วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2557

พิสิทธิ์คิโอ Pishitchio ... นายกฯ จมูกยาว



พิสิทธิ์คิโอ Pishitchio ... นายกฯ จมูกยาว

พิสิทธิ์คิโอ Pishitchio คือ นายกฯหุ่นไม้ ที่ ลุงพีเพ็ทโต ช่างต่อเรือใบอัจฉริยะชรา สร้างขึ้นมา และมีชีวิตจาก
คำลวงล่อขอพรจากฟ้า แต่ก่อนที่ พิสิทธิ์คิโอ จะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนจริงๆ เขาต้องพิสูจน์ความกล้าหาญ ซื่อสัตย์
ต่อเจ้านาย คือ ลุงพีเพ็ตโต ในการผจญภัยที่ยิ่งใหญ่สุดมหัศจรรย์ ...

พิสิทธิ์คิโอ Pishitchio มีลักษณะเด่นที่รู้จักกันดี คือ เมื่อพูดโกหก จมูกของเขาจะยาวขึ้นๆ เรื่อยๆ



แล้ว วันหนึ่ง พิสิทธิ์คิโอ  ก็ถูก จิ้งจอกเทือกเจ้าเล่ห์ กับ หมาเตี้ย หลอกให้ไปที่ ชุมนุมหรรษา ที่นั้นมี "อาหารดี ดนตรีไพเราะ"  
พิสิทธิ์คิโอไม่อยากไป จิ้งจอกเทพเจ้าเล่ห์ กับ หมากระเป๋า จึงต้องฉุด  เมื่อไปถึงจิ้งจอกเทือก ก็ขาย “นายกฯหุ่นไม้” ให้กับ หญิงอ้วน-
หญิงอ้า 2 พี่น้อง 
นอกจาก พิสิทธิ์คิโอ แล้ว ยังมีพวก
เด็กนักเรียน-นักศีกษา ดารา นักร้อง จากค่าย เอ้ย..หมู่บ้านอื่น ถูกหลอกมาเช่นกัน

ที่ ม๊อบหรรษา มีของกินของให้เล่นมากมาย ทั้ง ระเบิดมือ ประทัดยักษ์ เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม-79 ปืนผาหน้าไม้  สั้นยาว เยอะแยะ
...คาร์บอมส์ ก็มีด้วย หุ่นไม้ และมวลมหาประชาฅน ดีใจมาก ทั้งกินขนมทั้งเล่นในสวนสนุก
ชมมหรสพเวทีร้องรำทำเพลง เขมรไล่ควาย
ระบอบทักกี้ออกไป  ด้วยความปลอดภัย จากการคุ้มครองของ 
การ์ดหมาป่าชาติหมาหมู่ ที่แสนดุร้าย น่าเกรงขาม



แต่ ปรากฏว่าเมื่อ มวลมหาประชาฅน กินขนมเข้าไปก็กลายสภาพเป็น "ลา" .. แท้จริง ชายเจ้าเล่ห์ ล่อหลอกให้ มวลมหาประชาฅน
มาสนุกสนาน ต้องการเปลี่ยนให้กลายสภาพเป็น ลาโง่ ทั้งหมด เพื่อเอาไปขายต่อ
ใช้งาน ทำกำไรนั้นเอง และ พิสิทธิ์คิโอ  ก็ได้ กลาย
สภาพเป็น “ครึ่งหุ่นไม้ครึ่งลาโง่” ด้วยเช่นกัน


เมื่อ หลบหนีออกมาได้ พิสิทธิ์คิโอ มาถึงพรรค ก็พบประตูหน้าถูกล็อคไม่มีคนอยู่ พิสิทธิ์คิโอ กับ ชวนี่จิ้งหรีด เดินตามหาที่ริมชายทะเล
ก็บังเอิญพบจดหมายของ ลุงพีเพ็ทโต วางไว้บนเก้าอี้รถเข็น เขียนว่าออกตามหาลูกที่
ชุมนุมม๊อบหรรษา ด้วยเรือใบลำเล็ก แต่โชคร้ายถูก
ปลาวาฬสีน้ำเงิน
กลืนเข้าไปในท้อง
พิสิทธิ์คิโอ และ ชวนี่จิ้งหรีด ได้ติดตามหาพ่อทันที

แล้ว ทั้งคู่ก็ถูก ปลาวาฬสีน้ำเงิน ตัวใหญ่กลืนลงท้อง บังเอิญเป็นปลาวาฬตัวเดียวกับที่ อมเพชร และกลืน ลุงพีเพ็ทโต สองพ่อ-ลูก ได้
พบ
หน้ากันอีกครั้งในท้อง นางปลาวาฬสีน้ำเงินตัวร้าย

                      
          
พิสิทธิ์คิโอ  คิดหาทางออกจากท้องปลาโดยเอาเศษไม้จากเรือมาก่อไฟ เพื่อให้เกิดควัน นางปลาวาฬต้องจามหลายครั้งจนปากเบี้ยว และ
ในที่สุดทั้งหมดก็ได้หลุดออกจากท้องปลาวาฬสำเร็จ นางปลาวาฬตัวร้าย โกรธจัดตามไล่ล่า จนเรือน้อยแตกกระจายเป็นเศษไม้ พิสิทธิ์คิโอ,
ชวนี่จิ้งหรีด และ ลุงพีเพ็ทโต โดนคลื่นซัด จากแรง อาฆาตพยาบาท โดยกำลังของ ปลาวาฬสีน้ำเงิน ไปคนละทิศคนละทางจนลอยถึงชาย
ฝั่งทะเล  Stone Head

ลุงพีเพ็ทโต หันไปเห็นปลาวาฬชนแก่งหินจนได้รับบาดเจ็บ แล้วว่ายตุปัดตุเป๋หัวสั่นกลับสู่ทะเลลึก แต่ พิสิทธิ์คิโอ  นอนแน่นิ่งตายเสียแล้ว
สร้างความเสียใจแก่ ลุงพีเพ็ทโต อย่างมาก เขาอุ้มพิสิทธิ์คิโอ  กลับเข้าไปในบ้าน แล้ววางไว้
บนโต๊ะ ส่วนตัวเขานั่งเอามือทั้งสองข้างปิดหน้าสะอื้นร่ำไห้ อยู่ข้างกายนายกฯหุ่นไม้ รำพึงรำพันกับตัวเอง ว่า
 “ เราทำผิดอารัยหรา พวกเขาจึงจงเกลียดจงชัง ว่ากล่าวทำร้ายเรา” งุงิ งุงิ

                        

คาร์โล คอลโลดิ (Carlo Collodi) นักประพันธ์ชาวอิตาเลียน ผู้ประพันธ์ พินอคคิโอ (อังกฤษ:Pinocchio)
เป็น วรรณกรรมเยาวชนภาษาอิตาเลียน

http://en.wikipedia.org/wiki/Carlo_Collodi

คอลคอลโลดิ ไม่ได้ตั้งใจที่จะเขียนเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องสำหรับเด็ก ตั้งแต่แรกเริ่ม ในเนื้อเรื่องดั้งเดิม นั้น
พินอคคิโอ ถูก จับแขวนคอตาย เนื่องจากทำความผิดนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ได้แก้ไขในฉบับถัดมา ซึ่งตอนจบ
ได้ให้ หุ่นกระบอก นั้นกลายเป็นเด็กที่มีชีวิตจริงๆ  เป็นตอนจบที่เรารู้จักกันดี

            

     
              “ผมอยู่เฉยไม่ได้ ผมต้องหาคำตอบให้กับประเทศ
         ความจริงคือไม่มีฝ่ายใดที่จะได้สิ่งที่ตัวเองต้องการทั้งหมด”