วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553

พระราชินีชื่นชม นภัส ณ ป้อมเพ็ชร์ ตอบโต้ CNN อย่างองอาจ ช่วยฟื้นฟูภาพลักษณ์ประเทศ..

html tracking
  จำนวนเข้าชม

ขอจงทรงพระเจริญพระเจ้าข้า




Posted by นักข่าวชาวรากหญ้า
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
1 สิงหาคม 2553


ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ นางสนองพระโอษฐ์
และ รองราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ได้อัญเชิญพระราชหัตถเลขา ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระราชทานให้กับคุณนภัส ณ ป้อมเพชร


พระราชหัตถเลขา ลงวันที่ 24 กรกฎาคม 2553 มีความรายละเอียดว่า

ถึง คุณนภัส ณ ป้อมเพ็ชร์

ฉันได้อ่านจดหมายของคุณที่เขียนถึงสำนักข่าว CNN แล้ว
รู้สึกภูมิใจที่คุณยืนขึ้นทำหน้าที่ของคนไทยตอบโต้
นักข่าวต่างชาติอย่างองอาจ ตรงไปตรงมา
แต่ก็ด้วยความสุภาพและมีเหตุผลที่ชัดเจน
พอที่จะทำให้ประชาคมโลกที่ได้อ่านจดหมายของคุณ
ต้องทบทวนความเชื่อถือที่มีต่อ CNN


ชื่นชมยิ่งที่คุณช่วยฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศชาติ

( ลายพระราชหัตถเลขาในสมเด็จพระนางเจ้าฯ )


เกี่ยวกับคุณนภัส ณ ป้อมเพ็ชร์ เวบZabjung

นภัส ณ ป้อมเพ็ชร์  CNN งานเข้า  "นักข่าวของคุณเสนอข่าวบิดเบือน"
    คุณนภัส ณ ป้อมเพ็ชร์ ได้เขียนจดหมายถึง CNN เกี่ยวกับการรายงานข่าวของ CNN กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ในประเทศไทย ตลอดจนประเภทศอื่นๆ   ที่ได้มีการเขียนเสนอข่าวแบบ 2 มาตรฐาน   โดยเฉพาะการรายงานข่าว
ของ แดน ริเวอร์ และ ซาร่าห์ ซไนเดอร์   ที่ได้มีการรายงานข่าวของประเทศไทย  เพียงด้านเดียว จากฝ่ายของ
ผู้ชุมนุม โดยการให้ข่าวของแกนนำ และผู้ชุมนำที่ได้มีการเรียงกร้องให้เกิดความเห็นใจ กล่าวหารัฐบาลได้ทำร้าย
และข่มเหง ผู้ชุมนุม


คุณ นภัส ได้แจ้งให้ CNN ตรวจสอบการทำงานของผู้สื่อข่าวทั้งสอง ว่าไม่ควรจะให้นำเสนอข่าวเพียงด้านเดียว
ซึ่งพวกเขาต้องตระหนักและเร่งตรวจสอบยืนยันความถูกต้องของข่าว   การนำเสนอ และการแจกจ่ายรูปภาพที่ไม่
เอนเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ผู้สื่อข่าวทั้งสองไม่ได้ทำงานภายใต้ภาวะที่อาจคุกคามถึงชีวิตเหมือนนักข่าว
อื่นๆ แต่ได้รับข้อมูลเพียงแหล่งข่าวเดียวที่ต่อต้านรัฐบาล   แต่ไม่ได้เข้าไปแม้แต่เข้าไปสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐ

โดยตรง หรือกลุ่มคนชาวกรุงเทพ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากกลุ่มผู้ประท้วงและนำมานำเสนอแต่อย่างใดอย่าง
ที่ผู้สื่อข่าวอื่นๆ เขาทำกัน


ทำไมผู้สื่อข่าวทั้งสองของCNN จึงได้เสนอข่าวแบบสองมาตรฐานทั้งที่รัฐพยายามเจรจาและให้ผู้ชุมนุมกลับบ้าน
ไม่มีการรายงานวิธีการต่างๆ ที่โหดร้าย น่ากลัวของผู้ประท้วง ไม่มีภาพทหารถูกทำร้าย รถประชาชนถูกทำลาย เลว
ร้ายกว่านั้น รถพยาบาลที่จะนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บไปรับการรักษาถูกกีดขวาง ทำให้เกิดการสูญเสีย




นักข่าวทั้งสองกลับใช้คำพูดต่อว่า ทหารและรัฐบาลด้วยถ้อยคำที่หยาบกระด้าง และเป็นด้านลบทั้งสิ้น แต่ผู้ที่กระทำ
การละเมิด ทำร้ายทหารที่มีอาวุธ และประชาชนผู้ปราศจากอาวุธ กลับได้รับความเห็นใจและมีอิสระในการต่อสู้ ทำ
ให้ประชาคมโลกมองรัฐบาลไทยว่าส่งทหารที่อาวุธเข้าไปเข่นฆ่าประชาชนโดยไม่ มีเหตุอันควร


ดิฉันอยากจะขอร้อง ให้ CNN ใช้จริยธรรมของวิชาชีพในการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน และพินิจพิเคราะห์
ข่าวที่บิดเบือนจกการนำเสนอโดยผู้สื่อข่าวที่ได้พูดถึง ข้างต้น หากพวกเขาไม่มีความสามารถในการหา
ข่าวที่เป็นจริงจากแหล่งข่าวอื่น ๆ นอกเหนือไปจากแกนนำคนเสื้อแดง และคนแปลที่เห็นอกเห็นใจ  ฝ่าย
เสื้อแดง หรือจากนักข่าวที่ไม่สามารถพูดภาษาไทยได้ ไม่รู้เรื่องวัฒนธรรม เมินเฉยต่อประวัติศาสตร์ และ
สภาวะทางสังคม และหากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ CNN น่าจะหาผู้สื่อข่าวคนอื่นเข้ามาทำข่าวในประเทศไทย


ขอให้สำนักข่าว CNN ได้แก้ไขปัญหาความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยอย่าง
จริงจัง  จากการรายงานข่าวแย่ๆ และไม่เป็นความจริง


สำเนาของจดหมาย
เปิดผนึกฉบับนี้จะ มีการแจกจ่ายในประเทศไทย และในประชาคมโลก รวมถึงในเครือข่าย

สังคมออนไลน์เพื่อเป็นข้อมูลให้กับคนทั่วไป กรุณาติดต่อดิฉันได้ทุกเมื่อหากท่านต้องการข้อมูลเฉพาะเพิ่มเติม
หรือหลักฐานที่เชื่อถือได้ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อความที่ดิฉันเขียนมาทั้งหมดข้างต้น

Thank you.
Yours faithfully,
Napas Na Pombejra, B.A., LL.B. (Lond.)
Bangkok, Thailand
May 17, 2010


นภัส ณ ป้อมเพ็ชร์ จบการศึกษาจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกียรตินิยมอันดับ 1
เมื่อปี 2005    และศึกษาต่อด้านกฎหมายที่อังกฤษ ได้รับเกียรตินิยม เมื่อปี 2008








  • ข่าวCNN ด่วน
แดน ริเวอร์ส รายงานไม่เห็นว่าผู้ชุมนุมมีอาวุธมากไปกว่า หนังสติ๊ก ส่วนทหารยิงกระสุนจริง สไนเปอร์ผู้ชุมนุม
   สวนทางกับที่ ศอฉ. นายกบอก


   

Sun, 2010-05-16 14:46

“ผมคิดว่าวิดีโอนี้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี มันทำให้เห็นชัดเจนว่าทหารหน่วยซุ่มยิงของกองทัพ
(สไนเปอร์) กำลังยิงเข้าใส่ผู้คน เพื่อนร่วมงานของผมและตัวผมเองอยู่ใกล้ๆ และเห็นคนถูกยิง แต่เราไม่รู้ว่าคนที่
ถูกยิงเกิดจากโดนทหารเหล่านี้ยิงหรือไม่  แต่นี่คือหลักฐานที่ชัดแจ้งว่า  ทหารสไนเปอร์จำนวนหนึ่งประจำการอยู่
ตามท้อง ถนน และพวกเขาเล็งยิงไปยังผู้คน”     แดน ริเวอร์ส ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานเมื่อวันที่ 15 พ.ค.53
สถานีโทรทัศน์ CNN ของสหรัฐอเมริกา นำเสนอข่าว "เกิดอะไรขึ้นกันแน่ในกรุงเทพฯ" เป็นภาพเหตุการณ์การทหาร
ใช้อาวุธสงครามปราบปรามผู้ชุมนุมในช่วง 19 พ.ค.53 ที่ผ่านมา และที่น่าสนใจคือมีการเผยภาพของชายสามคนบน
สถานีรถไฟฟ้า BTS โดยชายร่างท้วมคนหนึ่งในภาพสะพานปืนเอ็ม 16 โดย CNN บรรยายว่า

 
   


แดน ริเวอร์ส  ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นอัด สื่อไทยเชื่อถือไม่ได้
หลังมีข่าวเจ้าตัวเข้าพบนายกฯ อภิสิทธิ์ ด้านสาทิตย์ซัด
ซีเอ็นเอ็น ไถ่บาปเปิดเผยคลิปชายชุดดำ


แดน ริเวอร์ส ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นประจำประเทศไทย
ตกเป็นที่วิจารณ์ถึงความไม่เป็นกลา ง และความน่าเชื่อถือต่อ   การ
รายงานสถานการณ์วิกฤติการเมืองไทยในช่วงที่ผ่านมา ได้เขียนข้อ
ความผ่าน ทวิตเตอร์ ส่วนตัวปฎิเสธข่าวที่ว่า ตัวเองจะเข้าพบ  นาย
อภิสิทธิ์ พร้อมกับ   ปรามาสความน่าเชื่อถือของสื่อไทยอีกด้วย

“รายงานเรื่องการเข้าพบนายกฯของผม นั้นไม่เป็นความจริง
ผมได้รับมอบหมายให้มาทำงานที่กรุงโซล เห็นไหมว่าคุณเชื่อ
อะไร ไม่ได้เลยกับสิ่งที่คุณอ่านบนหนังสือพิมพ์ไทย”


ห   น้   า   แ   ต   ก




ผู้ประกาศข่าว : เรากำลังรายงานข่าวเรื่องความรุนแรงบนท้องถนนในกรุงเทพ และนายกรัฐมนตรีไทยได้ออกมาแถลงต่อ
คนในชาติเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา เราจะไปพบกับแดน ริเวอร์ ซึ่งอยู่ในกรุงเทพในขณะนี้ โดยแดนจะบอกเล่าให้เราฟังว่านายก
รัฐมนตรีพูดว่าอะไรบ้าง

แดน : นาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ออกอากาศผ่านทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่องเพื่ออธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ และเขากล่าว

มีคนกลุ่มหนึ่งปะปนอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดง ซึ่งเป็นกลุ่มคนจำนวนเล็กน้อย ต้องการให้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้น,
เขาใช้คำว่า "สงครามกลางเมือง" และ "ความสูญเสีย" จากนั้นเขาได้อธิบายต่อว่า-พวกเขา-ซึ่งก็คือรัฐบาลและ
กองทัพ พยายามจะตอบโต้กับกลุ่มติดอาวุธที่แฝงตัวอยู่ในหมู่ประชาชนและคอยซุ่มโจมตี ทหารที่ด่านตรวจโดยใช้
เครื่องยิงระเบิด M79 
เขายังบอกด้วยว่าสิ่งที่รัฐบาลทำอยู่เป็นเรื่องจำเป็น เพราะเราไม่อาจปล่อยให้การบังคับใช้กฎหมายต้องล้มเหลว เขา
ยังกล่าวต่อไปด้วยว่า
เราไม่อาจปล่อยให้ผู้มีอาวุธในครอบครองตระเวณ่ไปตาม ท้องถนนได้อย่างเสรี
ความตั้งใจของ อภิสิทธิ์ คือ ทำให้เรื่องจบโดยเร็ว เขาพูดว่า
หากปล่อยให้การชุมนุมยืดเยื้อยาวนานเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้สังคม เสี่ยงอันตรายมากขึ้น  และ
หากเราปล่อยให้เรื่องเช่นนี้ดำเนินต่อไปจะส่งผลร้ายต่อประชาชนในพื้นที่ เราพยายามจะแยกตัวผู้หญิงและเด็กออกมา


อภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่าหนทางที่ดีที่ สุดที่จะหยุดยั้งความสูญเสียก็คือการยุติการชุมนุม และเขาพยายามสร้างความเข้าใจ
เพื่อไม่ให้คนเดินทางไปเข้าร่วมการชุมนุมเพิ่ม พร้อมทั้งยืนยันว่าสิ่งที่ทำลงไปจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมในระยะยาว แต่
สิ่งที่พูดถึงเป็นเรื่องตึงเครียดไม่น้อย เมื่อนายกรัฐมนตรีของประเทศกล่าวถึงความเป็นไปได้ ที่กลุ่มคนจำนวนหนึ่ง พยา
ยามจะนำประเทศไทยเข้าสู่ ภาวะสงครามกลางเมือง และอถิสิทธิ์ยังกล่าวด้วยว่า   
 เขาได้พยายามเจรจาต่อรอง พยายามจะสร้างความปรองดอง แต่ผู้ชุมนุมได้ปฏิเสธข้อเสนอเหล่านั้นไป
ผู้ประกาศข่าว : แดน คุณเห็นอะไรบ้าง

คุณเห็นหลักฐานที่แสดงว่าผู้ชุมนุมมีอาวุธและพวกเขาตั้งใจจะจุดชนวนสงครามกลางเมืองหรือไม่ ?
แดน : ผมเห็นผู้ชุมนุมจำนวนมาก ที่เห็นชัดเจนที่สุดคือผู้ชุมุนมสายฮาร์ดคอร์มีไม้หน้าสาม, ท่อนไม้, ตะบอง, หนังสติ๊ก
แล ะก้อนหิน เตรียมพร้อมจะขว้าง แต่
"ผมยังไม่เคยกับตาว่าผู้ชุมนุมเสื้อแดงหรือการ์ดชุดดำมีปืนตามที่สื่อมวลชนที่นี่ระบุ"
หรือรายงาน ผมไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง แต่สิ่งที่เห็นในวันนี้ขณะที่มีการต่อสู้กันเกิดขึ้น ผมและเพื่อนร่วมงานอยู่ในพื้นที่
ที่มีการปะทะกันไม่ไกลจาก อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้เห็นผู้ชุมชุมเสื้อแดงบนท้องถนน ผมคิดว่าวิดีโอนี้แสดงให้เห็นถึง
สิ่งที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี มันทำให้เห็นชัดเจนว่า ทหารหน่วยซุ่มยิงของกองทัพ (สไนเปอร์) กำลังยิงเข้าใส่ผู้คน
เพื่อนร่วมงานของผมและตัวผมเองอยู่ใกล้ๆ และเห็นคนถูกยิง แต่เราไม่รู้ว่าคนที่ถูกยิงเกิดจากโดนทหารเหล่านี้ยิงหรือไม่
แต่นี่คือหลักฐานที่ชัดแจ้งว่า ทหารสไนเปอร์ จำนวนหนึ่งประจำการอยู่ตามท้องถนน และพวกเขาเล็งยิงไปยังผู้คน  ไม่รู้
ว่าคนที่พวกเขายิงคือใคร มีอาวุธปืนหรือไม่ หรือพวกเขาคิดว่าคนพวกนั้นมีปืนจึงได้ยิงแต่ผมคิดว่าวิดีโอนี้บอกเล่าได้เห็น
ภาพชัดเจนว่าการอยู่บนท้องถนนในตอนนี้เป็นเรื่องอันตรายเพียงใด กระสุนต่างๆ พุ่งมาจากทุกทิศทาง และเกิดระเบิดขึ้น
เป็นจำนวนมาก และมันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกือบจะตลอดทั้งวันในช่วงที่เราอยู่บริเวณ ถนนพระราม 4 โดยจุดที่เกิด
ระเบิดอยู่ห่างจากจุดที่เรายืนอยู่ไม่เพียงกี่เมตรเท่านั้น
ผู้ประกาศข่าว : แดน นี่คือวิดีโอล่าสุดที่เราได้มาจากกรุงเทพฯ ใช่ไหม

แดน : ใช่ และผมคิดว่านี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็น ทหารสไนเปอร์ ของกองทัพขณะปฏิบัติภารกิจซุ่มยิง ผมขอย้ำว่าเราไม่รู้ว่า

ทหารเหล่านี้มองเห็นอะไรข้างล่าง แต่เห็นได้ชัดว่ามีนายทหารที่ใช้กล้องส่องยิงจากปืนไรเฟิลคอยเฝ้าดูสถานการณ์ และ
นอกจากนี้ก็มีรายงานด้วยว่ามีประชาชนถูกยิงบริเวณพระราม 4 ผมได้รับโทรศัพท์แจ้งมาหลายสายว่ามีคนถูกยิงโดย
สไนเปอร์ ซึ่งเราไม่รู้ว่าคนที่ถูกยิงทั้งหลายที่ได้รับรายงานนั้นเป็นผลจากการซุ่ม ยิงของทหารเหล่านี้หรือไม่ แต่เราได้เห็น
ชัดเจนว่าทหารสไนเปอร์ได้รับคำสั่งให้ปฏิบัติการ และเห็นชัดๆ ว่าพวกเขากำลังเล็งยิง
ผู้ประกาศข่าว : นี่คือการรายงานของแดน หลังจากที่นายกรัฐมนตรีไทยได้ออกมาแถลงว่าผู้ชุมนุมมีอาวุธ และความตั้งใจของ
พวกเขาตามที่นายกฯ ได้กล่าวไว้ คือ พวกเขาตั้งใจก่อสงครามกลางเมือง





ส  ต  อ  ร์  เ  บ  อ  รี่  กั  น  เ  ข้  า  ไ  ป   น  ะ  ค  ร้  า


















ไม่มีความคิดเห็น: