จำนวนเข้าชม
ดิ้นเข้า ดิ้นที่จะหนีการสอบสวนของ คณะข้าหลวงUN ที่กำลังสืบหาข้อเท็จจริง
ดิ้นที่จะหลีกหนีให้พ้นการดำเนินการฟ้องร้องคดี ต่อ ศาลอาชญากรระหว่างประเทศ
ท่าจะขนหัวลุก งานนี้แม่เอ็งก็ช่วยยากซะแล้ว
เขาจับแก้ผ้าดูไขมันย้อยไปทุกส่วน
นิยายโกหกพกลม จาก หมา หน้า เซ่อ ASTV ผู้จัด การออนไลน์ 4 มิถุนายน 2553 00:26 น.
ความจริงที่เกิดในวัดปทุมฯ “ชายชุดดำ”ฆ่าประชาชน ไขปริศนาศพหายไปไหน?
คำให้การของเด็กหนุ่มผู้ถูกจ้างไปทำบั้งไฟท่ามกลางกลิ่น คาวเลือดและหยาด น้ำตากลางสี่แยกราชประสงค์เป็นการกระชากหน้ากากแกนนำก่อการร้ายแดงที่พยายามสร้างภาพให้ วัดปทุมวนาราม เป็นเขตอภัยทาน
ว่าเป็นเพียงฉากลวงโลกที่เสกสรรปั้นแต่งขึ้น โดยมีกลุ่มสันติวิธีอย่าง โค ทม อารียา เป็นหนึ่งในฟันเฟืองนำ
สีขาวมาทาบทับสีแดง
ที่กล่าวเช่นนี้ มิได้กล่าวหาอย่างเลื่อนลอย แต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏในระหว่างที่ วัดปทุมวนาราม ถูกประกาศเป็น
เขตอภัยทานให้ เด็ก สตรี และคนชราไปอาศัยอยู่นั้น ยังมีการ์ดแดงพร้อมอาวุธสงครามปะปนอยู่กับกลุ่มคนอ่อน
แอเหล่านั้น
จนกระทั่งวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เวลากลางวัน (เวลาเท่าใดไม่ทราบแน่ชัด) ข้าฯ นายเล่ กับพวกอีก ๕คน
หมดความอดทน จึงหนีออกจากวัด จึงได้พากันหนีออกจากประตูวัด ด้านใกล้แยกถนนอังรีดูนัง โดยนายเล่ กับ
พวกรวม ๕ คนนั้น นำหน้าออกประตูวัด ข้าฯตามหลังพบชายชุดดำใส่หมวกไหมพรมประมาณ ๕-๖คน ถือปืนยาว
ทุกคนอยู่ที่บริเวณประตูวัดดังกล่าวได้ยิงปืนใส่นายเล่กับพวกต่อหน้าข้าฯ ข้าฯจึงไม่กล้าออกไป และได้แอบดูเห็น
ชายชุดดำดังกล่าวได้ลากศพนายเล่ กับพวกไปเผายังบังเกอร์บนถนนบริเวณหน้าวัด
การ แต่งเรื่องขัดแย้งกันเองจนเห็นได้ ชัด ในเมื่อเจตนาฆ่าเพื่อต้องการให้ศพประจานความโหดเห.ี้ยม ทำไม
ต้องลากไปเผาทำลายหลักฐาน สู้ปล่อยไว้ให้เกลื่อนกลาดไปทั่ว ไม่ดีกว่า่หรือ หากต้องการป้ายความผิดให้ทหาร
การอำพรางทำลายศพ ก็เพื่อไม่ให้เป็นหลักฐานว่ามีการฆ่า แล้วการทำลายศพจะมีประโยชน์กับเสื้อแดงตรงไหน
................................................................................. รุ่งศิลา
คำให้การของเด็กหนุ่มผู้เห็นเหตุการณ์สังหารโหดในวัดปทุมวนารามกับตา สะท้อนความจริงที่ว่ามีกลุ่มก่อการร้ายต้องลากไปเผาทำลายหลักฐาน สู้ปล่อยไว้ให้เกลื่อนกลาดไปทั่ว ไม่ดีกว่า่หรือ หากต้องการป้ายความผิดให้ทหาร
การอำพรางทำลายศพ ก็เพื่อไม่ให้เป็นหลักฐานว่ามีการฆ่า แล้วการทำลายศพจะมีประโยชน์กับเสื้อแดงตรงไหน
................................................................................. รุ่งศิลา
แดงติดอาวุธสงคราม พร้อมที่จะสาดกระสุนใส่คนที่ต้องการก้าวพ้นจากธรณีประตูวัดอย่างโหด...ม ไร้ความปราณี
ไม่แน่ว่าศพที่เกิดในวัดปทุมวนารามอาจมีจำนวนมากเกินกว่าที่เราจะคาด ถึง และศพเหล่านั้น อาจถูกเผาทำลาย
หรือเคลื่อนย้ายทำลายหลักฐานในช่วงเหตุชุลมุน ก่อนที่เจ้าหน้าที่รัฐจะเข้าถึงพื้นที่ คงเหลือไว้แค่ 6 ศพที่ได้ถูกนำ
มาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง พยายามทำลายความชอบธรรม กล่าวหา ทหารและรัฐบาลอย่างเป็นระบบ สร้าง
น้ำหนักผ่านสื่อมวลชนบางฉบับที่ปวารณาตนเป็น
แก้วประการที่สี่ของ ทักษิณ
สิ่งที่น่าสนใจท่ามกลางควันไฟกลางสี่แยกราชประสงค์ที่ผู้คน อาจจะหลงลืมไปแล้วคือ ในช่วงต้นที่มีการเข้าไปเคลียร์สถานที่บริเวณเซ็นทรัลเวิล์ด เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2553 มีการรายงานข่าวออกมาในช่วงแรกว่า พบศพถูกเผา
เกรียมอยู่ในบริเวณดังกล่าว 9 ศพ และมีศพชายสำลักควันเสียชีวิตอีก 1 ราย บริเวณชั้นสี่ของเซ็นทรัลเวิล์ด
9 ศพ ที่ถูกเผาเกรียมจะเป็นส่วนหนึ่งในการทำลายหลักฐานการฆ่าหรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าค้นหา เพราะคำให้การของ
เด็กหนุ่มคนทำบั้งไฟระบุว่า กลุ่มคนที่หนีออกมาพร้อมกับเขา 5 คน ถูกยิงและลากไปเผาบริเวณบังเกอร์หน้าวัดแล้ว
ศพเหล่านั้นหายไปไหน เป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์กับ 9 ศพที่ถูกพบในเซ็นทรัลเวิล์ด?
ความจริงอีกประการหนึ่งจากคำให้การนี้ที่ทำให้เราสามารถต่อภาพเหตุการณ์ ภายในวัดปทุมวนารามวันที่19พย.2553
ได้คือ การสังหารหมู่ภายในวัดปทุมวนารามโดยการกระทำของกลุ่มก่อการร้ายแดงเกิดขึ้น ตั้งแต่ช่วงบ่ายซึ่งจากคำให้
การของเด็กหนุ่มคนทำบั้งไฟที่ขณะนี้ถูกกันไว้เป็นพยานปากสำคัญ ระบุชัดว่า
การสังหารโหดเกิดขึ้นทันทีที่มีผู้พยายามจะก้าวเท้าออกจากวัด จึงมีความเป็นไปได้ที่กลุ่มของเด็กหนุ่มผู้นี้อาจไม่ใช่
กลุ่มเดียวที่ถูกฆ่าโหด เพราะหากเรานึกถึงสภาพข้อเท็จจริงท่ามกลางห่ากระสุนและเสียงระเบิดน่าจะมีคน จำนวนไม่
น้อยที่จิตตก เกิดความหวาดกลัวต่อสถานการณ์จนพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะออกจากวัดแห่ง นั้น
แล้วจะมีสักกี่คนที่ออกจากวัดปทุมวนารามได้ โดยรอดพ้น “มัจจุราชชุดดำ”ที่ยืนดักฆ่าอยู่หน้าประตูวัด?
ส่วน 6ศพ ที่ยังเป็นปริศนาว่าใครฆ่า มีการระบุถึงห้วงเวลาการเสียชีวิตว่าน่าจะอยู่ในช่วงตะวันตกดิน 4ศพมีการชันสูตร
แล้วพบว่าจาก วิถีกระสุนถูกยิงในระนาบเดียวกัน มิใช่มุมสูงจากสกายวอล์คหรือบริเวณรางรถไฟฟ้าบีทีเอส สำหรับอีก
2ศพที่วิถีกระสุนเข้าบริเวณไหล่ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้เช่นเดียวกันว่าวิถีมาจาก มุมสูงจนกว่าจะได้มีการจำลองสถานการณ์จริง
ที่น่าสนใจคือผลการตรวจดีเอ็นเอจากกองเลือดภายในวัดของคุณ หญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ซึ่งพยานระบุว่าเป็นจุดที่
น.ส.กมนเกด อัคฮาค เสียชีวิต กลับพบว่า นอกจากดีเอ็นเอจะไม่ตรงกับของ น.ส.กมนเกดแล้ว ยังไม่ตรงกับศพใดๆ
ใน 6 ศพที่ถูกนำมาแห่เรียกร้องให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงไทยอยู่ตอนนี้อีกด้วย
แล้วเลือดปริศนาเหล่านั้นเป็นของใคร เจ้าของเลือดยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
น่าประหลาดใจไปกว่านั้น คือ จากหลักฐานและคำให้การข้างต้นน่าจะยืนยันได้ว่ามีผู้เสียชีวิตภายใน วัดปทุมวนาราม
มากกว่า 6 ศพที่กำลังประโคมข่าวกันอยู่ในเวลานี้แล้วศพเหล่านั้นอันตรธานหายไปไหน ทำไมจึงเหลือไว้เพียงแค่ 6
ศพกองสะเทือนใจอยู่บริเวณเต๊นท์พยาบาล แถมศพที่พบยังมีลักษณะเหมือนถูกเลือกเป้า ให้เกิดความละเอียดอ่อน
ทางด้านจิตใจว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ถูกทำร้ายอย่างอำมหิต โดยใช้ศพของ น.ส.กมมนเกด ซึ่งเป็นอาสาพยาบาลมาเป็น
สัญลักษณ์ในการโจมตีทหารและรัฐบาล
คำถาม คือ
หากทหารทำตัวเป็นเครื่องจักรสังหารหมู่ 6 ศพ จริง มีแรงจูงใจอะไรที่ทำให้ทหารต้องกระทำการดังกล่าว
คำตอบ
คือ มีแต่ผู้บังคับบัญชาที่เสียสติเท่านั้นที่จะสั่งการให้ฆ่าประชาชนผู้ บริสุทธิ์ เพราะทหารและรัฐบาลมิได้ประโยชน์ใด ๆ
เลยจากการสังหารโหดครั้งนี้ มีแต่จะตกเป็นจำเลยสังคมตามข้อหาที่ทักษิณ พรรค เพื่อไทยและก่อการร้ายแดง
พยายามยัดเยียดวลี ทรราชสั่งฆ่าประชาชนให้กับ อภิสิทธิ์ เวชชีวะ มาตั้งแต่เมษายนปีที่แล้ว แต่ล้มเหลวเพราะหา
ศพไม่เจอ
คนที่ได้ประโยชน์เต็ม ที่จากโศกนาฎกรรมวัดปทุมวนาราม คือ
พรรคเพื่อไทยก่อการร้ายแดง และทักษิณที่กำลังแห่6ศพนี้ ไปฟ้องศาลโลก
พรรคเพื่อไทยก่อการร้ายแดง และทักษิณที่กำลังแห่6ศพนี้ ไปฟ้องศาลโลก
ประโยค ปิดท้าย คือ สิ่งที่แสดงเป้าประสงค์ในบทความนี้ เพื่อ
" ปัดป้องความผิด ด้วยความตระหนก ปริวิตก ซึ่งความผิดในการก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษย์ชาติ"
โดยเหล่าผู้สมคบคิด สอดคล้องต้องกันกับการออกแถลงการณ์ ของ ผบ.ทบ.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ว่า
" ทหารไม่ได้ฆ่าประชาชน น๊ะจ๊ะ " ............................................................... รุ่งศิลา
- แหมๆ รัฐบาลมาร์คไม่เหมือนรัฐบาลซัดดัมนะ เผื่อใจไว้ผิดหวังบ้างก็ดี ผมก็ทับถมจนเหนื่อยแระ เฮ้อ
- ผมว่ารอผลการพิสูจน์อย่างเป็น ทางการออกมาก่อนดีกว่า อย่าเพิ่งรีบโยนความผิดให้คนอื่นเลย
ตอบ
การ สืบสวน การตาย ของประชาชนมือเปล่า 6 ศพ เป็นปฐมบทเบื้องต้น
นำมาซึ่ง การขยายผลทั้ง 89 ศพ ที่เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บกว่า 2,000ราย
อาจรวมถึง การฆ่าหมู๋ และอำพรางศพ ในเดือน เมษายน 2552 .. ด้วย
อย่างไรก็ดี ภาพลักษณ์ของคณะผู้บงการ ประเทศเลวร้ายนี้ ก็ยับเยิน เกินเยียวยา เสียแล้ว ....
อนิจจาอุตส่าห์ลวงโลกมาได้เกินครึ่งค่อน ศตวรรษ อีกนิสส์เดียวพลาดด้ายย!
.... ฆ่า มาเพลิน จนเคยมือ คิดว่าจะหมูเหมือนครั้งแล้วแล้ว .. ปะ ติ โถ
การ สืบสวน การตาย ของประชาชนมือเปล่า 6 ศพ เป็นปฐมบทเบื้องต้น
นำมาซึ่ง การขยายผลทั้ง 89 ศพ ที่เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บกว่า 2,000ราย
อาจรวมถึง การฆ่าหมู๋ และอำพรางศพ ในเดือน เมษายน 2552 .. ด้วย
อย่างไรก็ดี ภาพลักษณ์ของคณะผู้บงการ ประเทศเลวร้ายนี้ ก็ยับเยิน เกินเยียวยา เสียแล้ว ....
อนิจจาอุตส่าห์ลวงโลกมาได้เกินครึ่งค่อน ศตวรรษ อีกนิสส์เดียวพลาดด้ายย!
.... ฆ่า มาเพลิน จนเคยมือ คิดว่าจะหมูเหมือนครั้งแล้วแล้ว .. ปะ ติ โถ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น