายอยู่ ก็บอกว่าพี่อย่าพึ่งเข้าไป ใครที่ใส่เสื้อสีขาว ก็ให้
ไปหาเสื้อเปลี่ยนใหม่ พอเราแน่ใจว่าเริ่มไม่มีเสียงปืนแล้วเราก็พากันหมอบไปตาม ทางด้านถนนที่ติดกับสวนลุมเพื่อความปลอด
ภัย เพราะไฟสว่า
พวกเราก็ตะโกนให้ดับไฟให้หมด เพื่อใช้ความมืดพรางตัวไม่ให้ตกเป็นเป้า พอกระสุนปืนเงียบ ผมก็ไป
รวมตัวกลุ่มหลังเต้นท์ ติดสวนลุมฯตรงถนน .. ก็คุยกันว่า

" อาแดงของเราโดนยิงตรงไหน "

Posted Image
อ่านลิ้งค์ ...
เชื่อไหมครับ เท่าที่ผมรู้สึกได้ ทุกคนที่ด่านสีลม เขาเชื่อและศรัทธาอาเสธแดงของเรามาก แบบไม่รู้ว่าผมจะพูดยังไง
ขนาดในเวปเวลาที่ผมคุย ตาม C-BOX ต่างๆ อาเสธฯแดง คือคนที่เราพูดถึงมากที่สุด ทั้งด่านสีลมและในโลกไซเบอร์ ที่ผม
เคยคุย
"อาแดง คือ ขวัญและกำลังใจ อย่างไม่กล่าวอ้างไม่ได้ ผมเชื่ออย่างนั้นครับ"แล้วเราก็นั่งคุยกัน พยายามไม่เคลื่อน
ไหว ผมก็เลยได้รู้จักกับเพื่อนอีกสองคน ที่เขาอยู่ที่ด่านนี้ตลอดชื่อ
เบียร์ (เป็นคนอุดร) กับ ต้น(จำจังหวัดไม่ได้ครับ) แล้วก็นั่ง
คุยกันเรื่อยๆซัก 30 นาทีได้ แต่แล้วอยู่ดีๆ ก็มีคนเดินมาแล้วบอกห้ามเข้าไปตรงนั้น
มีพี่ๆกลุ่มหนึ่งที่เพิ่งมาถึง จากการแต่งตัวผมคิดว่าไม่ใช่การ์ดแน่ๆ แต่งตัวเหมือนทหาร
เริ่มเดินมาแถวที่พวกผมนั่งอยู่ แล้วผมก็สังเกตุที่กระเป๋าเป้ ผมก็รู้สึกถึงคำว่า
"นักรบโรนิน"

ขึ้นมาทันที่ ที่อาแดงเคยพูดบ่อยๆในเวปที่อ่านเจอ และสักพักก็มีพี่คนหนึ่งมาฝากถุงสีดำอะไร

ก็ไม่รู้ แต่หนักบอกแค่ว่า ห้ามดูดบุหรี่ใกล้ๆนะ
แล้วแกก็ไปสมทบกับกลุ่มของแกอีกเต้นท์หนึ่ง เราก็นั่งต่ิคุยกันไปเรื่อยๆ และพี่เขาบอก
"ห้ามคนเข้าไป บริเวณที่แกบอก เพราะตอนนั้นพอคนที่วิ่งหนีจากเต้นท์เริ่มทะยอยกลับเข้าไปเก็บของส่วนตัว พี่ๆเขา
ก็บอก
ไม่ให้เข้าไป อันตราย" บริเวณนั้นจึงไม่มีใครเข้าไปได้ นอกจากนักข่าวที่ดื้อจริงๆ พี่ๆก็ปล่อยไปบอก ..ช่าง! เขาเตือน
แล้วว่ามีพลซุ่มยิงตามตึก
สักพักพี่เขาก็มาเอาถุงคืน และผมช่วยถือไปถุงหนึ่ง แต่อีกถุงต้องใช้สองคนยกไป ค่อนข้างหนักมาก
เมื่อเหตุการณ์เริ่มปรกติ น้องที่ชื่อเบียร์ก็พาผมไปนอนที่เต้นอุดรฯ ติดด่านตรงทางลงรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT จุดที่
อาแดงโดนซุ่มยิงครับ สักพักก็มีคนมาก่อกวนที่ด่าน มี ยิงหนังสติ๊ก+ปาหินใส่ ส่วนที่ด่านฝั่งเราก็ จุดบั้งไฟ+ปาหิน+จุดประทัด
ยักษ์
ใส่บ้าง แต่ ช่วงหนึ่งมีคนขี่มอเตอร์ไซต์ มาปาระเบิดมือใส่ ตอนนั้นผมยืนบนยางนอกรถ ที่กองซ้อนเป็นด่าน มองเห็นคน
ที่ขี่มาปาระเบิด อายุประมาณ 21-25 ปี ผมคิดว่าน่าจะเป็นทหารเกณฑ์ครับ เสียงสนั่นเลย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากนั้นสักพักก็
มีเสียงปืนยิง พวกเราต้องวิ่งหนีเป็นระยะๆ ตอนนั้นที่ตอบโต้ได้ก็มีแต่
หนังสติ๊ก กับ บั้งไฟ เท่านั้น จนมีเสียง ปืน+M-79 ที่ยิงมา
จากตึก น่าจะเป็นโรงแรม ที่เขาบอกว่า
สไนเปอร์ ยิง อาแดง (โรงแรมเอราวัณ หรืออะไรเนี่ยแหละ)

เขายิงมา เราก็ได้แต่วิ่งหลบตามเต้นท์อย่างเดียวเอน็จอนาถครับ M-79 ทหารยิงใส่ หน้าด่าน เพื่อก่อกวนพวกเรา 3-4ลูก
สงสัยจะไม่ไห้ได้พักผ่อนมั้งครับ ช่วงนั้นค่อนข้างตึงเครียด จนพี่ที่ (น่าจะ)เป็น ทหารโรนิน เขาอดไม่ได้มั้งครับ ที่ทหารยิงเราฝ่าย
เดียว เขาก็เลยยิงสวนไปบนโรงแรมนั้น ชุดละ 6-7นัด ประมาน 2 ชุด ยิงใส่ทหารที่ ส่องยิงลงมาจากบนตึก (ยังมีรอยกระสุนอยู่เลย)
อีกคนน่าจะเป็นปืนสั้น ยิงจนหมดแม็ก แล้วบนตึกก็เงียบ หลังจากนั้นไม่มีการยิงมาหน้าด่านอีก แต่ที่

ฝั่งถนนวิทยุก็ได้ยินเสียงระเบิด ปืนดัง เห็นบอกว่าเสื้อแดงเราตายไป 1คน โดนทหารที่ ด่านสอง ยิง
ส่วนที่
ด่านสาม ไม่รู้เป็นทหารหรือตำรวจครับ ยิงกันฝั่งนั้น ก็ได้ยินเสียงปะทะนานเหมือนกัน
จังหวะนั้น ผมเลยหยิบโทรศัพท์มาดูเวลา ปาไปเที่ยงคืนกว่าแล้ว แต่ทันใดนั้นเอง มีเสียงยิง M-79 จากบนตึกยืงลงมาอึก
3 นัด ลงบริเวณหน้าด่าน ติดต่อกันเลยครับ บึ้ม บึ้ม บึ้ม! โห! หาที่หลบกันใหญ่เลย ก็มีพี่อีกคนตะโกนว่าหาที่ปลอดภัยหลบ เท่านั้น
แหละ ผมก็พลัดหลงกับต้น เหลือสองคนคือผมกับเบียร์ ก็ไปหลบอยู่ตรงที่เป็นสนามหญ้าที่หน้าประตูเข้าสวนลุม ตั้งแต่นั้นก็ไม่มีทหาร
ยิงจากตึกอีกเลย ผมดูนาฬิกาอีกทีก็ตี 1กว่าแล้ว เลยไปนอนบนเสื่อที่เขาพากันวิ่งหนีไปหานอนที่อื่น แบบเพลียมาก ก็นอนคุยกันแต่ก็
ยังได้ยินเสียงปืนจากฝั่งถนนวิทยุเป็นช่วงๆ และเสียงรถพยาบาลวิ่งตลอด


มีพี่ผู้หญิงกับพี่ผู้ชาย มานอนข้างๆ เขาบอกว่า เห็นตอนทหารยิงM-79 มาจากตึก รพ.จุฬาฯ บอกเป็นแสงไฟพุ่งเลยครับ
สักพักพวกเราก็นอนคุยกันไปเรื่อย กับพี่ที่มาร่วมกันสู้ข้างๆอีก 2 คน คนหนึงเป็น หน่วยกู้ภัยอาสา ส่วนอีกคนเขาก็มาเหมือนผม เมื่อ
ว่างงานมาช่วยกันเฝ้าด่าน คุยกันจนตี4ได้นอนถึงซัก 6โมงเช้าครับ ...

            
ชายฉกรรจ์สวมหมวกไหมพรมคลุมศีรษะ สวมกางเกงทหารลายพราง สวมเสื้อกั๊กคล้ายเสื้อกันกระสุน และที่แขนขวาผูกผ้าแดง
เป็นสัญลักษณ์ ยืนกำบังตัวอยู่หลังรถตู้โตโยต้าสีขาว มือถืออาวุธปืนสำหรับยิงระเบิดเอ็ม 79 ยืนอยู่ฝั่งเดียวกับกลุ่มคนเสื้อแดง
โดยภาพดังกล่าวมีทั้งกำลังยิง และบรรจุกระสุน เพื่อยิงใหม่อีกครั้ง
ภาพประกอบ เกี่ยวข้องกับเนื้อหา มิใช่ภาพจริงในเหตุการณ์


เหตุการณ์ 14 พฤษภาคม 2553

พอไปถึง เต้นท์ของอุดรตอนเช้า (ผมได้แปรงฟันเพราะพกแปรงไปด้วยส่วนอาบน้ำ ไม่ต้องพูดครับไม่ได้อาบ55)
ตอนแรก พอ 8โมงเช้า กะว่าจะกลับไปศิริราช ปรกติผมจะมาที่ราชประสงค์ที่ด่าน เช้าก็กลับ แต่เช้านี้ไม่ไหวครับ ก็เลยว่าจะ
อยู่ต่อวันนี้ เพราะมีข่าวว่าทหารจะมาสลาย เพลียบวกนอนน้อย ทหารป่วนตั้งเย็นของ วันที่ 13 พค เลยหากินข้าว (มีข้าวเปล่า
กับไข่ 2 ฟอง) แล้วก็ง่วงมากเลยนอนต่อที่เต้นท์ นอนไม่ค่อยหลับ พอกำลังจะหลับก็มีคนตะโกน
ทหารเคลื่อนพลมาแล้ว
ก็สะดุ้งตื่นวิ่งไปดูที่หน้าด่าน ทุกคนก็ลุกกันใหญ่เลย พอไปดูก็บอกเริ่มเคลื่อนมาแต่ยังอยู่ไกล ทุกครั้งที่ทหารเริ่มเคลื่อนก็จะ
มีคนตะโกนได้ซัก 3-4 รอบ จนเที่ยงนอนด้วยสะดุ้งด้วย
(ร้อนก็ร้อนครับ)

