วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

"สงครามกลางกรวย" ประเทศไทย ๒๕๕๗

[​IMG]
สงครามกลางกรวย
ท่านๆเชื่อผม ประเทศสาระน่าขันนี้ ไม่เกิด สงครามกลางเมือง ร๊อก ฟันธง หลายท่านถามเพราะอะไร?

ข้อที่หนึ่ง อุปนิสัยคนไทยไม่ว่าศาสนาไหน เชื้อชาติเผ่าพันธุ์ใดมีมาขยำรวมปนปนอยู่บนดินแดนแหลมทองนับย้อนหลังไป
ซักครึ่งศตวรรษนี้ มิได้ขาดแคลนแร้นแค้นแย่งกันอยู่ชิงกันกิน ... เหมือนในภูมิภาคอื่นของโลก
... อุปนิสัยของคนเหล่านี้ เกิดจากการถ่ายเทขับเคลื่อนสารเหลว ผสมผสานกลมกลืนกันอย่างแนบเนื้อกลมเกี่ยว จึง
ไม่เกิดเป็นคนช่วงชิง เจ้าคิดเจ้าแค้น และไม่โหดเหี้ยมอำมหิต


ข้อที่สอง คนไทยลืมง่าย ใจดีขี้สงสาร มิค่อยอาฆาตพยาบาทจองเวรกัน ชอบเป็นไทยมุง แต่ไม่อยากยุ่งด้วย คือ
พวกเมิงยิงกันไป กรูขอเป็นผู้ชม .. คนเจ็บพาส่งโรงบาล คนตายก็ช่วยหามใส่รถเฮียปอไปส่งวัด จบข่าว กรูเข้าผับไปดริ้งส์กัน
ต่อ เม้าส์มอยกันไปหนุกหนาน

ภาพ ผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนวยหัวกรวย

ข้อที่สาม ลักษณะประจำชาติ ไทยแลนด์โอนลี่ สตอร์เบอแหลแลนด์ ... คือ คนไทยส่วนมากผิวพรรณดี
ผิวสวย
ไม่แตกกระด้างหยาบเหมือนชาติฝรั่งอั้งม้อ หนุ่มสาวไทยผิวเนียนตัวลื่นเอาตัวรอดเก่ง เช่นสมัยสงครามโลก
ครั้งที่2
ยุค เชื่อผู้นำ ป.ชาติพ้นภัย (ป.พิบูลฯ นะจร๊ะ มิใช่ ป.ประตูหลัง) พอเริ่ม สงครามมหาเอเซียบูรพา นำโดย
กองทัพ อาทิตย์อุทัยยุ่นปี่ พี่ไทยเรานำโดย จอมพล ป. ก็ทำเนียนเข้าเป็นพวกกองทัพญี่ปุ่น แลกกับการได้คืนดินแดน
รอบประเทศที่ถูกแฮปไปในสมัยรัชกาลที่ 5
โดยชาติฝรั่งตาน้ำข้าวผิวขาวหยวกนักล่าเมืองขึ้น ... ช่วยกันรบไปรบมากองทัพ
จักรพรรดิเสียทีแพ้สงคราม เอ้าเฮี่ยละซีทีนี้พี่ไทยทำไง ... คิด คิด คิด ยูเรกา ..เสรีไทย นี่ไง ช่วยฝรั่งพันธมิตรรบ
กะฝ่ายอักษะ นี่หว่า
เฮ้ยท่านประธานาธิบดี รูสซาเวล เกล้ากระผมเป็นพวกเดียวกะท่านนา ชาติไทยจึงเป็นฝ่ายชนะด้วย ใน
สงครามนี้ ไชโยโห่ฮิ้ว
... ฝรั่งมันคิดวนไปวนมา เอ้า งง งง เออ ชนะก็ชนะ ... รอดตัวไปเห็นไหม เสรีไทยเดินสวนสนามบนถนนราชดำเนิน
ร่วมชนะสงครามด้วย ซะงั้น อาชญากรสงคราม จอมพลป. และคณะ ถูกกักคุกบรรดาศักดิ์ แพ๊พนึงพอฝรั่งมันเผลอก็นิรโทษ
กรรม รอดตะแลงแกง หัวพ้นเชือกแขวนคอประหาร ซะพันนั้น

ข้อที่สี่ คนไทยเป็นพวกตามแห่ เชื่อข่าวลือลึกลับไสยศาสตร์ เป็นตุเป็นตะอย่างเป็นเอามาก ไม่จำกัดว่าข่าวนั้น
จะมาทางสื่อวิทยาศาสตร์ 3G คือมันเป็นอารัยซึ่งย้อนแย้ง ตามทันเข้าใจป่ะ ..แบบว่า ใช้เครื่องมือวิทยาศาสตร์ทันสมัยไฮ
เทคโนโลยี่ ติดตามข่าวไสยศาสตร์
พะหน่ะ ... แล้วงมงายเชื่อชิบหายวายตุกัง ใครไม่เชื่อ ดักสังเกตุช่วงประมาณ2ทุ่มสิ
เป็นช่วงกลางคืนที่เฮี้ยนแรงส์มาก ตัวอย่างที่๑

หรือ ตัวอย่างที่๒ ขณะที่กำลังเข้า ทฤษฏีสับสนอลหม่าน ไคลแมกซ์น้ำแตกเลือดไหลนอง ก็จะมีคนใดคนหนึ่งตะโกน
ในโรงหนังว่า “ ป.ประชาชน ฆ่า นายหลง ” เอ้ย! ช่างเรียงพิมพ์ผิด ประมาณ “หยุดฆ่ากัน ทะเลาะกันน๊ะเพื่อพ่อ ไม่
งั้นปะป๋าจะเสียใจ แล้วมองเหม่อลอย สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น น้ำตาไหลออกมา ย้อยฮูดั้ง ...ถ้าใครอยากจะฆ่าแกงกันให้
ออกไปนอกบ้านนี้ ไปแกงกันที่ครัวบ้านอื่น เพราะบ้านนี้เป็นบ้านของพ่อ พ่อเหนื่อยมามากแร้วน๊ะเพื่อทู๊กๆคน"

หลังเสียงตะโกนในโรงหนังจบ ทุกคนก็กระเด้งลุกยืนตรงโดยอัตโนเมติก แล้วเปร่งพลังรักคอหอยเกร็งโปร่งสุดเสียง

     “ขอจงทรงพระจรวยยิ่งๆขึ้นไป ชัย โย๊ว” ♪♪ แทม ทะละแล้มแทมแท่มแถ่มแทมแท๊ม ♪ ♪ ♫


[​IMG]
ภาพ การทะเลาะกันบนโตีะอาหารของอภิมหาเศรษฐี 2 ตน
ข้อที่ห้า ถือเป็นประเด็นสำคัญที่จะไม่เกิด สงครามกลางเมือง ใน สารขันฑ์ประเทศ แน่นอน เพราะในสร้างสงครามแต่ละครั้ง
จะต้องมีต้นทุน คือเงินสนับสนุนในการจัดซื้อหา อาวุธยุทธโธปกรณ์ จิปาถะมากมาย ไม่นับตัวแปรภายนอก และต่างชาติสนับสนุน
แน่นอนว่าของฟรีย่อมไม่มีใน โลกดาวเชื้อเพลิงฟอสซิสสีเขียวดวงนี้ ที่อาจจะต้องแลกเปลี่ยนกับสิทธิประโยชน์ในทรัพยากรที่มีและ
จะต้องชนะ ในการทะเลาะกันของ คู่ขัดแย้ง 2อภิมหาเศรษฐีที่ต่างฝ่ายหนุนหลัง กลุ่มชนจัดตั้ง มวลมหาประชาชนฅนหัวกรวย
ฮึ่มฮั่มท้าไฝว้กันอยู่ขณะนี้ ทั้งสองกลุ่มฝ่ายต่างก็มีธุรกรรมธุรกิจ ผูกขาดครอบงำ ประเทศนี้ อย่างมหึมามหาศาล
หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเปิดศึกสงครามกลางเมืองอย่าง ประเทศซีเรีย ณ.ปัจจุบัน ... นึกภาพออกไหมขอรับว่าทั้งสองตระกูลนี้ และ
ขี้ข้าบริวารทั้งหลาย คงได้ฉิบหายๆเป็นแม่นมั่น ธุรกิจผูกขาดครอบงำ เจ๊งพินาศกันทั่วหน้าทั้งสองฝั่ง หมดตรูด ไม่ก็เหลือน้อยลง
จนอาจหมดสภาพ... คนรวยที่ไหนมันจะเสี่ยง ก่อสงครามล่ะครับ มีแต่ เจ๊งกับเจ๊า เก๋าเจ้ง
 
[​IMG]
ภาพ อนุสาวรีย์ประชาธิปตวยหัวกรวย

ทีนี้ เราจะมาอธิบายกันว่า
แล้วที่มีเหตุต่างฝ่ายยิงถล่มกันด้วยอาวุธสงคราม ทั้งลูกยาวและลูกสั้น กลาง กรุงสุเทพพระมหานคร นี่เล่า
จะให้เรียกว่า กระไร ?

ต้องเรียก “สงครามกลางกรวย” ครับท่านที่เคารพ
กรณี ความขัดแย้งนี้ เป็นที่เฝ้าตามติดโดยใกล้ชิด จาก UN องค์การสหประชาชาติ ด้วยความหวั่นวิตกอย่างสูงว่า“กรวยไทยแลนด์ อันเล็กๆนี้ จะลุกลามไปสู่ภูมิภาคอื่นๆของโลก ที่ขนาดกรวยเขาใหญ่กว่า และใหญ่กว่ามาก โดยเฉพาะหากลุกลามไปยัง ดินแดนชาติมุสลิม ด้วยเพราะ กรวยของชนชาติแขกมุสลิมนั้น ทั้งใหญ่และยาวมาก น่าหวั่นวิตก ว่าจะมิอาจควบคุมได้ จนอาจพัฒนามาเป็น กรวยสปริงส์ (Kruoy Spring) เด้งตึ๋งดึ๋ง ดังเช่นกรณี อาหรับสปริงส์ (Arab Spring) ที่ยุ่งยิ่งเป็นลิงแก้แห ซึ่ง ยูเอ็น/เอ็นยู ปวดกบาลยังไม่จบมาจนวันนี้



[​IMG]

ไม่มีความคิดเห็น: