วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ใกล้เวลาแล้ว "เอ็งกินเหล้าเมายาไม่ว่าหรอก"


[ภาพ: 81168082.gif]



บทกลอนเกี่ยวเนื่อง ด้วย กรมหลวงราชบุรีฯ ที่มีบางตอนว่า...
เอ็งกินเหล้าเมายาไม่ว่าหรอก............เรามันชนชั้นปัญญาตุลาการ


ประวัติคร่าวๆ ของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระบิดาแห่งกฎหมายไทย  พระองค์ทรงมี
พระนามเดิมว่า พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ เป็นโอรสองค์ที่ 14 ใน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
และ เจ้าจอมมารดาตลับ ประสูติเมื่อวัน ที่ 21 ตุลาคม 2417 ทรงเป็นต้นราชสกุล รพีพัฒน์

ทรงประกอบพระกรณียกิจ อันเป็นคุณประโยชน์อย่างยิ่งต่อวงการกฎหมายไทยและ ศาลสถิตยุติธรรม อาทิทรงดำรง
ตำแหน่ง เสนาบดีกระทรวงยุติธรรม ทรงจัดการปรับปรุงศาลยุติธรรมสู่ระบบใหม่ จัดตั้งศาลมณฑลและศาลจังหวัด
ทั่วประเทศ ทรงเป็น ประธานกรรมการตรวจชำระกฎหมาย ประมวลขึ้นเป็นกฎหมายอาญาฉบับ ร.ศ. 127 ทรง ตั้งโรง
เรียนกฎหมายเพื่อเปิดการสอนกฎหมาย ทรงรวบรวมและแต่งตำราคำอธิบายกฎหมายลักษณะต่างๆมากมาย และทรง
สอนวิชากฎหมายด้วยพระองค์เอง ทรงเป็น กรรมการตรวจตัดสินความฎีกาซึ่งเทียบได้กับศาลฎีกาในปัจจุบัน เป็นต้น

สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2463 พระชนมายุ 47 พรรษา จากอาการประชวร ด้วยพระวัณโรคที่พระวักกะ ขณะ
รักษาพระองค์อยู่ที่กรุงปารีส และบรรดานัก กฎหมายได้กำหนดให้วันที่ 7 สิงหาคมของทุกปี เป็น " วันรพี "

 ส่วนหนึ่งคำกลอนที่เป็น วรรคทอง ประจำใจนักกฏหมายไทยทั่วไป มาจากหนังสือตีพิมพ์

"  เอ็งกินเหล้า เมายา ไม่ว่าหรอก 
   แต่อย่าออก นอกทางไป ให้เสียผล 
   จงอย่ากิน สินบาท คาดสินบน 
   เรามันชน ชั้นปัญญา ตุลาการ "
โดย ลุงเวทย์ เพิ่มบุญ เปลี่ยนภู่

ที่มาของบทกลอนนี้มีเรื่องเล่าว่า กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ทรงพิถีพิถันเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเป็นผู้พิพากษา
เป็นอันมาก โดยพระองค์ทรงถือ ว่าความซื่อสัตย์สุจริตเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกลุ่มคนในแวดวงตุลาการ ไม่ว่าจะ เป็นนัก
การศาลยุติธรรม หรือนักกฎหมาย

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มีการเลี้ยงข้าวแช่ในพระบรม
มหาราชวัง และได้ทรงพระบรมราชานุญาตให้ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ นำนักเรียนกฎหมายเข้าเฝ้าฯด้วย ณ ที่นั้น
ได้ทรงมี พระราชกระแสดำรัสว่า "รพี พ่อได้ยินว่าผู้พิพากษากินเหล้ามากใช่ไหม ทำไมรพีจึงปล่อยให้เป็นเช่นนั้น"

กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ทรงนิ่งอึ้งอยู่ครู่ใหญ่ แล้วกราบบังคมทูลว่า
"ขอเดชะพระอาญามิพ้นเกล้าฯ ในเวลาที่ข้าพระพุทธเจ้าจะเลือกผู้พิพากษาก็ดี เลื่อนชั้นผู้พิพากษาก็ดี ข้าพระพุทธเจ้า
ถือหลักในใจอยู่เพียงสองข้อคือ ต้องมีสติปัญญาเฉียบแหลมเฉลียวฉลาดอย่างหนึ่ง และต้อง มีความซื่อสัตย์สุจริตอีก
อย่างหนึ่ง พูดสั้นๆ ต้องฉลาดและต้องไม่โกง ถ้าโง่ก็ไม่ทันคน อื่น โจทก์ จำเลย จะต้มเอาได้ ทำให้เสียความยุติธรรม
แต่ถ้าฉลาดแล้วโกงก็ทำ เสียความยุติธรรมอีกเหมือนกันจะซ้ำร้ายยิ่งกันไปใหญ่ ข้าพระพุทธเจ้ามิได้ ไปสอบสวนหรือ
เอาใจใส่กิจธุระส่วนตัวของผู้พิพากษาแต่ละคน ใครจะกินเหล้า เที่ยวเตร่อย่างไร นอกเหนืออำนาจเสนาบดีจะบังคับ"

 

กลอน          : ลำนำเลือด " เอ็งกินเหล้า เมายา ไม่ว่าหรอก "
แต่งโดย      : เพิ่มบุญ (เสริมศักดิ์) เปลี่ยนภู่ (นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ,เนติบัณฑิตไทย)
นามปากกา  : เวทย์ 
หนังสือชื่อ   : ข้างกองไฟ ( สำนักพิมพ์พรศิวะ, กรุงเทพฯ.พิมพ์ครั้งแรก 2547 . 116 หน้า)



ลำนำเลือด(นักกฎหมาย) โดย ลุงเวทย์ เพิ่มบุญ เปลี่ยนภู่

(๑)
มีเรื่องราวเลวร้ายอยู่หลายหลาก
ซ่อนหลังฉากลวงตาน่าเลื่อมใส
บนเส้นทางยุติธรรมงำเลศนัย
แฝงพิษภัยสารพัดของสัตว์คน

เมื่อกระบวนพิจารณาอันน่าเบื่อ
ถูกใช้เพื่อปรุงแต่งแปลงเหตุผล
พร้อมพร้อมกับนักกฎหมายร้ายเล่ห์กล
ได้ขายตนอย่างอุบาทว์เป็นทาสเงิน

ใช้กฎหมายกลายบทมุ่งกดขี่
สร้างอัปรีย์จนเปรอะไม่เคอะเขิน
จนกฎหมายหลายฉบับฉีกยับเยิน
หลังถูกเมินคุณค่าถูกท้าทาย

บริสุทธิ์ยุติธรรมถูกย่ำเหยียบ
แบบระเบียบบิดเบือนเลือนจุดหมาย
ฉุดความหวังสังคมล้มละลาย
ขื่อแปกลายย้อนกลับทับผู้คน

กูนี่แหละกำลังจะฉีกกระชาก
ถอดหน้ากากกำมะลอพวกฉ้อฉล
ให้แจ่มแจ้งประจักษ์ตามหาชน
ให้ตื่นตนต่อสู้กู้สิทธิ์คืน

หนึ่งชีวิตหนึ่งฝันบัณฑิตหนึ่ง
ได้รู้ซึ้งรู้สึกสะอึกสะอื้น
กี่คนยากถูกย่ำทุกข์กล้ำกลืน
กี่ขมขื่นคนดีถูกบีฑา

มันเกินที่ทนดูแล้วอยู่นิ่ง
ให้เห็นจริงจะแจ้งแจงปัญหา
ถึงคราวต้องดีเดือดเลือดเข้าตา
เอาชีวาทดแทนคุณแผ่นดิน

(๒)
ประวัติศาสตร์ชาติไทยได้บันทึก
ความรู้สึกอดสูมิรู้สิ้น
ครั้งพระจุลจอมเกล้าเจ้าแผ่นดิน
ต่างด้าวหมิ่นอธิปไตยของไทยเรา

ว่าศาลไทยไร้หลักจักเชื่อถือ
ต้องเอื้อมมือมาคุ้มครองคนของเขา
แค่สายเลือดชาวฝรั่งยังทำเนา
แต่เล่นเหมาทุกชาติเชื้อเหลือวุ่นวาย

ขอสิทธิสภาพนอกอาณาเขต
โดยอ้างเหตุบกพร่องของกฎหมาย
ว่าเปิดทางอยุติธรรมมากล้ำกราย
คือฝันร้ายยุคล่าอาณานิคม

ด้วยเดชะพระปรีชามหาราช
ทรงนำชาติพัฒนาสง่าสม
ตรากฎหมายเมืองสยามตามนิยม
คลี่คลายปมปัญหาอย่างถาวร

กระบวนการยุติธรรมสำคัญไฉน
ความเป็นไปที่ผ่านมาอุทาหรณ์
เฉกหลักค้ำสำคัญหากสั่นคลอน
จะเดือดร้อนกลีรุมราวสุมไฟ

เหลิงอำนาจอาจนำขาดสำนึก
ถลำลึกลงเหวความเหลวไหล
ละหลักการกฎเกณฑ์ควรเป็นไป
อำเภอใจทุจริตก่อพิษพาล

บริสุทธิ์ยุติธรรมนำทางชอบ
คือระบอบบำบัดทุกข์สร้างสุขศานต์
ยิ่งโลกาภิวัตน์ชัชวาล
ขื่อแปบ้านยิ่งสำคัญต้องมั่นคง

เพื่อชาติไทยเทียมหน้าอารยชาติ
ประวัติศาสตร์ย้ำเตือนอย่าเลือนหลง
ต้องเอาความชอบธรรมนำจำนง
ต้องยืนยงยุติธรรมค้ำสิทธิ์ชน

(๓)
จากจารีตนครบาลกาลกระโน้น
ค่อยอ่อนโอนเนื่องนำอำนวยผล
กฎหมายไทยพัฒนาเป็นสากล
อนุสนธิ์งานทรงองค์รพี

ตั้งพระทัยแน่วแน่แก้ปัญหา
พระปรีชาเชิงปราชญ์วาดวิถี
หนึ่งคือการกำหนดกฎหมายดี
สองต้องมีตุลาการพิจารผจง

เพราะแม้กฎตีกรอบดีชอบแล้ว
คนแหวกแนวแชเชือนเลอะเลือนหลง
ก็วุ่นวายเวียนวกเข้ารกพง
ลาญจำนงจนวินาศอนาถใจ

นอกจากทรงอุตสาหะชำระบท
ยังกำหนดแนวแบบยลแยบให้
สร้างวิถียุติธรรมอันอำไพ
มุ่งพระทัยพัฒนาตุลาการ

โดยพระทรงดำรงตนเป็นต้นแบบ
การุณย์แทบพระบาทไท้แผ่ไพศาล
พระดำรัสสูงส่งทรงประทาน
ก้องกังวานอยู่ในหัวใจคน

“ เอ็งกินเหล้าเมายาไม่ว่าหรอก
แต่อย่าออกนอกทางไปให้เสียผล
จงอย่ากินสินบาทคาดสินบน
เรามันชนชั้นปัญญาตุลาการ ”
  เพิ่มบุญ เปลี่ยนภู่ ผู้แต่ง

พระบิดาแห่งกฎหมายไทย
ชูเชิด
พระเกียรติเทิดสถิตฟ้าทั่วหล้าขาน
ยิ่งสืบผลแห่งพระปณิธาน
เป็นรากฐานยุติธรรมค้ำแดนไทย

รอยพระบาทยาตรนำธำรงค่า
ยั่งยืนกว่ากัปกัลป์บันดาลไสว
พระดำรัสคติธรรมจำขึ้นใจ
เป็นผู้ให้ สมถะ สละตน

นักกฎหมายส่วนหนึ่งคำนึงแน่ว
ยึดเป็นแนวปณิธานสืบสานผล
รพีพัฒนศักดิ์สลักกมล
คอยช่วยดลยุติธรรมชี้นำทาง

(๔)
จากบันทึกบนบรรทัดประวัติศาสตร์
เราสามารถย้อนมองเห็นช่องว่าง
ความเปลี่ยนแปรเป็นไปไร้กรอบวาง
จึงระหว่างวิวัฒน์วิบัติเบียน

โดยพื้นฐานคนไทยไม่ยึดหลัก
แต่ชอบจักคอยตะแบงดัดแปลงเปลี่ยน
กี่แผนบทกำหนดแน่วแนวจำเนียร
ผลผิดเพี้ยนเพราะผู้นอกลู่ทาง

ต้องมีคนกวดขันหมั่นกำกับ
คอยบังคับบัญชาอย่าเว้นว่าง
หากโอนอ่อนผ่อนปรนผลอับปาง
อย่าเหินห่างเผลอให้อยู่ไกลตา

เพราะทำได้ตามใจคือไทยแท้
คำเก่าแก่ที่นับวันสร้างปัญหา
คนในชาติขาดวินัยแต่ไรมา
จนลูบหน้าปะจมูกไม่ถูกควร

บ้างไม่ยอมหยิกเล็บกลัวเจ็บเนื้อ
น้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าพาผันผวน
แถมผักชีโรยหน้ามาเป็นพรวน
ลืมทบทวนผิดถูกปลูกฝังกัน

ยลเยี่ยงศรีธนญชัยใช้ประพฤติ
กลับหลงยึดเอาอย่างไม่สร้างสรรค์
บางคนเปลี่ยนจุดหมายเป็นรายวัน
เห่อแฟชั่นตามกระแสปรวนแปรนัก

หลังวัตถุนิยมผูกปมเงื่อน
ยิ่งบิดเบือนสังคมจนจมปลัก
ศีลธรรมรำไรไร้รูปลักษณ์
ก็ถูกผลักเสือกไสจากใจคน

ค่าของคนคำนวณนับจากทรัพย์สิน
ย่อมสูญสิ้นอุดมการณ์พาลสับสน
จึงพลิกผันบางผู้วิญญูชน
เลือกลดตนใฝ่ต่ำยอมทำเลว

ถึงยุคที่ศรัทธาบนบ่าแบก
กลายเป็นแอกหนักอึ้งดึงลงเหว
ฝันเหมือนไฟสิ้นเชื้อไม่เหลือเปลว
ความล้มเหลวหลากล้นท่วมคนดี

ความคดโกงโยงใยแผ่ไปทั่ว
คนโฉดชั่วเชิดหน้าอวดราศี
สร้างระบบอุปถัมภ์ค้ำอัปรีย์
เป็นผู้มีอภิสิทธิ์อิทธิพล

เจ็ดสิบปีเป็นไปใต้วิกฤต
โดยลืมคิดสังเกตตรองเหตุผล
แย่งอำนาจอธิปไตยให้ปวงชน
แต่กี่คนผูกขาดอำนาจครอง

กลายเป็นว่ายถากรรมนำทางชาติ
ประชาราษฎร์ยากไร้อกไหม้หมอง
กี่คนเคยเสวยสวรรค์อันเรืองรอง
กี่คนต้องทุกข์อนาถแทบขาดใจ

กี่เลือกตั้งปฏิวัติรัฐประหาร
ยิ่งดักดานย่ำแย่ยากแก้ไข
แค่อำนาจหมุนเวียนเปลี่ยนมือไป
เพื่อถูกใช้สร้างโอกาสโกงชาติกิน

บนเส้นทางพัฒนาน่าสมเพช
นำประเทศทุกข์ทวีเพิ่มหนี้สิน
ความฟุ้งเฟ้อฝังตัวทั่วแผ่นดิน
คนเสื่อมสิ้นศีลธรรมประจำใจ

ปัญหาหนักหมักหมมสังคมทรุด
ต้องรีบหยุดวิกฤตคิดแก้ไข
คนดีต้องรวมตัวอย่ากลัวภัย
กอบกู้ไทยสู่วิถีที่ถูกควร

(๕)
กับการมีกฎหมายเป็นลายลักษณ์
ย่อมมีหลักยึดมั่นยากผันผวน
แค่ตีความตามคำตรงสำนวน
อย่าแปรปรวนเบนเบี่ยงเลี่ยงบาลี

ยืนหยัดอย่างยืดหยุ่นดุลพินิจ
สุจริตศรัทธาในหน้าที่
คอยพิเคราะห์เหมาะควรมวลคดี
โดยไม่มีเงื่อนงำเล่ห์อำพราง

ขอบอำนาจกำหนดตามกฎหมาย
หากกล้ำกรายเลยเถิดเกิดบาดหมาง
ตามครรลองต้องเน้นความเป็นกลาง
ไม่เข้าข้างคนผิดแสร้งบิดเบือน

หิริโอตตัปปะอย่าละเว้น
ถือหลักเกณฑ์กติกาอย่าคลาดเคลื่อน
มีหน้าที่ดูแลห้ามแชเชือน
ห้ามเลอะเลือนเหลวแหลกแหกหลักการ

เมื่อคำว่าบริสุทธิ์เป็นจุดเริ่ม
ย่อมสร้างเสริมยุติธรรม์บรรทัดฐาน
ปราศจากอคติครอบพิชาน
ช่วยบันดาลสังคมให้ร่มเย็น

ขอเพียงแค่คนดีมีอำนาจ
ก็สามารถสร้างสุขสร่างทุกข์เข็ญ
ปล่อยคนชั่วครอบงำคงลำเค็ญ
บังเกิดเป็นกลียุคภัยคุกคาม

เพราะอำนาจอาจใช้ในทางผิด
ทุจริตรุมถิ่นแผ่นดินสยาม
ถืออำนาจบาตรใหญ่ด้วยใจทราม
จนลุกลามเดือดร้อนอย่านอนใจ

ทั้งสังคมสมควรมีส่วนร่วม
ช่วยส่วนรวมเหลียวแลคอยแก้ไข
เสมือนมีตาวิเศษทั่วเขตไทย
ความจัญไรถอนรากยากงอกเงย

เฉกมีสงฆ์ประพฤติทรามลามเสื่อมศาสน์
ฆราวาสล่วงรู้ไม่อยู่เฉย
แต่กับภัยใกล้ตัวมัวละเลย
รอทุกข์เกยกลบหน้าช้าเกินการณ์

ต้องตื่นตัวอยู่ตลอดช่วยสอดส่อง
ทุกคนต้องเป็นภาระร่วมประสาน
เอาความชั่วมากระชากลากประจาน
ทำเพื่อบ้านเพื่อเมืองได้เฟื่องฟู

ลองเริ่มต้นตนเองเคร่งครัดเถิด
เลิกละเมิดกฎหมายอายอดสู
เลือกเดินตามความถูกต้องลองทำดู
เริ่มจากผู้เป็นผู้ใหญ่ในแผ่นดิน


(๖)
เมียทหารอาภัพทนนับขวด
เมียตำรวจนับแบ๊งค์แหล่งทรัพย์สิน
อัยการกร่อนกลายเป็นอัยกิน
คำหยามหมิ่นย่อมมีเหตุที่มา

สังคมคนปนปะคละดีชั่ว
นั่นแหละตัวต้นตอก่อปัญหา
เอาคนชั่วอุ้มชูอยู่ตำตา
ฉะนั้นปลาร่วมข้องต้องราคี

คำจ้วงจาบฉาบฉวยช่วยคนผิด
ลองยั้งคิดย้อนครวญถ้วนวิถี
อย่าเหมาหมายทนายความทรามสิ้นดี
เพียงแต่ที่สุนัขถ่ายฝอยรายเรียง

คำเรียกขานศาลอำเภอใช่เผลอพล่อย
ตุลาการกล่าวถ้อยละห้อยเสียง
ต้องให้ความยุติธรรมกลับลำเอียง
หลบหลักเลี่ยงสีข้างถูนอกลู่ทาง

เรื่องเลวร้ายเหล่านี้มีให้เห็น
ใครเล่าเป็นธุระคอยสะสาง
ล้วนแชเชือนเฉไฉไปพลางพลาง
ดีแต่สร้างภาพหรูหลอกผู้คน

(๗)
กลียุคทุกข์ท้นทนกลืนกล้ำ
กลชอบธรรมนำเลศเหตุสู่ผล
ผลสู่เหตุเลศนำทำชอบกล
กล้ำกลืนทนท้นทุกข์ยุคกลี

ใต้ระบอบระเบียบวางสร้างระบบ
ต้องเคารพกติการู้หน้าที่
แต่ตัวบทกฎหมายมากมายมี
ตรงจุดนี้บาปเคราะห์เข้าเกาะกุม

ทุกหนแห่งแฝงเงาเหล่าจิ้งจอก
คอยกลับกลอกกลบคำทำตีขลุม
ฉกประโยชน์ยื้อแย่งเหมือนแร้งรุม
มารมั่วสุมสร้างปัญหาน่าหวั่นเกรง

กลไกความยุติธรรมควรนำสุข
กลับสร้างทุกข์ทับถมคอยข่มเหง
ปล่อยให้สุจริตชนพึ่งตนเอง
จนคว้างเคว้งหวาดผวาระอาภัย

ถูกเอารัดเอาเปรียบถูกเหยียบย่ำ
ชะตากรรมวิปริตผิดวิสัย
แทบทุกทางทุกที่มีเลศนัย
ความบรรลัยล่วงล้ำรุมย่ำยี

ดำเป็นขาวขาวเป็นดำทำลบเกลื่อน
ล้วนบิดเบือนกลับกลายระบายสี
สร้างหลักฐานพยานเท็จเบ็ดเสร็จมี
ผลคดีสั่งได้ดังใจปอง

อำนาจสั่งเงินซื้อหรือพวกขอ
เรื่องราวก็เรียบร้อยคล้อยสนอง
ความชั่วช้าช่วงโชติโลดลำพอง
ความถูกต้องตกต่ำเห็นตำตา

กระบวนการยุติธรรมหลักค้ำสิทธิ์
ทุจริตรายรุมสุมปัญหา
กวาดฝุ่นไว้ใต้พรมหมักหมมมา
ถึงเวลาปฏิวัติกำจัดพาล

(๘)
หลักประชาธิปไตยไทยยึดถือ
กฎหมายคือแนวทางวางรากฐาน
แต่สภาพบังคับกลับหย่อนยาน
ละหลักการกลายกร่อนอ้างผ่อนปรน

เจตนารมณ์ของกฎหมายสลายลับ
ขึ้นอยู่กับอำเภอใจไร้เหตุผล
เมื่อมีความบกพร่องของบุคคล
ยิ่งสับสนสืบเนื่องเกิดเรื่องลาม

การตรวจสอบทุกส่วนล้วนข้องขัด
สารพัดยุ่งยากเป็นขวากหนาม
ทั้งผู้คนกลไกไม่คล้อยตาม
มีแต่ความเมินเฉยจนเคยชิน

ต้องเรื่องราวฉาวโฉ่โกลาหล
ค่อยมีคนใส่ใจใฝ่ถวิล
ทุกข์ชาวบ้านธรรมดาดังอาจิณ
แทบไม่ยินไม่ยลไม่สนใจ

แค่เช้าชามเย็นชามตามประสา
กี่ปัญหาที่ผ่านการแก้ไข
กี่แผนงานเงียบนิ่งทอดทิ้งไป
บ้างก็ไฟไหม้ฟางก่อนจางควัน

ในขณะประชาชนยังท้นทุกข์
ท่านกลับสุขเสมือนเทพเสพสวรรค์
เพิ่มเงินเดือนเลื่อนตำแหน่งผลแบ่งปัน
สมานฉันท์สมาคมจนกลมเกลียว

ท่านอยู่ดีกินดีมีอำนาจ
ประชาราษฎร์ยากไร้ใครแลเหลียว
มาตรฐานที่พึงเป็นหนึ่งเดียว
ยังลดเลี้ยวลักลั่นแบ่งชั้นชน

หลากตัวบทกฎหมายหลายข้อห้าม
แค่ข้อความในกระดาษปราศจากผล
ใช้บังคับอยู่บ้างกับบางคน
ที่เผลอตนไปอยู่ขวางหูตา

แม้การเลือกปฏิบัติขัดกฎหมาย
แต่เส้นสายสัมพันธ์นั้นแน่นหนา
ความเป็นธรรมที่ใครเคยได้มา
ต้องถือว่าโชคหนุนบุญอนันต์

ตราบที่กฎไม่ถูกเน้นว่าเป็นกฎ
ยังจับจดตามใจไม่กวดขัน
เหมือนไม้หลักปักเลนล้อเล่นกัน
ไม่มีวันยุติธรรมถูกคำนึง

ตราบผู้ถือกฎหมายเล่นขายของ
ความมัวหมองเสื่อมทรามลามทั่วถึง
ขณะที่คนดีทำเพียงรำพึง
ย่อมอื้ออึงเสียงสะอื้นคนขื่นใจ

(๙)
มีปลาเน่าร่วมข้องต้องกำจัด
ต้องยืนหยัดมุ่งมั่นอย่าหวั่นไหว
ยุคข้อมูลข่าวสารกังวานไกล
สามารถใช้เป็นเครื่องมือทุกสื่อกลาง

นำความรู้ความเข้าใจไปเผยแพร่
ให้ถ่องแท้เท็จจริงอาจอิงอ้าง
กระบวนการตรวจสอบเคยบอบบาง
ปรับโครงสร้างเสริมกำลังเฝ้าสังคม

การศึกษาพื้นฐานต้องขานรับ
หลักสูตรปรับเปลี่ยนใหม่ให้เหมาะสม
เอาคุณค่าแทนที่ค่านิยม
โดยระดมมันสมองช่วยตรองงาน

ทั้งสิทธิหน้าที่ชี้ให้เห็น
กำหนดเป็นแนวทางวางรากฐาน
ก่อนงอกงามความคิดจิตวิญญาณ
แตกกิ่งก้านคุณค่าปัญญาชน

ให้มองกว้างคิดไกลและใฝ่รู้
แบบอย่างผู้มีวินัยใช้เหตุผล
ยึดถือหลักพอเพียงพอเลี้ยงตน
ไม่ฉ้อฉลทุจริตมิจฉาจาร

ทุกองค์กรเกี่ยวข้องสนองตอบ
รับผิดชอบเคร่งครัดบรรทัดฐาน
เริ่มต้นที่ทุกส่วนกระบวนการ
ให้ประสานสอดคล้องทำนองควร

การรวบรัดปัดสวะอย่าประพฤติ
แต่จงยึดหลักมั่นมิผันผวน
อคติอวิชชาพาเรรวน
ต้องถี่ถ้วนดุลพินิจถูกทิศทาง

อย่าหวังเพียงเพื่อตนผลงานเด่น
จนเบี่ยงเบนความจริงอิงเท็จอ้าง
ความรู้สึกผิดชอบเป็นกรอบวาง
ทุกก้าวย่างยึดถือความซื่อตรง

หน้าที่เจ้าพนักงานทำการชอบ
มีเขตขอบยั้งคิดอย่าผิดหลง
บริสุทธิ์ยุติธรรมนำจำนง
จะยืนยงเกียรติยศปรากฏนาม

ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ต้องอาจหาญ
ถือหลักการสุจริตไม่คิดขาม
หูไปนาตาไปไร่จัญไรลาม
อย่าคล้อยตามอภิสิทธิ์อิทธิพล

พฤติกรรมทำสำนวนควรแก้ไข
เปลี่ยนมาใช้รวมสำนวนประมวลผล
ไม่ให้มีสำนวนอ่อนที่ซ่อนกล
ไม่เปื้อนปนปรักปรำทำวุ่นวาย

แม้รวบรวมหลักฐานเป็นงานหนัก
หลายสิ่งมักถูกอำพรางบ้างสูญหาย
ไม่เหมือนสร้างหลักฐานงานสบาย
อย่ามักง่ายผูกเงื่อนบิดเบือนความ

เคยตำรวจเจ้าตำรับเรื่องจับแพะ
แล้วหาแกะมาชนเห็นล้นหลาม
ก็เลิกละลบหมดภาพพจน์ทราม
เลิกวางก้ามทำกร่างอย่างเป็นนาย

ห้ามปกปิดสิทธิของผู้ต้องหา
ขั้นตอนตราไว้หมดในกฎหมาย
อย่ารวบรัดลิดรอนซ้อนอุบาย
จะอับอายอดสูคนดูแคลน

จะกลายเป็นตราบาปตราบลูกหลาน
ก่อตำนานอัปยศหดหู่แสน
ความผิดพลั้งครั้งคดีเชอรี่แอนน์
จำให้แม่นทั้งหมดเป็นบทเรียน

สำหรับผู้บริสุทธิ์ดุจพวกเขา
ถูกใครเล่าลิขิตชีวิตเปลี่ยน
เมื่อหลักฐานถูกสร้างอย่างแนบเนียน
ผลวนเวียนอย่างนี้อีกกี่ราย

ตรงกันข้ามกับคนที่พ้นผิด
เพราะอามิสสู่มือถือกฎหมาย
มีผู้ยอมอัปยศหมดยางอาย
เอาเกียรติขายสิ้นค่าศรัทธาคน

บ้างละเลยเฉยชาลืมหน้าที่
บ้างแสร้งมีดุลพินิจผิดเหตุผล
หยิบกฎหมายตีความตามใจตน
ล้วนฉ้อฉลจัดฉากยากเยียวยา

อัยการเปรียบ ทนายของฝ่ายรัฐ
ต้องเคร่งครัดแข็งขันมองปัญหา
กรองสำนวนถ้วนถี่ด้วยปรีชา
ใช้อาญาแผ่นดินปราบสิ้นพาล

สำนวนอ่อนซ่อนเงื่อนเหมือนงำเลศ
ก็สังเกตแก้ไขไม่ปล่อยผ่าน
สั่งสอบสวนเพิ่มเติมเสริมพยาน
กันหลักฐานตกหล่นเกิดมลทิน

ประโยชน์รัฐเป็นหลักต้องรักษา
สร้างศรัทธาผองชนพ้นติฉิน
อย่าเหลวไหลเลยออกนอกระบิล
ลบคำหมิ่นเคยมีที่แล้วมา

ต้องชัดเจนจรรโลงความโปร่งใส
เหตุผลใดมิฟ้องผู้ต้องหา
พร้อมระวังพลั้งพลาดผิดมาตรา
เขาจะว่ามวยล้มสมยอมกัน

ความประพฤติควรให้อยู่ในกรอบ
รับผิดชอบหน้าที่ขมีขมัน
บริสุทธิ์ยุติธรรมเป็นสำคัญ
ต้องยืนยันยืนหยัดถือสัตย์ครอง

คนเป็นผู้พิพากษาอย่าหวั่นไหว
หากเผลอไผลลืมตัวอาจมัวหมอง
คติธรรมประจำใจใช้ไตร่ตรอง
เพราะท่านต้องเป็นหลักพิทักษ์ธรรม

ในพระปรมาภิไธยอ้าง
อย่าอำพรางทุจริตคิดใฝ่ต่ำ
ขืนปล่อยให้ตัณหามาครอบงำ
จักเกิดคำครหาเป็นราคี

ใช่อยู่บนบัลลังก์นั่งเชิดหน้า
แหงนมองฟ้าเมินดินสิ้นราศี
เริงอำนาจวาสนาบารมี
ลืมหน้าที่พันธะปฏิญาณ

แต่รอบคอบรอบรู้ตราชูเที่ยง
ไม่เอนเอียงอคติริวิตถาร
ใช้สามัญสำนึกตรึกตรองการณ์
มองเหตุผ่านสู่ผลค้นต้นตอ

โดยหลักการความเป็นกลางใช่วางเฉย
อย่าละเลยคอยจนคนร้องขอ
ทางชอบธรรมในหน้าที่ห้ามรีรอ
อย่าลับล่อเลี้ยวลดเลี่ยงกฏเกณฑ์

กระบวนการวาดวางอย่างสร้างสรรค์
ต้องครบครันพร้อมพรักขะมักเขม้น
ยึดตัวบทบัญญัติความชัดเจน
ห้ามเบี่ยงเบนเบือนบิดผิดกระบวน

ธรรมชาติธรรมดามีสาเหตุ
หมั่นสังเกตกลนัยเร่งไต่สวน
กรองเอาถ้อยกระทงความตามสมควร
เพื่อประมวลเบ็ดเสร็จข้อเท็จจริง

นำไปสู่สุจริตวินิจฉัย
ตามวิสัยโดยสัตย์ชัดทุกสิ่ง
ข้อกฎหมายที่กระจ่างยกอ้างอิง
แยบคายยิ่งยืนยันภูมิปัญญา

บุคลากรฝ่ายรัฐเลิกจัดฉาก
เป็นฐานรากสำคัญแก้ปัญหา
สร้างความหวังรำไรให้ประชา
ได้พึ่งพาความเกื้อกูลเหล่ามูลนาย

(๑๐)
หากไปศาลด้วยใจซื่อมือสะอาด
มักพลั้งพลาดเพลี่ยงพล้ำระส่ำระสาย
ต้องปลิ้นปล้อนซ่อนเล่ห์เพทุบาย
ดำก็กลายเป็นขาวราวเสกมนต์

จากภาพลักษณ์ด้านลบที่พบเห็น
จึงกลายเป็นจุดด่างสร้างสับสน
ทนายความตามสายตาประชาชน
ได้แก่คนกลิ้งกลอกคอยหลอกลวง

กระบวนการบิดเบือนจนเปื้อนปด
พาภาพพจน์เพี้ยนไปอย่างใหญ่หลวง
คนดีนั่งหน้าสลดรันทดทรวง
ท่ามกลางปวงปัญหาที่มารุม

ในศาลาโกหกที่บกพร่อง
หลากคนชั่วฉวยช่องมาซ่องสุม
ทิศทางแห่งอำนาจขาดใครคุม
ก็เกิดกลุ่มคดโกงเชื่อมโยงใย

พวกตีนโรงตีนศาลสำราญรื่น
สินบนยื่นสู่อำนาจอนาถไฉน
คือความจริงที่จำต้องทำใจ
ตราบยังไร้หลักฐานประจานแจง

ผลกำหนดล่วงหน้าก่อนหาเหตุ
วางขอบเขตบีบคั้นอันเคลือบแฝง
วิธีการแยบยลกลพลิกแพลง
เพื่อกลั่นแกล้งกลบเกลื่อนเลือนความจริง

จนตกหล่นสูญหายรายละเอียด
ก็ยัดเยียดอยุติธรรมต่ำช้ายิ่ง
หวังที่พึ่งสุดท้ายหมายพึ่งพิง
กลับพบสิ่งที่แสลงเสียดแทงใจ

ทนายความที่ว่าความไปตามสัตย์
ทนอึดอัดอดกลั้นแกมหวั่นไหว
ต้องหดหู่รู้เห็นความเป็นไป
หวังเพียงให้โชคนำบุญอำนวย

บนถนนคนดีที่เปลี่ยวร้าง
เหมือนทิ้งขว้างโอกาสอาจฉกฉวย
ไกลเหลือเกินกับคำว่าร่ำรวย
เต็มไปด้วยขวากหนามตามเส้นทาง

ตราบที่ยังยืนหยัดความสัตย์ซื่อ
ความเชื่อถือทีละน้อยค่อยสมสร้าง
ทุกนาทีที่ผ่านรากฐานวาง
ทุกก้าวย่างสั้นสั้นแต่มั่นคง

แล้วจากปากสู่ปากยิ่งฝากชื่อ
ซึ่งก็คือคุณค่าอานิสงส์
กลายเป็นเกียรติเป็นศรีที่ดำรง
เชิดชูวงศ์ตระกูลจรูญเจริญ

วิชาชีพหลักวิชาต้องมาก่อน
ใช่ปลิ้นปล้อนสารพัดไม่ขัดเขิน
หากพูดจาสับปลับเกียรติยับเยิน
ถูกประเมินค่าต่ำหยามย่ำยี

ทุจริตผิดบาปเขาสาปแช่ง
ผลสำแดงเดือดร้อนรอนศักดิ์ศรี
เห็นแก่เงินเกินงามลามกาลี
กลับทวีทุกข์เทวษนำเภทภัย

จริยธรรมนำทางต่างเข็มทิศ
สุจริตศรัทธาอัชฌาสัย
รู้หลักเกณฑ์เจนจัดเสริมปัจจัย
ทันสมัยมีสมองตรองถูกควร

(๑๑)
กฎระเบียบแบบฉบับบังคับราษฎร์
บ่งอำนาจหน้าที่ไว้ถี่ถ้วน
ขาดเพียงผู้ดูแลจึงแปรปรวน
เสียกระบวนจากผลคนตะแบง

กระบวนการตรวจสอบไม่ตอบสนอง
กลับเปิดช่องฉ้อฉลกลกลั่นแกล้ง
มากมุบมิบโมเมเล่ห์พลิกแพลง
เหลือระแวงยากระวังกระทั่งระอา

มีใครเล่าเอาธุระขะมักเขม้น
ไม่ล้อเล่นหลบเลี่ยงไร้เดียงสา
คงมีแต่พวกเราเหล่าประชา
ช่วยจับตาแข็งขันหมั่นเปิดโปง

รอภัยลามถึงตนผลเสียหาย
เกิดเครือข่ายต่ำช้ามาเป็นโขยง
หลากลวดลายเลี้ยวลดจ้องคดโกง
ซ่อนใยโยงย้อนยอกออกอุบาย

คนลุแก่อำนาจเห็นกลาดเกลื่อน
คอยบิดเบือนกระบวนการลาญกฎหมาย
ความคาดหวังสังคมล่มมลาย
คลุมเครือคล้ายกลียุคย้อนคุกคาม

จิตวิญญาณนักกฎหมายแทบหายสูญ
คอยเกื้อกูลคนผิดไม่คิดขาม
สายสัมพันธ์พวกพ้องครรลองทราม
ยิ่งแผ่ลามฝังรากยากเยียวยา

หวังหน่อเนื้อเชื้อดีรพีพัฒน์
มิกระจัดพลัดพรายหน่ายปัญหา
แต่ร่วมแรงแข็งขืนฟื้นศรัทธา
ให้เจิดจ้า บริสุทธิ์ ยุติธรรม

ความเป็นนักกฎหมายในสายเลือด
อย่าแห้งเหือดปล่อยให้ใครเหยียบย่ำ
เลือดต้องข้น ต้องขลัง ฝังใจจำ
ไม่ใฝ่ต่ำลดตัวกลั้วอาจม

พวกนอกรีตผ่าเหล่ารากเหง้าชั่ว
ต้องลากตัวมารับทัณฑ์อันสาสม
ตัดเนื้อร้ายที่ลามความโสมม
เพื่อสังคมอบอุ่นบุญแผ่นดิน


วันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ออกมาเถิด เพื่อนไทยร่วมชาติ


                        ออกมาเถิด .. พี่น้อง

                     ออกมาเถิด .. พี่น้องเพื่อนพ้อง
                 มาร่วมปรองดองสร้างชาติ
                 สมานฉันท์สามัคคีสามารถ
                 หาสร้างภาพวาดอันใด

                                                   น้องพี่ร่วมชาติเดียวกัน
                                                   แบ่งท่านกันฉันที่ไหน
                                                   แตกแยกฆ่าฟันหาไร
                                                   เชื่อเถิดเพื่อไทยืนยัน

                 มาพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวาน
                 ยื่นมือประสานเธอฉัน
                 เชื้อชาติสัญชาติสัมพันธ์
                 แหลมทองเดียวกันธงไทย

                                                   ใช่ฅน มาตรแม้นลวงล่อ
                                                   ใจคอโหดร้ายหาไม่
                                                   ห้ำหั่นสายเลือดกระไร
                                                   สาบานตกตายตามกัน


                                                                         รุ่งศิลา
                                                              ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
   

วันอังคารที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ประเทศมหาอำนาจ Vs ประเทศมหาอำมาตย์


 ประเทศมหาอำมาตย์ ท้าทาย ประเทศมหาอำนาจ
     
โปรดอย่ากระพริบตาในแรงกระเพื่อมแห่งความไม่พอใจ
   จากผลกระทบที่จะตามมาในทางตรงและทางอ้อม  ทั้งบนดินและใต้ดิน

        การที่ ประเทศมหาอำมาตย์ บังอาจล้ำเส้นท้าทาย ประเทศมหาอำนาจ ระดับนำของโลก โดยมี
มหาอำนาจอันดับ1 อีกประเทศคอยถือหางคัดท้าย และอยู่ในสายตาของ มหาอำนาจยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย

ถือเป็นความผิดพลาดในการบงการประเทศครั้งร้ายแรงที่สุด รองจากคำสั่งซ้ำซากให้ ปฏิวัติรัฐประหาร ประเทศทุยนี้ 
ความกลัวทำให้เสื่อม ความยะโสโอหังแลโง่เขลา นำพาความหายนะมาสู่ประชาชนทั้งประเทศเพียงแค่เอื้อม ด้วย
กิเลสตัณหาริษยาอาฆาต เพียงตัวเดียว
ก็ไหนสรรเสริญกันหนักหนาว่า รู้แจ้งธรรมะ เป็นอัจฉริยะ
   ฉลาดเฉลียวกว่าผู้ใด ไฉนติ้นเขินเบาบางทางปัญญาขนาดนั้น

เขารู้กันทั้งประเทศว่ากรณี นายวิคเตอร์ บูท นี้เข้ามาเมืองทุยทำไม ...  ใคร,กองทัพไหนเชิญมา ... เพื่อมาหารือซื้อ
ขายเรือดำน้ำอะไร ...  ถ้าจะซื้อแล้วจะขัดใจใครที่ว่าอ่าวทุยตื้นเกินไปที่จะเอาเรือมามุดน้ำ ...  บูทเป็นตัวแทนค้าขาย
ของประเทศใด ... แล้วยังหักหลังจับเขาเพื่ออะไร ตามที่ทราบๆกันแล้ว(ข้อมูลเสริมตามลิงค์ที่แนบมาให้)

ผู้สันทัดกรณี เชี่ยวชาญรู้จริงในทางลึก ได้วิเคราะห์ความเสียหาย กรณีมีการตอบโต้จากมหาอำนาจหมีขาวไว้แล้ว
อย่างน่าตระหนกตกใจ เป็นไฟกองใหญ่ที่ถูกจุดไว้เรียบร้อยแล้ว

หรือประเทศทุยนี้จะต้องแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยตามคำทำนาย ต้องตามแผนการมหาอำนาจผู้ละโมภโดยแบ่งแยก
ทำลาย แล้วจับรวมเป็นหนึ่งเดียว New World Order “การจัดระเบียบโลกใหม่ หรือ “การปฏิวัติโลก”

                                 
ความยิ่งใหญ่ของทรราชย์จอมบงการ เป็นเพียงแค่ตุ๊กตา หมากตัวเล็กๆบนกระดานโลกใบนี้..หน้าที่ของจอมมาร
ตนนี้ก็เพียงแค่จัดอำนวยความสะดวก ให้กับแผนการ เท่านั้น จะโดยความเขลารู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือโดยเป็นตัวละครที่
ถูกจัดตั้งส่งเสริมให้ยิ่งใหญ่มาก่อน ก็อาจเป็นได้ ... ถ้าท่านผู้อ่าน ได้ศึกษาประวัติการก้าวขึ้นสู่อำนาจชักใย สืบลึกย้อน
หลังไปค่อนศตวรรษ ดวงตาจะเห็นแจ้ง

เป็นการแลกเปลี่ยน ผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน ต่างตอบแทนกัน ฝ่ายทรราชจอมบงการได้อำนาจวาสนาความมั่งคั่ง
ส่วนฝ่ายองค์กรชักใยโลกได้ครอบงำดำเนินงานตามแผนการอย่างราบรื่นไร้การต่อต้าน

ซึ่งแผนการนี้ อยู่ในการเฝ้าระวังของประเทศมหาอำนาจพี่เบิ้มแห่งเอเชีย และองค์กรกลุ่มประเทศมุสลิมโดยใกล้ชิด

                             
ผมขอทำนายไว้ เลย ณ.วันเวลานี้ว่า
มหาอำนาจฝ่ายหนึ่ง จะดุนหลังพิงของกลุ่มทรราชอำมาตย์
มหาอำนาจอีกฝ่าย ที่ใหญ่ยิ่งไม่แพ้กัน จะสนับสนุบสนุนให้ล้ม...
ในทางเดียวกันพี่เบิ้ม มหาอำนาจเอเชีย ก็จะกระหนาบอยู่รอบข้างด้านพม่า ลาว และ เขมร
พร้อมให้การสนับสนุนผู้นำหัวก้าวหน้าของประเทศทุยนี้ ในการขุดคลองไทย(คอคอดกระ) หรือ แลนด์บริดจ์ เพื่อเชื่อม
ต่อกับเส้นทางถนนจากตอนใต้ของจีนที่ตัดผ่านเมียนม่าร์ สอดรับกับการวาง ยุทธศาสตร์ทางทะเล ในมหาสมุทรอินเดีย
ไว้ดูแลผลประโยชน์ของจีนในอนาคต รวมถึงกองเรือรบจีนที่จะประจำการ ณ.ฐานทัพเรือในประเทศ เมียนม่าร์ ..

ผลักดันให้เกิด เอเชียบอนด์ การตั้ง ตลาดพันธบัตรแห่งเอเชีย วงไพบูลย์ทางการเงินแห่งเอเชีย  เพื่อระดมทุน หมุน
เวียนทรัพยากรจากประเทศเอเชีย เพื่อประโยชน์ประเทศภูมิภาคเอเชียด้วยกัน

         รัสเซีย และ จีน เป็น “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์” กันนี้คือสิ่งที่ชาติมหาอำนาจยิ่งใหญ่ หวั่นเกรงและขัดขวางทุกวิถีทาง
เพื่อไม่ให้เกิด จึงสนับสนุนอย่างลับๆให้ล้มทุกรัฐบาลของประเทศทุยนี้ หากผู้นำทุยคนใดมีความคิดก้าวหน้า ด้วยน้ำมือของ
กองทหารขี้ข้าอำมาตย์ทำรัฐประหารตามคำสั่งการของทรราชตัวเดิมอีกที .........     บทความโดย  รุ่งศิลา 23 พย.2553

           

                                         
       "ใครที่คิดว่าอเมริกาจะช่วยตนและพวกให้พ้นข้อหาอาชญากรรมระหว่างประเทศ"
โดยการเอาคดีความบางเรื่องเข้าแลก ก็อย่าหวังว่าอเมริกาจะจริงใจนะครับ ชีวิตมนุษย์จำนวน ๙๑ คน ที่ต้องตายจาก
เหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่ม คนเสื้อแดง ในอนาคตอาจนำความยุ่งยากมาสู่ผู้คนบางกลุ่มด้วยการจะต้องถูกฟ้องร้อง
ของคดี สังหารหมู่ คดีการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ คดีทำร้ายพลเรือน ฯลฯ

นายกษิต ภิรมย์ เดินทางไปกรุงมอสโก เพื่อคุยกับกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียหลายเรื่อง รวมทั้งเรื่องของนายบูท
ด้วย เรื่องที่นายกษิตพูดกับรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียนั้น เป็นความลับ ไม่มีใครทราบ แต่ผมก็ไม่คิดนะครับว่า นายกษิต
จะแย่ขนาดเอาเรื่องอิสรภาพ นายวิคเตอร์ บูท ไปแลกกับการขอให้รัสเซียส่ง พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร กลับ
มาให้รัฐบาลไทยลงโทษ

พันตำรวจโท ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นบุคคลที่ผู้ใหญ่ทางฝ่ายรัสเซียรักมาก คบกันเป็นเพื่อนตาย นิติภูมิรู้จักคนรัสเซียดี
จึงมั่นใจว่า คนรัสเซียไม่ขายเพื่อน  วิคเตอร์ บูท (๒) พุธ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๓

           

           
คำยืนยันจากปากของ นายวิคเตอร์ บูท ว่าช่วงสงกรานต์ มีผู้มาพบบูทที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ และบอกว่าถ้ายูจะรอด
ปลอดภัย ยูจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ expert ไปให้การในศาล ว่าพันตำรวจโท ดร. ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ทำ operation
ดำเนินการทั้งหมดทั้งปวงในการขนอาวุธจากเกาหลีเหนือมายังประเทศไทย และอาวุธดังกล่าวจะนำมาใช้โดยพวกเสื้อแดง

นายวิคเตอร์ บูท  ก็งงว่าอะไรคือ เสื้อแดง และปฏิเสธ เพราะไม่ต้องการมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองในประเทศอื่น

เพราะคิดว่า ชาวไทยนั้นโง่ไม่รู้ว่า นายวิคเตอร์ บูท ติดคุกในประเทศไทยมานาน ๒ ปีครึ่งแล้ว จะไปจัดการกับเครื่องบิน
ขนอาวุธจากเกาหลีเหนือได้อย่างไร การติดคุกที่แดน ๘ ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ไม่มีทางเลยที่ผู้ติดคุก จะบงการเพื่อ
ให้เครื่องบินจากเกาหลีเหนือขนอาวุธมายังประเทศไทย วิคเตอร์ บูท (๑) อังคาร ๒๔สิงหาคม๒๕๕๓

           

ตั้งแต่ เดือนธันวาคม ๒๕๕๐ สังคมไทยก็ตระหนักถึงศักยภาพของอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ผลิตจากสหพันธรัฐรัสเซีย มีการ
กระดิกพลิกตัวของบรรดานายทหารทุกเหล่าทัพ เดินทางไปดูโรงงานผลิตอาวุธของรัสเซียกันยกใหญ่
ผู้ใหญ่หลาย ท่านสอบถามตามข่าวถึงคุณภาพของอาวุธและการอุตสาหกรรมรัสเซียหลายครั้ง จับความสนใจในขณะนั้น
ได้ว่า สังคมไทยสนใจในเรื่อง อาวุธรัสเซีย จริงๆ มิใช่สนใจเพียงตามกระแส

อเมริกา เป็นประเทศหนึ่งซึ่งมีรายได้จากการขายอาวุธ จากประวัติศาสตร์ คณะผู้นำของชาติบ้านเมืองใดที่เปลี่ยนแหล่ง
ซื้ออาวุธจากโรงงานอเมริกัน ไปซื้อของประเทศอื่น คณะผู้นำนั้น มักจะโดนรัฐประหาร ต้องเปลี่ยนรัฐบาลทุกรายไป

ผมมีลางสังหรณ์ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม ๒๕๕๐ แล้วล่ะครับว่า อนาคต น่าจะมีเหตุการณ์อะไรไม่ดีซักอย่าง สองอย่าง
เกิดขึ้นกับประเทศไทย  วิคเตอร์ บูท (๓)  พฤหัสบดี ๒๖สิงหาคม๒๕๕๓

           

                           
                          “สหรัฐอเมริกาเอาปลาตัวเล็กๆ มาเป่าขึ้นเป็นปลาวาฬ”

เพื่อต้องการจะหยุดกระแสอะไรหรือเปล่า? เพราะหลังจากที่นายบูทถูกจับ แทบจะไม่มีนายทหารไทยคนไหน กล้ารับ
เชิญไปดูงานที่โรงงานผลิตอาวุธของรัสเซียอีกเลย!
นายวิคเตอร์ บูท เดินทางมาถึงเมืองไทยเมื่อ ๖มีนาคม๒๕๕๑  และถูกจับหลังจากลงสนามบินสุวรรณภูมิ  ภายในเ
วลา๓ชั่วโมง ที่โรงแรมโซฟิเทล สีลม บูทถูกเจ้าหน้าที่ยูเอ็นรายงานมานานเกือบ ๑๐ ปี ทำไมไม่จับ
ทำไมต้องมาจับในช่วงที่กระแสอาวุธรัสเซียกำลังแรงในประเทศไทย และประเทศอื่นในโลกเยอะแยะ ทำไมไม่จับ
ทำไมต้องมาจับในดินแดนของประเทศไทย สงสัยแค่นี้แหละ? วิคเตอร์มาไทยด้วยTGเดียวกับผม ศุกร์ ๒๗สิงหาคม๒๕๕๓
    


วิคเตอร์ บูท (๑) อังคาร ๒๔สิงหาคม๒๕๕๓
วิคเตอร์ บูท (๒) พุธ ๒๕สิงหาคม๒๕๕๓
วิคเตอร์ บูท (๓) พฤหัสบดี ๒๖สิงหาคม๒๕๕๓
วิคเตอร์มาไทยด้วย TG เดียวกับผม ศุกร์ ๒๗สิงหาคม๒๕๕๓
เสียหายระดับโลก พุธ ๑กันยายน๒๕๕๓
ในอดีต รัสเซียจน บูทรวย จันทร์ ๑๑ตุลาคม๒๕๕๓
บูทสิ้นแต้ม อาจารย์ห้าแต้ม อังคาร ๑๒ตุลาคม๒๕๕๓
กรอบการพิจารณา แนวขุดคลองไทย

วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ฮีโร่ หลงยุค เผด็จการ หลงเงา และจุดจบ


            ฮีโร่ หลงยุค เผด็จการ หลงเงา และจุดจบ

    * จอมพล จอมพลเรือ จอมพลอากาศ พลตำรวจเอก
            * หนังสือที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์

 และแล้ว ละครเรื่อง "เผด็จการตัวแทน" ก็ยังมิพักลาโรง คงเปิดการแสดงอย่างต่อเนื่อง
                                 คำเตือน โปรดยืนตรงหลังจบการแสดง










                         
           จอมพล จอมพลเรือ จอมพลอากาศ พลตำรวจเอก สฤษดิ์ ธนะรัชต์
                              (16 มิถุนายน 2451 - 8 ธันวาคม 2506) นายกรัฐมนตรีคนที่ 11


          ระบอบใหม่
จอมพลสฤษดิ์ เล็งเห็นว่า"การปฏิวัติที่เป็นแค่การยึดอำนาจรัฐบาลอย่างเดียวนั้น ไม่อาจแก้ปัญหาของ
ประเทศอย่างยั่งยืนได้ จำเป็นจะต้องมีการรื้อ ”ระบอบ” ใหม่ทั้งหมดด้วย สฤษดิ์มองว่า ประชาธิปไตย
เป็นการปกครองแบบตะวันตกนั้นไม่เหมาะกับสังคมไทย เพราะนำมาซึ่งความโกลาหลไม่จบสิ้น ระบอบ
สำหรับประเทศไทยต้องเหมาะกับวัฒนธรรมไทย สังคมไทยไม่เหมาะกับการมีฝ่ายรัฐบาล vs. ฝ่ายค้าน
คอยคานกัน รัฐบาลน่าจะเป็น รัฐบาลแห่งชาติ ของคนทั่งประเทศ ไม่ใช่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง จึงจะ
พัฒนาประเทศได้อย่างเต็มที่มากกว่า"


เดือนเมษายน 2500 กลุ่มอนุรักษ์-กษัตริย์นิยม(สยามรัฐ) และ กองทัพ ภายใต้การนำของ จอมพล
สฤษดิ์ ธนะรัชต์
เริ่มเคลื่อนไหวเตรียม แผนรัฐประหาร โดยมีแกนนำสำคัญเข้าประชุมร่วมกับกองทัพ
เช่น
          กรมหมื่นพิทยาลาภพฤฒิยากร(พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัติ) ประธานองคมนตรี,
          ม.ร.ว.เสนีย์ และ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช

                                       
                จอมพลสฤษดิ์ ปฏิวัติรัฐประหาร รัฐบาลจอมพลป. 16 กันยายน พ.ศ.2500

                           
         เมื่อครั้งยังเป็นขุนทหาร เคียงคู่บารมีนาย จอมพล ป. ก่อนจะแข็งข้อยึดอำนาจนายเก่า

                             
            จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ กระหนาบข้างซ้ายขวา ด้วยนายทหารคู่บารมี
    จอมพลถนอม กิตติขจร และ จอมพลประภาส จารุเสถียร ผู้สืบทอดอำนาจเผด็จการตัวแทน
              และทำการยึดทรัพย์เจ้านายหลังวายชนม์ หมดสิ้น ด้วยมาตรา17 ที่ตราขึ้นเอง


                             
             กงเกวียนกำเกวียน รัฐบาลนายสัญญา ธรรมศักดิ์ ยึดทรัพย์2จอมพล และลูกชาย
                           หลังเหตุการวันมหาวิปโยค 14 ตุลาคม พ.ศ.2516


    click เข้าชมภาพเด็ดๆ และที่มาของความสัมพันธ์ และเบื้องหลังการรัฐประหารซ้ำซาก เพื่อฮู ?




                                                 
                                            มาแชล สฤษดิ์ เซ็งเป็ดเซ็งไก่

.

วันพฤหัสบดีที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ - สงขลา 2 พฤศจิกายน2553

เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ - สงขลา 2 พฤศจิกายน2553



“อภิสิทธิ์”หนุนธปท.บี้แบงก์ลดค่าธรรมเนียมโอนเงินผ่านATM

ทำใจเถิด " มาร์ค " ให้ทำใจยอมรับสภาพ

 " ประชาชนมีความวางใจเกินไป ที่จะรับมือกับปัญหา แต่ความเป็นจริงไม่เป็นอย่างที่คาดไว้
   เราต้องทำใจยอมรับ ว่า เป็นปรากฏการณ์ที่มีปริมาณน้ำท่วมขังมากและรุนแรงที่สุดในรอบ
   50 ปี ในหลายพื้นที่ยังไม่เคยมีประสพการณ์ หรือ ความคุ้นเคย กับปัญหานี้ "

คำอธิบายภาพ : img_1094large
       [ภาพ: 34298087.jpg]


สงขลาประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ
น้ำท่วมทั้งจังหวัด 16 อำเภอแล้ว หลังน้ำท่วมหนัก เจ้าหน้าที่เร่งนำเรือท้องแบน เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่
น้ำท่วม แต่ประสบปัญหาจำนวนเรือไม่เพียงพอ ทำให้การช่วยเหลือยากลำบาก และไม่ทั่วถึง

วันที่ (2 พฤศจิกายน) สถานการณ์น้ำท่วมสงขลาวิกฤตหนัก โดยน้ำจากคลองอู่ตะเภา เทือกเขาคอหงส์ และจากอำเภอสะเดายัง
คงไหลหลากเข้าท่วมใจกลางเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีกระแสน้ำแรงทำ
ให้ถนนทุกสายถูกตัดขาด ไฟฟ้า น้ำประปา และโทรศัพท์สาธารณะใช้การไม่ได้

ทั้งนี้ นายไพร พัฒโน นายกเทศบาลนครหาดใหญ่ กล่าวว่าได้ประกาศให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมแล้วเพื่อ
ความไม่ประมาท และให้ขนย้ายรถสิ่งของขึ้นที่สูง และให้จัดหาข้าวสาร อาหารแห้ง ไว้ให้พร้อม เพราะระดับน้ำนอกเขตเทศบาล
สูงกว่าเขตเทศบาล ซึ่งปีนี้ระดับน้ำหนักกว่าปี 2543 ทั้งอ่างเก็บน้ำสะเดา และทุกอ่างก็เต็มแล้ว เพราะปีนี้น้ำมากกว่าในรอบ100ปี

นายไพร กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้ เนื่องจากตอนนี้ในเขตเทศบาลน้ำท่วมเข้าขั้นวิกฤต รถ
เคลื่อนไม่ได้ เรือก็ออกยาก เมื่ออกไปแล้ว ไม่สามารถกลับมาได้ เพราะกระแสน้ำแรง ทั้งนี้ยังมีประชาชนที่ติดอยู่ตามหลังคาบ้าน
บ้านพักรถไฟ ที่ยังคงรอการช่วยเหลือต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนต่อไป

ขณะที่ นายปรีชา อาจารย์โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย กล่าวว่าสถานการณ์ล่าสุด   ที่อาคารเรียนมีนักเรียนติดค้าง อยู่ในโรงเรียน
จำนวน 400 คน และมีน้ำท่วมสูง ขึ้นเรื่อยๆไม่สามารถเดินทางออกมาไดั ขณะนี้ยังไม่มีการเข้าไปช่วยหลือแต่อย่างใด เนื่องจาก
ติดขัดในเรื่องของการสัญจร เพราะโรงเรียนตั้งอยู่บริเวณนอกเมือง ทั้งนี้การช่วยเหลือนักเรียนภายในโรงเรียนในเรื่องของสุขานั้น
ยังไม่เกิดปัญหา เนื่องจากโรงเรียนมีสุขาอยู่ทุกชั้นเรียน จึงสามารถรองรับนักเรียนได้

โดย กพฐ. เผยในพื้นที่ จ.สงขลา มีสถานศึกษาได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมรวม 127แห่ง แบ่งเป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) จำนวน 107 แห่ง และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา(สพม.) จำนวน 20 แห่ง


ภาพถ่ายดาวเทียม 20:21 PM 2010,November

 แผนที่แสดงสถานการณ์น้ำท่วม จ.สงขลา ทั้ง 16 อำเภอ

น้ำท่วมสงขลา
วันที่ 3 พ.ย.2553 โดยพื้นที่ สีแดง ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ได้แก่ อ.หาดใหญ่ (4) และ อ.นาทวี (11)
(ภาพจาก songkhla.thaiflood.com )



สถานการน้ำท่วมเมือง เทศบาลนครหาดใหญ่ พย.2553

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก thealami.com, ไทยโพสต์ , rugby34 ,momiji1987 , NINA R.Hirunya

สถานการณ์น้ำท่วมสงขลา วันนี้ (4 พฤศจิกายน) ระดับน้ำ ลดลงเกือบทุกพื้นที่แล้ว ซึ่งระบบการสื่อสารทางโทรศัพท์ ก็เริ่ม
ใช้งานได้ตามปกติในบางจุด เช่นเดียวกับระบบไฟฟ้า  แต่ก็มีบางหมู่บ้านที่ยังไม่สามารถเปิดใช้บริการได้  ส่วนระบบประปานั้น
เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการ แต่คาดว่าการฟื้นฟูระบบต้องใช้เวลาและยังไม่สามารถผลิตน้ำประปาได้ทันที

โดย นายวิญญู ทองสกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ขณะนี้สิ่งที่ต้องการมากที่สุดของชาวสงขลา คือ น้ำดื่ม เนื่องจาก
ประชาชนขาดแคลน และระบบน้ำประปา ก็ไม่สามารถผลิตได้   รวมทั้งชุดช่าง ที่เข้ามาช่วยซ่อมแซมหลังคาบ้านเรือนประชาชน
และอาสาสมัครที่เข้ามาช่วยตัดต้นไม้ ที่โค่นล้มทับบ้านเรือนประชาชานและขวางถนน   ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น มีประชาชน
เสียชีวิตทั้งหมด 11 ราย

อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยังกล่าวถึงการเสียชีวิตของ ว่าที่ ร.ต.วัชรัตน์ บุญฤทธิ์ ปลัดอำเภอจะนะ  ที่สูญหาย
ไปกับทีมงาน ขณะออกช่วยเหลือชาวบ้านว่า ขณะนี้ยังไม่พบท่านปลัด หลังจากมีกระแสข่าวว่า พบศพแล้วเมื่อช่วงค่ำวานนี้ และ
ขณะนี้ทางทีมงาน ก็เร่งค้นหาอย่างต่อเนื่อง และยังมีความหวังว่าท่านปลัดจะปลอดภัย

ทางด้านนายดนัยวิทย์ สายบัณทิตย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทาน จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมใน
อำเภอหาดใหญ่ เริ่มคลี่คลายน้ำจะแห้งทุกจุดแล้ว ในคลองอู่ตะเภาปริมาณน้ำต่ำกว่าตลิ่งเป็นปกติแล้ว แต่ที่น่าห่วงอยู่ที่ อำเภอ
บางกล่ำ ยังมีปริมาณน้ำมาก เจ้าหน้าที่กำลังระดมเครื่องสูบน้ำเพื่อไประบายน้ำในอำเภอบางกล่ำลงทะเล คาดว่าภายในสัปดาห์
นี้ สามารถระบายน้ำได้หมด

นายดนัยวิทย์ กล่าวว่า การระบายน้ำใน อำเภอหาดใหญ่ ที่ทำได้รวดเร็ว   เนื่องจากก่อนหน้านี้  ทางจังหวัดได้มีการเตรียมความ
พร้อมไว้แล้ว โดยได้มีการขุดลอกคลองทั้งหมด เพื่อเปิดให้ทะลุทะเลสาบสงขลา ซึ่งเดิมพื้นทะเลสาบสงขลาจะสูงกว่าคลองจึง
ทำให้มีการขุดลอกคลองไปให้ถึงร่องน้ำลึกของทะเลสาบ ทำให้ระบายน้ำได้รวดเร็ว

ขณะที่ชาวเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ทยอยทำความสะอาดร้านค้า และอาคารบ้านเรือน หลังจากน้ำท่วมลดระดับลง จนแห้ง
สนิทแล้ว โดยเฉพาะบริเวณ ตลาดกิมหยง ย่านการค้าสำคัญ ใจกลางเมืองหาดใหญ่ มีแม่ค้าทยอยเข้าตรวจสอบสภาพความเสีย
หายภายในร้านค้าของตนเอง ขณะที่ร้านค้าที่ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย จากน้ำท่วมนั้น  ก็ทยอยเปิดร้านเพื่อตรวจเช็กสิ่งของ
เร่งทำความสะอาด และนำสินค้ามาวางจำหน่ายอย่างเช่น ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายผ้าและร้านรองเท้าที่ต้องขายกันแบบลดราคา
และยอมขาดทุน โดยมีประชาชนบางส่วน เข้าไปเลือกดูสินค้าที่ยังพอใช้ได้ และช่วยกันอุดหนุนสินค้าต่าง ๆ

ขณะที่การสัญจรในเส้นทางถนนหาดใหญ่นั้น มี อาสาสมัครชุดพิทักษ์เมืองหาดใหญ่ ขึ้นตรงกับเทศบาลเมืองหาดใหญ่มาคอย
อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ซึ่งในวันนี้ทางด้าน นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
จะเข้าตรวจสอบความเสียหายภายในพื้นที่หลังน้ำลดระดับลงแล้ว

 



 



น้ำท่วมสงขลา

อย่างไรก็ตาม มีรายงานล่าสุดว่า มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บริเวณหน้าตลาดกิมหยง เนื่องจาก ถูกไฟฟ้าชอร์ต

ขณะที่นายแพทย์สุรชัย ล้ำเลิศกิตติกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหาดใหญ่ เปิดเผยสถานการณ์น้ำท่วมในโรงพยาบาลหาดใหญ่
ว่าขณะนี้ปริมาณน้ำในโรงพยาบาลนั้น ท่วมสูงเหนือหัวเข่าแล้วขณะที่รอบนอกโรงพยาบาล   น้ำได้ท่วมสูงถึงหน้าอกแล้ว  ซึ่ง
ระดับน้ำนั้น ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ไหลช้าลง เนื่องจากฝนได้หยุดตกไปแล้ว  ทั้งนี้ในส่วนของผู้ป่วยในโรงพยาบาล
นั้น มีจำนวน 559 คน โดยเจ้าหน้าที่ได้ขนย้ายจากชั้นล่างไปยังชั้น 5 ของโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อนยแล้ว

ทั้งนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในขณะนี้ คือ ปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเกรงว่าปริมาณน้ำจะท่วมเครื่อง ปั่นไฟของโรงพยาบาล
ที่มีอยู่ จำนวน 3 ตัว ซึ่งในจำนวนผู้ป่วยนั้น  มีผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องหายใจอยู่เป็นจำนวนมาก  ซึ่งหากเกิดเหตุฉุกเฉินอาจได้รับ
อันตรายได้ ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่เองได้ตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ บริเวณเครื่องปั่นไฟ เพื่อระบายน้ำแล้ว

ปลัดจะนะสงขลา และอาสาสมัครเรือล่ม ขณะช่วยน้ำท่วม สูญหาย 2

นายบรรจง ช่วยชู นายอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า     เมื่อกลางดึกเมื่อวานนี้ นายวัชรัตน์ บุญฤทธิ์ ปลัดอำเภอ
จะนะ  ได้เดินทางโดยเรือพร้อมกับ อาสาสมัคร และทหาร และชาวบ้านนำทาง รวม 4 คน ไปช่วยชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมจากพายุ
เปรสชั่น ที่ตำบลป่าชิง อำเภอจะนะ ได้ถูกระแสน้ำที่แรงมากพัดจนเรือที่โดยสารเกิดล่ม และปลัดอำเภอกับชาวบ้านที่นำทางไป
สูญหายไป 2คน ส่วนทหารและอาสาสมัครรอดชีวิตมาได้ ซึ่งทั้งคืนได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปค้นหาตามต้นไม้ก็ไม่ยังไม่เจอ   ซึ่งเช้านี้
ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปค้นหาอีกรอบแล้ว

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อำเภอจะนะ นั้น น้ำยังคงท่วมสูง โดยเฉพาะที่ว่าการอำเภอ มีน้ำท่วมสูง ประมาณ 1 ฟุต และมี
รถโดยสารที่จะส่งผ่านตัวอำเภอไม่สามารถที่จะเดินทางต่อไปได้ จึงจอดรอดูสถานการณ์ที่อำเภอจะนะ จำนวนหลายคันด้วยกัน
และยังเร่งอพยพประชาชน ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงออกจากพื้นที่จำนวนกว่า 400 คนแล้ว

หาดใหญ่ ยังวิกฤต

แม้ฝนในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จะหยุดตกแล้วแต่สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ยังคงน่าเป็นห่วง หลายจุดยังมีระดับน้ำ
เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะในตัวเมืองหาดใหญ่โดยชุมชนหลัง สภ.หาดใหญ่ มีน้ำท่วมสูงมาก ประชาชนยังรอความช่วยเหลือ
เช่นเดียวกับอีกหลายจุดที่ประสบภัย เนื่องจากบางพื้นที่ถูกตัดกระแสไฟฟ้าการเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนก็เป็นไปอย่างยาก
ลำบาก

ขณะที่ ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ ระดับน้ำเพิ่ม สูงขึ้นต่อเนื่องสูงกว่า1เมตรแล้ว ซึ่งกระแสน้ำมาอย่างรวดเร็วชนิดที่ไม่มีใครคาดคิด
มาก่อน การช่วยเหลือจึงค่อนข้างลำบาก และยังขาดเรือด้วย

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วม ที่อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ยังคงมีน้ำท่วมขังสูง รถยนต์เล็กไม่สามารถผ่านได้ โดยเฉพาะทางหลวง
หมายเลข43 จังหวัดปัตตานี มุ่งหน้าอำเภอหาดใหญ่     ช่วงองค์การบริหารส่วนตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา   มี
ปริมาณ น้ำท่วมขังถนนประมาณ 60 เซนติเมตร เป็นระยะทางร่วม 2กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ต้องเปิดเส้นทางพิเศษ จากฝั่งหาดใหญ่
มุ่งหน้าอำเภอเทพา ให้รถยนต์วิ่งสวนเลน เนื่องจากจุดดังกล่าว เป็นแอ่งกระทะและอยู่ติดแม่น้ำเทพา โดยรถยนต์ ที่สามารถสัญ
จรได้ ก็เป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มีความสูงและรถบรรทุกเท่านั้น

ขณะที่ถนนสายหลักช่วงองค์การบริการส่วนตำบลสะกอม อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ก็เป็นอีก 1 จุดที่มีน้ำท่วมขังสูง รถยนต์ที่
สัญจรผ่านบริเวณดังกล่าวต้องใช้เส้นทางเลี่ยงเข้าหมู่บ้าน เลียบชายฝั่งทะเลสงขลา มุ่งหน้าเข้าพื้นที่ตำบลตลิ่งชั่น อำเภอจะนะ
เพื่อเดินทางเข้าสู่อำเภอหาดใหญ่

คาด 2-3 วัน ระดับน้ำลด

ผู้อำนวยการชลประทาน จ.สงขลา กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำในพื้นที่ จ.สงขลา ที่ถูกน้ำท่วม ระดับน้ำเริ่มลดลงชั่วโมงละ 1-2
เซนติเมตร ส่วนตัวเมืองหาดใหญ่ยังทรงตัวอยู่ คาด 2-3 วัน ระดับน้ำจะลดลง อย่างไรก็ตาม ทางชลประทานได้ส่งเครื่องสูบน้ำ
15 เครื่อง เครื่องผลักดัน 11 เครื่อง  เครื่องปั๊มน้ำขนาดใหญ่อีกจำนวนหนึ่งไปที่หาดใหญ เพื่อเร่งระบายน้ำลงทะเลสาบสงขลา
ให้เร็วที่สุด ส่วน อ.นาทวี อ.สะเดา น้ำเริ่มลดแล้ว

ชี้น้ำท่วมครั้งนี้ หนักสุดในรอบ 70 ปี

นายวีระ วงศ์แสงนาค รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยที่จังหวัดสงขลา ว่า จากการวิเคราะห์ปริมาณ
น้ำที่จังหวัดสงขลา พบว่าขณะนี้น้ำในหลายอำเภอ ไหลมารวมกันที่อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งเป็นทางผ่านไหลลงสู่ทะเลสาบสงขลา
ทำให้อำเภอหาดใหญ่ มีปริมาณน้ำมากกว่า 250 ล้านลูกบาศก์เมตร สูงสุดในรอบ 70 ปี โดยจากการตรวจวัดปริมาณน้ำที่สถานี
บ้านบางศาลา เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันนี้ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,300ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที สูงกว่าตลิ่ง 77เซนติเมตร แต่
ขณะนี้ปริมาณน้ำลดลงเหลือสูงกว่าตลิ่ง 44 เซนติเมตร ทำให้หลายพื้นที่ปริมาณน้ำเริ่มทรงตัว

ทั้งนี้จากการประเมินสถานการณ์ หากไม่มีฝนตกเพิ่มเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันนี้ ปริมาณน้ำน่าจะทรงตัวระยะหนึ่ง และจะ
ลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากน้ำทะเลยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้การไหลของน้ำจากคลองอู่ตะเภา และคลอง ร.1 ลงสู่ทะเลสาบ
สงขลาสะดวกขึ้น โดยทั้ง 2 คลองสามารถระบายน้ำได้เต็มที่ 900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่ปัจจุบัน อัตราการไหลของน้ำ
อยู่ที่ 1,623 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงคาดว่าไม่เกิน3วันหลังจากนี้ น้ำที่ล้นตลิ่งจะเริ่มไหลลงสู่คลองทุกสายทำให้สถานการณ์
ดีขึ้น



ภาพความเสียหาย ที่อำเภอเมืองสงขลา เช้าหลังพายุดีเปรสชั่นเข้า 2พย.2553

  น้ำท่วมสงขลา


ศาลจังหวัดสงขลา


สนามกีฬาติณสูลานนท์ (เทศบาลนครสงขลา)


ต้นไม้ใหญ่ล้มทั้งยืน ระเนระนาดทั้งเมือง


ที่ทำการเทศบาลสงขลา                                                 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
 
ล้มปิดถนน


คลื่นลม ชายหาดสมิหลา


หน้าโรงแรมสมิหลา หาดสมิหลา ประมงเกยฝั่ง


ถนนเรียบชายหาดสมิหลา

ถนนเรียบชายหาดสมิหลา                                                ต้นสนหักล้มพาดปิดถนนเรียบชายหาดตลอดสาย


ขุดรากถอนโคน


ลิฟท์ทางขึ้นเขาตังกวน


ถนนหน้าทางขึ้นเขาตังกวน                                               ลิงเขาตังกวน 

น้ำท่วมสงขลา น้ำท่วมสงขลา
กำแพงเมืองสงขลา อายุเกือบ 200 ปี พังถล่ม

ImageShack, share photos, pictures, free image hosting, free video hosting, image hosting, video hosting, photo image hosting site, video hosting site ImageShack, share photos, pictures, free image hosting, free video hosting, image hosting, video hosting, photo image hosting site, video hosting site
กำแพงเมืองเก่าสงขลา ถล่ม




  
 
 
 






น้ำท่วมสงขลา น้ำท่วมหาดใหญ่ 3 พฤศจิกายน 2553


มัสยิดกลางสงขลา

เทศบาลนครเมืองหาดใหญ่ ถูกน้ำท่วมทั้งหมด มีประชาชนติดค้างภายในบ้านเรือน หลายหมื่นคน

[ภาพ: I9872739-8.jpg]  [ภาพ: 113ye.jpg]
เซ็นทรัลหาดใหญ่                                                           ตลาดกิมหยง

[ภาพ: 117el.jpg] [ภาพ: 120de.jpg]



บริเวณตลาดกิมหยง : credit คุณrugby34                                    บริเวณใกล้ ๆ ห้างบิ๊กซี : credit คุณNINA R.Hirunya


ถนนศุภสารรังสรรค์ สี่แยกใกล้กับ 7-Eleven และ ถนนศุภสารรังสรรค์ สี่แยก หน้าร้านเจ๊เอียด : credit คุณเรวัต 081-2750533 

ถนนนิพัทธ์สงเคราะห์ 1 แยกหน้าไปรษณีย์  และ แยกไปตลาดกิมหยง ลงจากสะพานดำ : credit momiji1987

น้ำท่วมสงขลา                                                              หน้าโรงแรมโนโวเทลระดับน้ำสูงเกือบ 3 เมตร



สถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ น้ำท่วมสงขลา วันที่ 3 พฤศจิกายน ประชาชนติดค้างอยู่ในบ้านหลายหมื่น ขณะที่ความช่วย
เหลือจากภายนอกเข้าไปอย่างยากลำบาก เผยน้ำท่วมรุนแรงสุดในรอบ 70 ปี ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติน้ำท่วมทั้งจังหวัด 16 อำ
เภอแล้ว

ขณะที่ นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัด
สงขลา โดยยอมรับว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชนยังไม่ทั่วถึง เนื่องจากในหลายพื้นที่มีน้ำท่วมขังสูง ประกอบกับมีน้ำ
ไหลเชี่ยว เรือเล็กไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ ต้องใช้เรือที่มีกำลังขับเคลื่อนสูง แต่ก็ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เร่งให้ความช่วยเหลือประ
ชาชนเป็นการเร่งด่วนแล้ว

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ หลังน้ำลดว่า ต้องมีการ
พิจารณาช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ

ทั้งนี้ มีรายงานล่าสุดว่า ที่หาดใหญ่ในหลายพื้นที่ ระดับน้ำลดลงจนเป็นปกติแล้ว  โดยเจ้าหน้าที่และประชาชนกำลังเร่งทำความ
สะอาดเมือง



มท.3 ระดมเจ้าหน้าที่กู้เมืองหาดใหญ่วันนี้

นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ผ่าน เอ็มบี แชนแนล ถึงสถาน
การณ์ในจังหวัดสงขลา โดยยืนยันว่า ในช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการกู้เมือง โดยจะพยายาม  ระบายน้ำออกให้มากที่สุด
โดยเฉพาะในอำเภอหาดใหญ่ และจะพยายามกู้ระบบน้ำประปา ระบบสาธารณูปโภค  และระบบการสื่อสาร ให้สามารถใช้การได้
ในวันนี้

ส่วนในช่วงเช้านี้นั้น ตนเองได้เชิญ ผู้แทนกองทัพภาค 4 และตัวแทนจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมาประชุม
ร่วมกัน ส่วนในจังหวัดอื่นของพื้นที่ภาคใต้ นอกเหนือจากจังหวัดสงขลานั้น เท่าที่รับรายงานขณะนี้ ก็จะมีจังหวัดพัทลุง จังหวัด
นครศรีธรรมราช ที่กำลังประสบปัญหาจากน้ำท่วม ซึ่งได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการไปแล้วด้วยเช่นกัน

ขณะที่ระดับน้ำรอบนอกทางเข้าเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา เริ่มลดลงแล้ว อย่างบริเวณถนนศรีภูวนารถจากแยกคลองหวะ มุ่งหน้า
เข้าตัวเมืองหาดใหญ่ เมื่อวานนี้มีน้ำท่วมขังสูงอยู่ บริเวณทางเข้าสถานีขนส่งเทศบาลนครหาดใหญ่ แต่เช้านี้ ระดับน้ำลดลงมา
อยู่บริเวณปั๊มน้ำมัน ห่างจากจุดเดิมประมาณ 800 เมตร แต่ทางที่มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองหาดใหญ่ ยังคงมีระดับน้ำท่วมขังสูง และมี
ระยะทางเข้าไปถึงตัวเมืองหาดใหญ่ ประมาณ 45 กิโลเมตร

ส่วนชาวเมืองหาดใหญ่ที่อยู่รอบนอกต่างทยอยกันออกมาดูสภาพความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมและจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์
ถึงระดับน้ำที่ลดลง บางคนขี่รถจักรยานยนต์ รถยนต์   เข้าไปสำรวจบริเวณที่มีจุดน้ำท่วมขังไม่สูงมากนัก  นอกจากนี้ ชาวบ้านที่
อยู่บริเวณริมถนนและน้ำเริ่มลดลงแล้ว ได้ออกมาทำความสะอาดบ้านเรือน หลังจากถูกน้ำท่วมขังมา 3-4 วัน

http://upload.tarad.com/images2/ac/4a/ac4ae1e10d9831831872623ca560e5a6.jpg
เรือหลวงจักรีนฤเบศร ถึงสงขลาแล้ว

เมื่อเวลาประมาณ 14.00น.ร.ล.(เรือหลวง)จักรีนฤเบศร ที่เดินทางออกจากท่าเรือสัตหีบวานนี้ ได้เข้าเทียบท่าที่จังหวัดสงขลา
แล้วโดยเบื้องต้นทางกองทัพ จะประสานข้อมูลกับทางจังหวัด  ก่อนว่าจะให้เข้าไปช่วยเหลือที่ไหนอย่างไรบ้าง ทั้งนี้บนเรือมีอุป
กรณ์ให้ความช่วยเหลือครบครัน  รวมถึงโรงพยาบาลขนาดเล็ก   สามารถรับคนไข้ได้อย่างน้อย 15 เตียง และมีโรงครัวประกอบ
อาหารเพื่อสามารถประกอบอาหารสดแล้วส่งให้กับผู้เดือดร้อนได้ทันที โดยเรือหลวงจะทอดสมออยู่ที่ จ.สงขลา เป็นเวลา 5 วัน

สลด! เด็ก 3 ขวบ จมน้ำดับในหาดใหญ่-คนต่อแถวใช้โทรศัพท์สาธารณะ

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ล่าสุดแม้ในหลายพื้นที่จะมีระดับน้ำลดลงแล้วแต่ในตัวเมืองหาดใหญ่
ยังคงมีระดับน้ำท่วมขังสูงถึง 2เมตร และเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง ได้รับแจ้งว่าพบศพเด็กวัย3ขวบ
อยู่บริเวณถนนทุ่งเสาสอง ซอย 2 ใกล้กับร้าน7-11 และขอประสานรถเข้าไปรับศพเด็ก แต่เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังไม่สามารถเข้าไปใน
พื้นที่ได้ เพราะบริเวณดังกล่าวมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงกว่า 1 เมตร

ขณะที่การติดต่อสื่อสารในพื้นที่ ตัวเมืองหาดใหญ่ ล่าสุดยังคงประสบปัญหาเป็นอย่างมากโดยเฉพาะสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่
ทุกระบบ ยังไม่สามารถใช้บริการได้เป็นปกติ เนื่องจากระบบโทรศัพท์ล่ม เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งกู้สัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ทำ
ให้ประชาชนที่จะติดต่อสื่อสารกับบุคคลภายนอกพื้นที่ ต้องใช้บริการโทรศัพท์สาธารณะ ที่ขณะนี้ 
ยังสามารถใช้การได้และมีประชาชนมาต่อแถวใช้บริการตู้โทรศัพท์สาธารณะกันจำนวนมาก

สธ.รับน้ำท่วม รพ.หาดใหญ่ หนักกว่าที่ รพ.มหาราช โคราช

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า   สถานการณ์น้ำท่วมที่ ร.พ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หนัก
กว่า
ที่ ร.พ.มหาราช จ.นครราชสีมา ซึ่งจากสภาพปัญหานั้น ทางกระทรวงสาธารณสุข ได้เร่งดำเนินการ ใน 5 ประเด็น คือ เรื่องไฟฟ้า
โดยในวันนี้ ได้สั่งการให้วิศวกรของกระทรวงลงพื้นที่แก้ไขเรื่องเครื่องปั่นไฟอย่างเร่ง ด่วน ส่วนเรื่องของอาหาร และระบบซักล้าง
ร.พ.สงขลานครินทร์ เป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการ ขณะที่ได้มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยัง ร.พ.สงขลานครินทร์ แล้ว 19 ราย
ซึ่งผู้ป่วยที่เหลือ จะพยายามดูแลอย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกัน เรื่องการปรับรูปแบบการให้บริการ ได้ตั้งหน่วยบริการนอกโรงพยาบาลรวม 12 จุด ทั้งนี้ ยังยอมรับอีกว่าปัญหาที่สำ
คัญ คือ การกู้ชีพผู้ป่วยฉุกเฉิน ที่ยังติดค้างอยู่ตามบ้านเรือน ซึ่งได้เตรียมเรือของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินไว้ เพื่อช่วยเหลือแล้ว

ด่วน! รพ.สงขลานครินทร์ ต้องการเลือดกรุ๊ปโอ

น.พ.บุญประสิทธิ์ กฤตย์ประชา รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ กล่าวยืนยันว่า ทางโรงพยาบาลยังสามารถรอง
รับผู้ป่วย ที่ถูกส่งต่อมารักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ได้ ซึ่งได้มีการแจ้งเตือนไปยัง ร.พ.ใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบจาก
ภาวะน้ำท่วม หากไม่สามารถทำการรักษาผู้ป่วย ก็สามารถส่งต่อมารักษายัง ร.พ.สงขลานครินทร์ ได้     เนื่องจากขณะนี้ทางโรง
พยาบาลมีบุคลากร ทั้งทีมแพทย์และเครื่องมือ พร้อมที่จะทำการรักษาผู้ป่วย  ซึ่งตัวเลขล่าสุดมีผู้ป่วยที่ถูกส่งมาจากโรงพยาบาล
ต่าง ๆ แล้วกว่า 50 ราย

ส่วนสิ่งที่ ร.พ.สงขลานครินทร์ ต้องการในขณะนี้ คือเลือด โดยเฉพาะเลือดกรุ๊ปโอ เนื่องจากโรงพยาบาลยังไม่สามารถติดต่อกับ
สภากาชาดไทยได้ ส่วน ออกซิเจนเหลว สำหรับผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ขณะนี้ทางโรงพยาบาลมีสต๊อกไว้ได้ถึง 10 วัน

ซึ่งทางผู้บริหารของโรงพยาบาลและทีมแพทย์ จะมีการประชุมประเมินสถานการณ์กันทุกวัน วันละ 2 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ได้จัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ จำนวน 2ชุด ให้บริการประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม
อยู่ที่ถนนธรรมนูญวิถี และด้านหน้าธนาคารกสิกรไทย ถนนศุภสารรังสรรค์ อยู่ในเขต อ.เมืองหาดใหญ่

สนามบินหาดใหญ่ ยังเปิดให้บริการปกติ

นายสมชัย สวัสดีผล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่(สายงานวิศวกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศ)(ระดับ11) บริษัท ท่าอากาศ
ยานไทย (ทอท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สนามบินหาดใหญ่ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ แม้จะมีปัญหาน้ำท่วมในบริเวณใกล้เคียงก็ตาม
เนื่องจากพื้นที่สนามบินเป็นที่ดอนจึงไม่ท่วม แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้ก็คือ   ผู้โดยสารไม่สามารถออกจากสนามบินไปยังจุด
หมายปลายทางได้ จึงได้ประสานงานไปยังกองบิน 56 เพื่อนำรถจีเอ็มซีมาขนผู้โดยสารไปส่ง ในส่วนของปริมาณผู้โดยสารสนาม
บินหาดใหญ่ปกติจะมีประมาณวันละ 3,000 คน ขณะนี้ลดลงบ้างเล็กน้อย แต่ก็ยังเดินทางทางเครื่องบินตามปกติ

เผยเจอเสื้อปลัดจะนะที่เรือล่มวานนี้ แต่ยังไม่เจอตัว
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย   เปิดเผยความคืบหน้าการติดตามหาตัว  นายวัชรัตน์ บุญฤทธิ์
ปลัดอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ที่ประสบเหตุเรือล่ม ขณะออกพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน โดยระบุว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาตนเองได้รับ
รายงานจากเจ้าหน้าที่ ระหว่างการประชุมตั้งกองอำนวยการร่วมฯโดยเท่าที่ทราบเบื้องต้นนั้น เจ้าหน้าที่รายงานว่า พบตัวชาวบ้าน
ที่ร่วมประสบเหตุเรือล่มแล้ว ส่วนตัวปลัดนั้น พบเพียงเสื้อที่ใส่ติดตัวไปในวันเกิดเหตุ โดยได้ส่งนักประดาน้ำ เข้าช่วยในการค้นหา
แล้ว

ขณะที่ทางด้าน นายบรรจง ช่วยชู นายอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ยืนยันเช่นกันว่า ยังไม่พบตัวปลัด วัชรัตน์ ซึ่งระดับน้ำยัง คง
มีความลึกอยู่มาก ทำให้ยากในการค้นหาตัว ส่วนชาวบ้านที่ร่วมลงเรือไปด้วยนั้น สามารถช่วยเหลือได้แล้ว โดยพบตัวห่างจากจุด
ที่เรือล่มประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ นอกจากนี้ได้พบศพนายพนม ปานซ้าย ซึ่งเป็นชาวบ้านที่ประสบอุบัติเหตุ พร้อมกับปลัดจะนะ
เสียชีวิตในสภาพจมน้ำที่บริเวณบ้านทุ่งพระ ตำบลป่าชิง อ.จะนะ แล้ว 1 ราย

ม.สงขลานครินทร์ ประกาศหยุดเรียน เปิด 8 พ.ย.

ม.สงขลานครินทร์ หยุดการเรียนการสอนทั้ง 2 วิทยาเขต คือ อ.หาดใหญ่ และ จ.ปัตตานี ตั้งแต่วันที่ 2-5 พ.ย.2553 เนื่องจาก
ประสบเหตุอุทกภัย โดยจะเปิดเรียนในวันจันทร์ที่ 8 พ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม ที่ความเสียหายที่วิทยาเขตหาดใหญ่มีเล็กน้อย   แต่ใน
ส่วนของวิทยาเขตปัตตานี มีต้นไม้ใหญ่ล้มลงกว่า 50 ต้น มีเสาไฟฟ้าล้มลงทำให้ระบบไฟฟ้ามีปัญหา น้ำท่วมที่พักอาศัยของคณา
จารย์ บุคลากร ซึ่งทางมหาวิทยาลัยกำลังหารือเพือเข้าช่วยเหลือคณาจารย์ บุคลากร และนิสิตที่ได้รับความเดือนร้อน

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยได้เปิดสายรับเรื่องความช่วยเหลือจากประชาชนในพื้นที่ที่เดือน ร้อน ผ่านสถานีวิทยุม.อ. FM 88
โทร.074-212948

หาดใหญ่ น้ำเริ่มลด

ช่วงเย็นวันที่ 3 พ.ย.2553 สถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ สงขลา เริ่มคลี่คลาย หลังจากทุกภาคส่วนเข้าช่วยเหลือ โดยเฉพาะการ
นำเครื่องสูบน้ำและเรือท้องแบนเข้าไปให้ความช่วยเหลือ ระดับน้ำล่าสุดเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1.5 เมตร
โดยที่ตลาดกิมหยงและตลาดสันติสุข ระดับน้ำลดเหลือเพียง 50 เซนติเมตร ทำให้ประชาชนสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ระดับหนึ่ง
ส่วนระดับน้ำที่ต้องเร่งระบายนั้น คือบริเวณริมทางรถไฟฝั่งตะวันออกและตะวันตก ซึ่งจะต้องสูบให้เสร็จภายในวันที่ 4พ.ย.เพื่อรอง
รับน้ำที่อาจเอ่อเพิ่มเข้ามาอีกหากฝนตก
ภาพหลังน้ำลดใน อ.หาดใหญ่

แยกหน้าไดอาน่า ถ.ศรีภูวนารถ                                          ช่องเขา ถนนศุภสารรังสรรค์ : credit คุณmomiji1987


ถนนเพชรเกษม วงเวียนน้ำพุ                                             ถนนประธานอุทิศ : credit คุณmomiji1987

น้ำท่วมหาดใหญ่
น้ำท่วมหาดใหญ่




ภาพน้ำท่วมหาดใหญ่ในอดีต

  http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQQ8HYpkWGkgD_hGk55i9G5Orroyyg4EO_IQ2KCv_mqinnJ3KM&t=1&usg=__Fw3fTX25QuiiXnjvuINU1w50Qx8=

 ในอดีต น้ำเคยท่วมหาดใหญ่มาแล้ว เท่าที่จำได้ เมื่อปี พ.ศ.2504,พ.ศ.2509,พ.ศ.2510,พ.ศ.2531และ พ.ศ.254
จากภาพของ การรถไฟแห่งประเทศไทย

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size

Click on the image for full size