พอเที่ยง นี่แหละครับ ต้องตื่นเพรา ทหารมาจนถึงตีนสะพาน พวกเราก็วิ่งกันใหญ่ พากันเอาน้ำมันราดหน้าด่าน
ถ้าทหารมาจะได้เผาด้านถ่วงเวลาให้ได้นานๆ แต่พอทหารจะเคลื่อนมาก็มีมวลชนของเราที่มาแล้ว อยู่หน้าด่านใต้สะพานข้าม
สี่
แยก ก็ขี่มอเตอร์ไซต์ขับวิ่งกลับไปกลับมา ยิงหนังสติ๊กยิงบั้งไฟใส่ทหาร และ จุดล้อยางเผา ปาแก้วใส่ถนน ส่วนทหาร
ก็ยิงมา
เป็นระยะ+ระเบิด ด้วยหลายตู้มเลย (กระสุนจริง) มีรถพยาบาลมาหลายคันเช่นกัน มวลชนของเรา ด่านนอกนี่สู้จริงๆ
ทหารยิงจากด้านล่างด้วย จากบนตึกด้วย ราต้องหลบตามซุ้มตามเต้นท์โดนทหารยิงมาบ่อยมาก จากตึกสูง แต่ละคนที่ดูตอน
นั้นต่างคนต่างหิว ดีนะครับมีขนมจีนกับแกงไก่ แค่นั้นเองครับ ประทังความหิวกัน
นักข่าว เห็นพวกเรากินก็ถ่ายรูปไว้กินด้วยวิ่งหลบด้วย ผมว่าฝรั่งคงรู้สึกเวทนาเรามากมั้งครับ ไหนจะต้องหลบกระสุน
ไหนจะหิวกินขนมจีน ท่ามกลางทหารที่พยายามจ้องจะเอาชีวิตเราจากที่สูง ยิงใส่มวลชนที่อยู่รอบนอกและหน้าด่านด้วย ส่วน
ฮ.มีแค่ลำเดียวครับ บินวนไปวนมาพวกเราได้แค่ยิงบั้งไฟใส่ ขู่แค่นั้นแหละครับ แต่มีช่วงหนึ่ง ฮ.ปล่อยน่าจะเป็น แก๊สน้ำตาลง
มา ผมก็ได้ยิน
เสียงปืนดัง 2-3 ครั้ง แต่ละครั้งจะยิงแบบ รัวครั้งละ 4-5 นัด ส่องฮ. ผมไม่เห็นคนยิงแต่ ต้น (เจอกันตอน
หาข้าวกินครับ)
เห็นพี่ทหารที่ยิงเล่าว่า คนหนึ่งบอกตำแหน่ง อีกคนยิงแบบไม่ได้เล็งนาน แค่ยกปืนขึ้นยิงเลย ปัง ปัง ปัง  แล้ว
ถ้าไม่ถูกก็รอจังหว่ะใหม่ แต่ตอนที่ถูก พี่เขาบอกว่าถูกแล้ว คนอื่นแทบไม่รู้ว่าถูกแต่คนยิงบอกว่า ถูกหลังจากนั้น ฮ.ก็บินไปเลย
ไม่มารบกวนแล้ว

จากนั้นพวกเราก็พยายามดูที่สวนลุมฯด้วย มีพี่คนหนึ่งไปยืนสังเกตุทหารแถวนั้นโดน
ยิงจากสไนเปอร์ที่ ขานี่เกือบขาด แบบห้อยต้องแต่งๆน่าสงสาร ยืนอยู่เฉยๆ ไม่รู้ยิง
มา
จากตึกไหนครับและก็นำส่ง รพ.ต่อ

Posted Image
ภาพประกอบ เกี่ยวข้องกับเนื้อหา มิใช่ภาพจริงในเหตุการณ์

 พี่ๆ "ทหารโรนิน" ปรากฎตัว

.. พอถึงตอนนี้แหละครับเมื่อทหารยิงเสื้อแดงเราไปหลายคน ผมได้ยินพี่คนหนึ่งบอกว่า
เราจะสูญเสียมวลชนมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
 
 เท่านั้น แหละครับ ก็เริ่มมีพี่ๆ ที่แต่งตัวด้วยเสื้อคลุมสีดำ(ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่ามีปืนมาด้วย)กระเป๋าเป้เดินมาเป็นกลุ่ม
กลุ่มละ 3-4 คน พยายามหาทหารบนตึก เพื่อตรวจสอบตำแหน่ง พวก ทหารโรนิน ที่มาน่าจะมากกว่า 8 คน แต่ไม่เกิน 15คน
เอาที่ผมเห็น ถือสัมภาระ ก็ประมาณ 8 คนได้ และพวกพี่ที่เป็น
คนคอยชี้เป้า อีกต่างหาก พอเห็นเป้า ก็วิ่งมาคุยกันบอก.. ตำ
แหน่ง ไม่อยู่กับที่ วิ่งสับไปสับมา ผมไปหมอบอยู่ในเต้นท์ริมกำแพง
(ว่างๆก็ไปดูรูที่เจาะไว้ ที่ริมกำแพงให้พี่เขาดูตำแหน่งสไน
เปอร์) เพราะตอนนั้นทุกคนจะหลบตามเต้นท์ ไม่ให้สไนเปอร์ส่องได้ครับ

Posted Image

 photo BlackShirtshoot2_zpsfd3104b3.gif
ภาพประกอบ เกี่ยวข้องกับเนื้อหา มิใช่ภาพจริงในเหตุการณ์
.. ตอนนี้ครับ ยิงกันมันส์เลย ทั้งปืนทั้งระเบิด แต่พี่ทหารที่มาช่วยเรา เขายิงเฉพาะทหาร
ที่
ซุ่มอยู่บนตึกต่างๆ ผมจำตึกไม่ได้ แต่ตึกธนาคารแถวนั้นมีพวกซุ่มยิง อยู่หมดแหละครับ
ส่วน ปืน และ ระเบิด ผมไม่ทราบว่าเป็นรุ่นไหนจะมีเสียง“โบ๊ะ”ถ้าเรานับก็ประมาณ5วินาที แล้วก็จะได้ยินเสียง
“บึ๊ม!” ที่ตำแหน่งใกล้ๆทหาร แต่ทหารก็ยิงระเบิดโต้ตอบ หลายลูกเหมือนกัน ยิงใส่ตรงบริเวณตีนสะพาน ยิงสวนกันไป สวน
กันมา เป็นชั่วโมงครับ ได้ยินพี่คนหนึ่งบอกว่ายิงไปสอง สักพักก็เปลี่ยนตำแน่งมายิงตรงที่ผมหมอบอยู่ ผมหูอื้อไปหลายชั่วโมง
เลย ระยะห่างที่ผมอยู่ประมาณ 3 ฟุตได้

 photo BlackShirtshoot_zpsbf4531f5.gif

ภาพประกอบ เกี่ยวข้องกับเนื้อหา มิใช่ภาพจริงในเหตุการณ์
แล้ว พี่อีกคนหนึ่งก็ถามว่า ใครมีหมวกบ้าง ผมก็มีแต่หมวกกันน็อกอยู่ใกล้ๆ เลยบอกพี่เขาว่า เอาไหมครับ พี่เขาบอก
ไม่เอา เขาถามกลับว่า มีหมวกสีดำไหม แล้วเขาเห็นคนหนึ่งใส่หมวกก็บอกผมให้ไปขอให้หน่อย ผมคลานไปขอหมอกเขามา
ให้ (แต่ปกติพี่เขาก็ทำตัวธรรมดาเหมือนคนทั่วไปให้กลมกลืน) ถ้าเวลายิง พี่ๆเขาพยายามปิดหน้า กลัวนักข่าวเห็นหรือไร ไม่
ทราบ สัก 5 โมงเย็น พอ สไนเปอร์ รู้ตำแหน่งที่พี่เขาอยู่ เขาก็บอกให้ย้ายไปจากเต้นให้หมดครับ ประมาณ 5-6 ช่วงเต้นท์ แต่
พี่เขาไปสังเกตการณ์ ถอยไปตั้ง 100 เมตร ได้ครับ


ตอนเย็นผมต้องรีบกลับเพื่อมาเข้างานตอน 2 ทุ่ม ก็เลยเดินกลับสภาพนี้ครับ .. เหงื่อท่วมตัว
เป็นด่างเป็นวงขี้เกลือเวลาแห้ง ต้องเดินไปโน่น ถึงพันทิพย์ นั่งวินมอร์ไซต์ กลับ ศิริราช

Posted Image
ภาพประกอบ เกี่ยวข้องกับเนื้อหา มิใช่ภาพจริงในเหตุการณ์




ปืนที่ใช้ที่ผมเห็นนะครับ

SIG SG 551-SWATอาวุธปืนชนิดพิเศษที่นักรบนิรนามใช้ ยังไม่มีในกองทัพไทย ใช้ระบบ3Max

- ปืนไม่ทราบชนิด ว่ารุ่นไหนติดลำกล้อง ใช่ปืนพิเศษหรือเปล่าครับ
ที่หนักๆห่ออยู่ในเสื่อแบกมา น่าจะเป็น อันนี้  RPG-2



อาวุธที่ใช้ (เท่าที่เห็นแบบชัดเจนครับ)

AK-47 พับฐาน

- AK-47 อาร์ก้า (ไม่ได้เอาออกยิง)

M-4 , M16 A4

- M-16 หลายแบบแต่คล้ายกัน ต่างก็ที่พานท้ายกับลำตัวนิดหน่อย ไม่รู้รุ่นไหนบ้างอีก 2 กระบอก
- ลูกซองสั้น

น่าจะเป็นกระบอกนี้ M-79 อีโบ๊ะ

- เครื่องยิงลูกระเบิด ที่ได้ยินเสียง โบ๊ะ! แล้วนับไปอีก 5 วินาที ก็จะได้ยินเสียงระเบิด บึ้ม!
- อีกหลายๆกระบอก จะไม่เหมือนกัน สักกระบอกเลย อยู่ไกลครับ ที่เหลือพี่เขาเอาใส่ถุงดำ
เสื่อคลุม ยิงเสร็จเก็บใส่เป้เลย ไม่รู้ว่าเป็นรุ่นไหนครับ

Posted Image
ภาพประกอบ เกี่ยวข้องกับเนื้อหา มิใช่ภาพจริงในเหตุการณ์

จำนวน 8 คน ที่เห็นถืออาวุธ ส่วนที่เหลือ คือคนถือลูกปืน คนดูตำแหน่ง บอกตำแหน่งยิง
รวมแล้ว ประมาณ 10-15 คน เฉพาะที่ด้านสีลมนะครับ

- ที่ด่านอื่นได้ยินเสียงปะทะน่าจะแบ่งกันช่วยแต่ละด่านครับ
- แต่เพื่อนที่ชื่อเบียร์ บอกทหารพรานเข้ามา ก่อนวันที่13 แล้วครับ


"เท่าที่ผมสังเกตุดู การที่ รัฐบาล ยังไม่กล้าเข้าสลาย
เพราะกลัว กองกำลังนิรนาม ที่มาช่วยเรานี่เอง"

รายงานจาก "นักข่าวนิรนาม"

Posted Image
ขอบคุณ ภาพจากอินเตอร์เน็ต

**ทั้งหมดนี้ คือเรื่องแต่ง มิใช่เรื่องจริง กรุณาอย่านำไปอ้างอิง เพราะเรานั่งเทียน
     หลักฐานสิ่งเดียวที่ปรากฏ คือ เทียน ที่ถูกนั่งทับเท่านั้น

รุ่งศิลา
17 พฤษภาคม 2553


6a0120a6e49cfc970b0148c6ed531a970c.gif


   
... เสียงกร่นประชาชนผู้รุ่มร้อน

นักรบบ้าบออะไร ครับ ไม่มีหรอกพวกเสื้อแดงโดนทหารยิงตายไม่รู้กี่ศพ
พวกนี้มันมุดหัวไปอยู่ไหน

คิดว่าไม่มีเหมือนกัน คนเสื้อแดงโดนยิงไปเท่าไหร่แล้ว ไม่เคยเห็นมีใครมาช่วย
ตนเป็นที่พึ่ง แห่งตนแล้วไอ้มดแดงเอ๋ย เศร้าว่ะ

นักรบบ้าอะไรกัน

ถ้ามีจริงประชาชนคงไม่ถูกยิงตายนอนตามถนน หรอกครับ
ความ รุนแรงที่เกิดขึ้น พวกทหารทำขึ้นเพื่อให้คนทั่วไปมองว่าคน
เสื้อแดงมี อาวุธร้ายแรงทหารจะได้ฆ่าประชาชนได้เต็มที่

not good... ตอบ
" นิยาย " ครับ อย่าคิดมาก มันไม่ได้เรียงหน้ากระดานเข้าตีแบบเดิม
เปลียนกลยุทธ เป็นเอาส่วนน้อยมายืนในที่แจ้ง อย่างที่เห็นๆไง
ส่วนพลลอบยิง Sniper ถึงไป ซุ่มโป่ง ให้เห็นอยู่มากมายหลายสิบจุด

ภาระกิจหน้าที่ นักรบนิรนาม ที่รับมอบหมายคือคุ้มครองครับ ยันมิให้ บุกเข้าเวทีส่วนกลางได้ง่ายๆ
มิใช่รุกรบ นอก พท. ควบคุม เพราะข้อจำกัดของ กำลังพล และภาพลักษณ์ของการชุมนุม
อีกอย่างคือ หน่วยซุ่มยิง Snipers อยุ่ในพื้นทีสูงข่ม และปิดลับ การเข้าชาร์ทถึงตัว
กระทำโดยมิให้ถูกตรวจพบก่อนได้ยาก ทำได้เพียงตอบโต้ในบางจุดเท่านั้น

ฉะนั้น นอกพื้นที่ ต้องใช้มวลชนปิดล้อม การส่งกำลังบำรุง อาหารแก่หน่วยซุ่มสังหารเหล่านี้
และมวลชนต้องช่วยสืบสภาพ ชี้เป้าที่ตรวจพบ แจ้งข้อมูลแก่ส่วนกลาง ถึงจะเข้าเคลียร์ได้เป็นจุดจุด

รุ่งศิลา' ประชาทุย



6a0120a6e49cfc970b0148c6ed531a970c.gif



เอาไปอ่านแก้ขัดเคืองกันก่อนนะครับ
แต่ละยุทธวิธี ก็ต้องใช้ในแต่ละสถานะการณ์ที่ต่างกัน


เมื่อคืน 16 พค.53
อาคารก่อสร้าง "ชีวาทัย"
ข้าง Century park hotel


กองกำลัง นักรบนิรนาม ชุดแรก 50-60 นาย ชุดสอง ไม่ทราบจำนวน (ไม่เห็นตัว)
แต่....ที่มาบอกว่าชุดใหญ่


ชุดแรก  ปูทาง คุ้มกัน
ชุดสอง  กวาดล้าง

ยิงปะทะ กันตั้งแต่ 03.50-04.58 น.(17 พย.53)

ชุดแรก        เปิดทางด้วย หัวปลี RPG ถล่มนำ
ก่อนชุดสอง  เข้าชาร์ท กวาดล้าง ชุดซุ่มยิงสไนเปอร์ Snipers ของทหารที่ฝังตัวซุ่มบนอาคาร ยิงกันสนั่น

ทำให้ฝ่ายทหาร แตกหนีกระเจิง บางส่วนยังแอบซุ่มหลบอยู่ในตัวอาคารชั้นบน เพราะหนีลงมาไม่ได้
จึงมีการ จุดไฟเผาสุมควันตั้งแต่ ชั้น9 เพื่อไล่ล่าหน่วยซุ่มยิง ให้ลงมาจากตัวอาคาร ตามภาพที่เห็นในวันนี้(17พค.53)

ล่าสุดเวลา 08.45 น. ทหารซุ่มยิงที่อาคารก่อสร้าง"ชีวาทัย" ได้ยิงฝ่าหนีตายออกไปเเล้ว จำนวนประมาณ 12นาย 1 หมู่

ผลปฏิบัติการ ทำให้การก่อเหตุสลด ซุ่มยิงประชาชนมือเปล่า บริเวณนี้ ในสองวันที่ผ่านมายุติลง และ การ์ดนปช.แดง
      ขยายพื้นที่ควบคุมความปลอดภัยได้ทั้งหมด

      ฝ่าย นิรนาม บาดเจ็บ 1 นาย และสลายตัวหายไปก่อนเช้าตรู่


 ** สอดคล้องกับ ช่วงเที่ยงคืนที่มีการยิงถล่มด้วย RPG อาคารโรงแรมดุสิตธานี
ที่ตั้ง ศูนย์บัญชาการปราบปรามสลายการชุมนุมราชประสงค์ และ
แม่ข่ายวิทยุสื่อสารบัญชาการทหาร จนยับเยิน และต้องย้ายหนี
ล่าถอยออกมา จากโรงแรม ทำให้การสื่อสารของวิทยุทหาร
สั่งการแต่ละหน่วย ชะงักงัน สับสน

เวลา 00.30 น. เกิดเหตุคนร้ายยิงระเบิด RPG ใส่หน้าโรงแรมดุสิตธานี จำนวนหลายลูก ทำให้กระจกหน้าโรงแรม
แตก และมีกลุ่มควันสีดำพุ่งออกมาจากบริเวณชั้น 5 และชั้น 17 ของโรงแรม ทำให้แขกที่พักวิ่งหนีกันอล
หม่าน โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สามารถควบคุมเพลิงไว้ไม่ให้ลุกลามไว้ได้
                   
นอกจากนั้น คนร้ายได้ยิงระเบิด M-79 ตกลงบริเวณตึกอื้อจื่อเหลียงอีกจำนวน 3 ลูก แต่ไม่มีรายงานผู้ได้
รับบาดเจ็บ โดยมีการปะทะกันระหว่างทหารกับกลุ่มผู้ชุมนุมเกิดขึ้นอย่างเนื่อง

เวลา 02.00 น. รายงานเพิ่มเติมระบุว่า เพลิงไหม้ เกิดจากด้านในโรงแรมดุสิตธานี ชั้น17 ขณะนี้เพลิงสงบลงแล้ว
โดยระบบน้ำของโรงแรม ก่อนหน้านี้มีการยิงระเบิดไปที่โรงแรมหลายลูก  ส่งผลให้โรงแรมเสียหายหนัก
ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ  อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่โรงแรมได้อพยพผู้พักอาศัย  ให้มาอยู่ชั้นล่างของอาคาร
โดยมีนักข่าวอยู่ในที่เกิดเหตุ 3-4 ราย

    Posted Image
ให้ ตาย เถอะ โรบิน 'เมือง ก๊อด แดม ซิตี้' ... เดี๋ยวนี้เขามี RPG ยิงกันด้วยแฮะ
Posted Image
คนร้ายยิง RPG-M79 ใส่รร.ดุสิตธานี กระจกหน้าโรงแรมแตกยับ
ส่วนพนักงาน-นักท่องเที่ยวหนีตายวุ่น ไร้เจ็บ
17 พ.ค. 53 : เมื่อเวลา 00.30 น. วันนี้ (17 พ.ค.) เกิดเหตุคนร้ายยิงอาร์พีจี และเอ็ม 79 เข้ามาในบริเวณโรงแรมดุสิตธานี ทำให้กระจก
หน้าโรงแรมแตก จากนั้นมีกลุ่มควันสีดำจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากบริเวณชั้น 5 และ ชั้น 17 ของโรงแรม ทำให้แขกที่เข้าพักต่างวิ่ง
หนีตายกันอลหม่าน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สามารถควบคุมเพลิงไว้ไม่ให้ลุกลาม
นอก จากนี้คนร้ายได้ยิงระเบิดเอ็ม 79 ตกลงบริเวณตึกอื้อจื่อเหลียงอีกจำนวน 3 ลูก ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ ท่ามกลางการปะทะกัน
ระหว่างทหารกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ยังเกิดขึ้นอย่างเนื่อง

Posted ImagePosted Image

Posted ImagePosted Image


6a0120a6e49cfc970b0148c6ed531a970c.gif


 06 มิถุนายน พ.ศ.2553 เวลา 14:18:10 น


"คนชุดดำ" บนเส้นทางสู่ความจริง

โดย ปิยมิตร ปัญญา piyamitara@gmail.com

ผมไม่ได้เป็นแฟน "เอเชียไทม์ส ออนไลน์" ชนิดขาดไม่ได้ แต่ต้องยอมรับว่า "เอโอแอล" เลือกเรื่องมาบอกเล่า ได้น่า
สนใจในหลายๆ ครั้ง เพราะตรงกับความอยากรู้ ในห้วงจังหวะเวลาที่พอเหมาะพอเจาะ

อย่างเช่นเมื่อหลายคนอยากรู้ให้มากขึ้นเกี่ยวกับ "คนชุดดำ"อโอแอลก็มีข้อเขียนของ เคนเนธ ท็อดด์ รุยซ์  และ
โอลิวิเยร์ ซาบิล
สองผู้สื่อข่าวและช่างภาพอิสระ มาเขียนบอกเล่าถึง "เม็น อิน แบล็ค" เต็มๆ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม
ที่ผ่านมา

รวมทั้งข้อเขียนชวนให้ขบคิดใคร่ครวญอย่างยิ่งของ แดนนี่ อังเกอร์ ศาสตราจารย์รัฐศาสตร์จาก  มหาวิทยาลัยนอร์เธิร์น
อิลลินอยส์
ในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่2มิถุนายนที่ผ่านมาก็พอเหมาะพอดีกับสถานการณ์แวดล้อมของการเมืองไทยเป็นอย่างยิ่ง

เรื่องแรกนั้น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีหยิบยกไปพูดถึงไว้ในการตอบคำอภิปรายในญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ผ่าน
มา แต่ดูเหมือนไม่ได้พูดถึงรายละเอียดมากมายนัก เพราะคงคิดอย่างเดียวกับที่ผมคิดว่า เรื่องอย่างนี้ "อ่านเอาเอง-คิดเอาเอง"
จะดีกว่าเป็นไหนๆ

แต่ในด้านหนึ่ง คำบอกเล่าของ เอโอแอล เรื่อง คนชุดดำ ก็ไม่ได้มีอะไรใหม่เพิ่มเติมมากมาย อาจเป็นเพราะ แม้จะได้รับการ
ต้อนรับอย่างดี แต่ก็อยู่ภายใต้เงื่อนไขง่ายๆประการหนึ่งก็คือ

พูดคุยด้วยได้ แต่ห้ามถ่ายภาพ-ถ้าถ่ายแม้แต่ช็อตเดียว "ผมจะฆ่าคุณ

คำบอกเล่าของเอโอแอลเกี่ยวเนื่องกับเรื่องนี้จึงเป็นเพียงการแสดงให้ เห็นว่า "คนชุดดำ" ที่เรียก ตัวเองว่า "แบล็ค แองเจิล"
ผู้ทำหน้าที่ "พิทักษ์" ผู้ชุมนุม-มีอยู่จริง มีอยู่ด้วย กันจำนวนทั้งสิ้น 27คน จัดตั้งแบบเดียวกับหน่วยทหารในยามศึก มีทั้งผู้รับผิด
ชอบด้านสื่อสาร และผู้ที่รับผิดชอบด้านเสนารักษ์ ส่วนใหญ่เป็น "พลร่ม"

มีหนึ่งรายที่บอกว่ามาจาก "กองทัพเรือ" ทั้งหมดมีอาวุธสงครามเป็นอาวุธประจำกาย ทั้ง เอ็ม 16,ทาร์ 21 (ที่มักคุ้นกันมากกว่า
ในชื่อ ทาร์โว่) ผลิตในอิสราเอล ที่ยึดมาจากทหารที่สี่แยกคอกวัว, เออาร์-15 ไรเฟิล เป็นอาทิ ผู้สื่อข่าวของ เอโอแอล ไม่เห็น

เครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 แต่เชื่อว่ามีอยู่ในครอบครอง พิเคราะห์จากการจัดการกับระเบิดพลาสติค และการจัดวางระเบิดรอบพื้นที่
ที่เป็นค่าย ทำให้ รุยซ์ และ ซาบิล สรุปว่า ทั้งหมดน่าจะผ่านการฝึกด้านวัตถุระเบิดมา เช่นเดียวกับยุทธวิธีด้านการทหารอื่น

คนทั้งหมดอยู่ในวัยยี่สิบเศษ อ่อนเยาว์เกินกว่าที่จะเป็น "คอมมานโด จากยุคต่อต้านคอมมิวนิสต์" อย่างที่สื่อเคยพูดถึงกันไว้
ทุกคนมีพื้นเพมาจากดินแดนที่กลุ่มคนเสื้อแดงเรียกว่า "บ้าน"

รุยซ์ละซาบิล ยืนยันว่า ค่ายพักของคนชุดดำอยู่ในส่วนที่เป็น"หัวใจ"ของพื้นที่ชุมนุมนั่นเอง ทั้งคู่ระบุด้วยว่าได้เห็น"คนชุดดำ"
ออกปฏิบัติการ 2 ครั้ง หนึ่งนั้นเป็นการจัดชุดเล็กออกไป "ปฏิบัติการ" ในพื้นที่ "ประตูน้ำ" เมื่อวัน ที่ 15 พฤษภาคม

อีกครั้งเป็นการปฏิบัติการ "เผา" ในวันที่ 19 พฤษภาคมนั่นเอง!

Posted Image
ภาพ คนชุดดำบริเวณหน้าร้านเบอร์เกอร์คิงส์ กำลังยิงปืนไปในทิศทางถนนตะนาวซึ่งมีเจ้าหน้าที่ทหาร

ปฏิบัติการอยู่ โดยผู้เชี่ยวชาญอิสระนิติวิทยาศาสตร์ด้านอาวุธและกระสุนปืนให้ความเห็นว่า เป็น ปลย.๑
ภาพประกอบ เกี่ยวข้องกับเนื้อหา มิใช่ภาพจริงในเหตุการณ์
6a0120a6e49cfc970b0148c6ed531a970c.gif


เข้าไปดุเวปที่ คุณภูชี้ฟ้า เอามาให้ ดูแล้ว here จริงๆ เลยครับ คนที่ทำเวปนะ
เต็มไปด้วยเรื่องโกหก หลอกลวง งมงาย
ยกตัวอย่างเรื่อง (ภาพ) หนึ่งจากเวปนั้นนะครับ

ภาพนี้เป็นภาพตัดต่อ บิดเบือน อย่างชัดๆ

ถ้าคนทำเวปดูไม่ออก ก็ต้องบอกว่าโง่แล้วล่ะครับ

1. สัดส่วนของหัวคน กับตัวคนผิดเพี้ยนกันมาก
2. สังเกตุภาพหน้าในช่องเล็กมุมภาพ นั้นแหล่ะคือหน้าที่นำมาใช้ตัดต่อ

ผมไม่คิดจริงๆ นะครับว่าคนทำเวปนั้นจะโง่ เขาคงแกล้งโง่ปล่อยๆ ภาพออกมา



Posted Image
ชายชุดดำ เนี่ย มันมีอยู่แล้วครับ ตามหลักฐาน เชิงลึก ที่เขาไม่พูดกันตรงๆ เพียงแต่สังกัดไหนเท่านั้นเอง
ว่ากันตามหลักฐานครับ บนศาล ศาลาโกหก ใครโกหกเก่ง ก็ชนะความ

Posted Image
ส.อ. อนุสิทธิ์    จันทร์แสนตอ
ถูกสะเก็ดระเบิดที่ช่องท้อง ไส้ทะลัก ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ข้างสวนลุมพินี 19 พย.53
สถานที่เสียชีวิต รพ.จุฬา 19 พค.53

Posted Image
Chandler Vandergrift : Canadian Journalist
จากภาพ ที่เห็นบาดเจ็บ เป็นกรณีสุดท้ายที่ กลุ่มทหาร และนักข่าวต่างประเทศ ได้รับบาดเจ็บ (หรืออาจเสียชีวิต)
ในสายวันที่ สลายราชประสงค์ 19 พค.2553 บริเวณมุมรั้วสวนลุมพินี ...
ไม่มีบันทึก ระบุเหตุการณ์ ชื่อผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ รวมถึงไม่มีสื่อฉบับใด ค้นหารายละเอียด ....

คาดว่าโดนยิงด้วย เอ็ม-79 ช่วงเข้าสลาย นปช. ... อันนี้ไม่ยืนยันว่าจากฝ่ายไหน


Posted Image
แวนเดอร์กริฟท์:“ผมโชคดีที่รอดชีวิตจาก M79”

รายงานพิเศษ ขอคืนพื้นที่ความจริง เมษา-พฤษภา 53 แชนด์เลอร์ แวนเดอร์กริฟท์ สื่อมวลชนอิสระ
ชาวแคนาดา ที่ถูกระเบิดเอ็ม 79 จนบาดเจ็บ

Posted Image




 เชิงอรรถ : ที่มา   http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=348
พาดพิงไปถึงเอกสารลับของสหรัฐ ที่อ้างว่าหลุดออกมาลักษณะเดียวกับวิกิลีกส์ เอกสารดังกล่าวเป็นรายงาน
ของ C.I.A ต่อหน่วยเหนือ กรณีเหตุการณ์ที่สี่แยกคอกวัว ซึ่งเป็นภาษาอังกฤษ ถอดความได้ ดังนี้ 

        “...การที่หน่วยทหารไทยระดับกองพลหย่อนกำลัง ซึ่งนำโดยยานเกราะ ติดอาวุธเต็มตามอัตราศึก
ยาตรามาตามถนนดินสอ มุ่งหน้าเข้าสู่สี่แยกคอกวัว นั้น
        ไม่สามารถแปลเจตนา เป็นอย่างอื่นไปได้ นอกจากทหารหน่วยนี้ มีความประสงค์ที่จะเข้าปฏิบัติการ
กวาดล้างผู้ชุมนุม ด้วยการใช้อาวุธหนักอย่างรุนแรง ลักษณะเดียวกับ
ปฏิบัติการที่เคยเกิดขึ้น ในกรณี... 
        “จัตุรัสเทียนอันเหมิน”
        หน่วยงาน C.I.A ประจำประเทศไทย ซึ่งเกาะติดสถานการณ์โดยตลอด พิจารณาแล้ว เห็นว่า
        การที่ฝ่ายทหารใช้หน่วยซุ่มยิง ขึ้นไปบนอาคารสูงใกล้ที่ชุมนุม แล้วกราดยิงผู้ชุมนุม แบบไม่เลือกหน้า ทำ
ให้ประชาชนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก นั้น
        ชี้ให้เห็นชัดว่า เป็นการยิงทางยุทธวิธี เพื่อเปิดทางสะดวก ก่อนจะมีการเคลื่อนกำลังหลัก เข้าสู่สี่แยกคอกวัว
และถนนราชดำเนินกลาง ซึ่งทหารไทยกำหนดเป็นพื้นที่ปฏิบัติการ สำหรับการกวาดล้างฝูงชนผู้ชุมนุม
        C.I.A ประจำประเทศไทย พิจารณาแล้วเห็นว่า การปล่อยให้กำลังยานเกราะและทหารไทย เข้าสู่พื้นที่ดังกล่าว
ได้ โศกนาฏกรรมในการทำลายล้างชีวิตมนุษยชาติ อย่างโหดร้าย
ทารุณ จะต้องอุบัติขึ้นอย่างแน่นอน
        ดังนั้น C.I.A ประจำประเทศไทย จึงตัดสินได้ใช้หน่วยปฏิบัติการพิเศษชาวไทย ซึ่งเป็นหน่วยเผชิญเหตุของ
C.I.A สวม เครื่องแต่งกายสีดำ (ซึ่งเตรียมการไว้ก่อนแล้ว เพราะประเมินสถานการณ์ว่า อาจเกิดความรุนแรงขึ้นได้)
เปิดโจมตีโต้ตอบ โดยพุ่งเป้าไปยังกำลังหลักของทหารไทย ที่กำลัง
เคลื่อนที่ เข้าพื้นที่ปฏิบัติการ 
        ทั้งนี้ เพื่อสกัดกั้น ยับยั้ง...การสังหารหมู่ประชาชน!
        ผลการปฏิบัติของหน่วยรบย่อย C.I.A ประจำประเทศไทย ซึ่งแม้จะมีกำลังน้อย ไม่ถึง 10 นาย แต่ด้วยความ
เชี่ยวชาญการรบที่เจนจัดกว่ามาก สามารถกดดันกำลังใหญ่ของทหาร
ไทย ต้องสะดุดหยุดลง
        โดยฉับพลันทันที!
        ทั้งนี้ เหตุเพราะฝ่ายทหารไทย โดนยิงด้วยอาวุธวิถีโค้ง เข้าที่ส่วนบังคับการของกองกำลัง จนเป็นเหตุให้นายท
หารระดับผู้บังคับบัญชาของหน่วย เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง อีกทั้งตัวผู้บังคับบัญชากองพลเอง ต้องอาวุธบาด
เจ็บสาหัส ไม่สามารถบัญชาการรบต่อไปได้ ต้องถอนตัวออกจากยุทธบริเวณ โดยผู้ใต้บังคับบัญชา ต้องพาหนีตายไป
ได้
อย่างหวุดหวิด 

        ฝ่ายทหารไทยชั้นผู้น้อย ที่อยู่หน้าแนวตามเส้นหลักการรุก ส่วนใหญ่เป็นทหารเกณฑ์ และผ่านการฝึกมาเพียง
น้อยนิด ถูกโจมตีด้วยการยิงสกัดกั้น เพื่อยับยั้งการเคลื่อนที่ 
        ทหารเหล่านั้นเกิดความตื่นตระหนก ตกใจ กลัวตาย ต่างพากันละทิ้งหน้าที่ หนีออกจากหน้าแนว จนเกิดความเรรวน
สับสน ลนลาน อลหม่านไปทั้งกองพล 
        ถึงขั้นควบคุมไม่ได้! 
        ทหารที่น่าสงสารเหล่านั้น แตกพ่ายหนีตายกันไป โดยทิ้งยานเกราะพร้อมอาวุธ กระสุน จำนวนมากมาย ไว้ในที่รบ!!
        สรุปได้ว่า กำลังทหารที่เคลื่อนเข้าปฏิบัติการนั้น ประสบความพ่ายแพ้ บาดเจ็บ ล้มตายจำนวนมาก ความเสียหาย
ของทหารไทยหนักหน่วย ถึงขั้น... 
        ‘ละลายทั้งกองพล’
        หน่วยปฏิบัติการพิเศษชาวไทย ‘ชุดดำ’ ของ C.I.A บรรลุภารกิจบรรจุมอบแล้ว...

ไม่มีความคิดเห็น: