วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2557

เชื้อไขรากเหง้า "กบฏบวรเดช" ที่ยังไม่ตาย ของเหล่าทาสที่ปล่อยไม่ไป



ในภาพ พระองค์เจ้าบวรเดชฯหัวหน้ากบฏ, ดิ่น ท่าราบแม่ทัพกบฏ, สุรยุทธ จุลานนท์หลานตากบฏ,
             เทวดาประมุขกบฏ, สุเทพ เทือกสุบรรณโจรใต้กบฏ, สนธิ ลิ้มทองกุลเจ๊กกบฏ


สถานการณ์ทางการเมืองประเทศนี้ ณ.ปัจจุบัน มันเกินเลยไปกว่า สมานฉันท์แล้วขอรับ

การแบ่งแยกเขตแดน แน่นอนว่าจะยังไม่เกิด แลไม่มีใครอยากจะให้เกิดการแบ่งแยกชาติพันธุ์เชื้อชาติื
ดังประเทศ เกาหลี และเยอรมันนี หรือ อินเดียในอดีต ที่แตกแยกออกมาเป็น ปากีสถาน และ บังคลาเทศ

ท่านที่ติดตามการเมือง ประเทศอันมืดมน นี้มาอย่างใกล้ชิด ต้องทราบและมองเห็นไปในทิศทางที่ไม่แตกต่างกัน
นักว่า สารขัณฑ์ประเทศ กำลังสุ่มเสี่ยงอย่างสูง ที่จะเกิดมิคสัญญี "สงครามกลางเมือง" แม้แต่สัญญาณบ่งบอก
การเตรียมระวังขั้นสูง ของชาติมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา ที่ให้เฝ้าระวังและเตรียมกำลังทหารพร้อมเข้าแทรกแซง
หากมีเหตุการณ์วิกฤติ โดยการร้องขอของ สหประชาชาติ ได้ทันที(ตามคำประกาศ ปธน.บารัค โอบามา)
                    
ตามหัวข้อบทความ
      "ปรากฏการแบ่งแยกรัฐไทย และการปะทะกัน ของไทยจ้าว กับ ไทยไพร่"

ผมสะท้อนให้ท่านๆ ฉุกคิด วิเคราะห์ ต่อยอดตาม
ณ.วัน ว. เวลา น. ถ้ามีการยกกองทหารออกมายึดอำนาจรัฐที่ถูกต้องตาม กม.เมื่อใด
หาก นายกรัฐมนตรี และคณะ ครม.หลีกหนีการถูกควมคุมตัวโดย "คณะทหารผู้ก่อการกบฎ" ไปได้
ก็จะเกิดการต่อสู้ระหว่าง "กองกำลังผสมทหารและพลเรือนอาสาฯฝ่ายรัฐบาล" และ "กองกำลัง
ทหารที่ออกมารัฐประหาร"
(จะโดยการหนุนหลังของผู้ใด จะหวีผมหรือไม่ก็ตาม)

ในกรณีที่ นายกรัฐมนตรี ถูกจู่โจมจับกุมตัว หรือโดนสังหาร ... รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีอันดับต่อๆมา
ก็สามารถ ที่จะจัดตั้ง "รัฐบาลพลัดถิ่น" ได้ในพื้นที่บางส่วนของประเทศที่ปลอดการยึดครอง หรือกระทั่งสามารถ
ตั้งในประเทศพันธมิตรที่ให้การรับรอง ซึ่งไม่ต่ำกว่า50 ประเทศที่ขานรับ รัฐบาลที่ชอบธรรมตามกฏหมาย ในครรลอง
ประชาธิปไตย อันได้การยอมรับในสากลโลก
                               
ที่ลืมเสียมิได้และอย่าได้ลืม คือ ประชาชนของประเทศนี้ได้แตกแยกทางความคิดทางการเมือง
มากว่า 80 ปีแล้วนับแต่ พศ.2475 ระหว่างผู้ศรัทธาจ้าว กับ ผู้ไม่นิยมชมชอบระบอบจ้าว (คณะราษฏร์)

การแบ่งแยกคนทางความคิดอุดมการณ์ คุกรุ่นลุกโชน ขึ้นมาเป็นระยะ ปะทุปะทะ กัน มาอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่ครั้ง กบฏบวรเดช 2476, ตุลาวิปโยค 2516-19, พฤษภาทมิฬ 2535, สงกรานต์เลือดเมษา 2552,
เมษาทมิฬ-พฤษภานรก 2553
  ... เหล่านี้คือ เชื้อไขรากเหง้าที่ยังไม่ตาย ของเหล่าทาสที่ปล่อยไม่ไป บงการ
โดย"ทรราชผู้มั่งคั่ง" ซึ่งเพียรพยายามฟื้นฟู "ระบอบทรราชย์ใหม่"  ขึ้นมาผงาดยิ่งใหญ่อีกครั้ง(ตามฝัน)

 กโลบาย แผนสอดคล้องต้องกันใน ทฤษฏีสมคบคิด (Conspiracy Theory) อาทิ
                  แผนการ ปิดประเทศแช่แข็ง 5 ปี เพื่อ... (อะไรที่แอบแฝง)
                  แผนการ ตั้งสภาปฏิรูปทางการเมือง "เทือกตั้ง" ... (อะไรที่แอบแฝง)
                  แผนการ ฟี้นฟูระบอบ.คืนอำนาจให้บวรเดชฯ สดุดีดิ่น ท่าราบ ... (ถามพวกกรู 'คณะราษฏร์' หรือยัง)                           


                 




            กระซิบข้างหูเบาๆ แก่ "ท่านที่โลกสวย" ทั้งหลายให้ทราบ
            ฝ่ายประชาชน ประชาธิปไตย คราวนี้ ไม่มีวันยอมโดนรุมยิง ล้อมฆ่า แบบคราวก่อนๆ
            วันนี้ มีการฝึกอาวุธ กองกำลังนิรนามนักรบอาสา นับพันๆนายพร้อมรบ ด้วยอาวุธครบมือ
            อย่างลับๆ ในใจกลางประเทศ โดยผู้เชี่ยวชาญ ทหารไทย(ฝ่าย ปชต.)

                            
                 มีการขนอาวุธลำเลียงมาส่งอย่างต่อเนื่อง นำขบวนมาด้วยรถหวอ ?
เพื่อเตรียมรับมือกับ สถานการณ์รัฐประหาร ช่วงชิงทางการเมือง และ การผลัดแผ่นดิน


                       นี่ยังไม่นับ กองกำลังทหาร-ตำรวจ ฝ่ายประชาธิปไตย อีกหลักแสน
                  แหละ ก็ยังไม่รวม "มวลชนแดงเสรีประชาธิปไตย" ไม่สังกัด นปช. นับเกินล้าน


สุดท้าย อยากกล่าวทิ้งไว้ว่า โลกสารขัณฑ์ นี้ไม่สวยอย่างที่ท่านนึกคิดหรอก ขอรับ ไม่มีใครโดยเฉพาะ
ชนสายเลือดเดียวกันที่ต้องการ แล กระหายเลือดอยากมาฆ่าฟันกัน แต่บางสิ่งมันก็จนใจเพราะเกินกว่าจะทัดทาน


           สัญชาติมนุษย์ นั้นมันขัดแย้งรบรากันมาตลอดประวัติศาสตร์
                     โลกสวย ขอรับ แต่สันดานดิบกระหายอำนาจ
                    และโลภโมโทสันของมนุษย์ต่างหากที่มันไม่สวย

                                                                                     รุ่งศิลา

ไม่มีความคิดเห็น: